Mitsubishi เปิดตำนาน Ralliart | The 38th Thailand International Motor Expo 2021 – Motor Expo

Mitsubishi Motors (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส) ได้เรียนรู้ 3 คุณค่าสำคัญจากชัยชนะมากมาย จากการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ทรายการสุดหฤโหด ทั้งการแข่ง ปารีส-ดาการ์ แรลลี และรายการแข่งขันแรลลีชิงแชมพ์โลก โดยหลังการเอาชนะเกมการแข่งขันสุดโหดมาได้นั้น เราได้เรียนรู้ว่ารถยนต์ของเราต้องมี “สมรรถนะชั้นยอด” “ความแข็งแกร่งทนทาน” และ “ความสะดวกสบาย” จึงสามารถคว้าชัยชนะมาครองได้อย่างมั่นใจ ซึ่งดีเอนเอของความเป็นแชมพ์จากการแข่งขันทั้งหมดนี้ ฝังอยู่ในรถยนต์รุ่นปัจจุบันของเรา และ Ralliart (แรลลีอาร์ท) ถือเป็นแบรนด์ที่ดีที่สุดที่สามารถสะท้อนดีเอนเอ และแรงบันดาลใจอันแรงกล้าของ Mitsubishi Motors ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม

“การกลับมาของรถยนต์รุ่น Ralliart จะนำ “จิตวิญญาณแห่งชัยชนะ” มาสู่ลูกค้าชาวไทย ทั้งยังช่วยเพิ่มสีสันให้เจ้าของรถยนต์ Mitsubishi เสริมไปกับประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน และสไตล์การตกแต่งรถยนต์ที่ดูทันสมัย โดยเราอยากจะส่งต่อแรงบันดาลใจของ Mitsubishi Motors นี้ ให้แก่ลูกค้าของเราในประเทศไทยให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ด้วยราคาที่สามารถแข่งขันได้ในตลาด สิ่งสำคัญที่สุด คือ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแบรนด์ Ralliart ที่กลับมาใหม่อีกครั้ง เราจึงอยากใช้โอกาสพิเศษนี้เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ยลโฉมตำนานแชมพ์ Ralliart ตัวจริงเสียงจริง ที่ส่งตรงจาก Mitsubishi Auto Gallery (มิตซูบิชิ ออโท แกลเลอรี) ประเทศญี่ปุ่น ผมหวังว่าทุกคนจะได้สัมผัสประสบการณ์แห่งความตื่นเต้นเร้าใจ และแรงบันดาลใจสำคัญ จากทั้งตำนานแชมพ์เหล่านี้ และรถยนต์รุ่นใหม่พิเศษ Mitsubishi Auto Gallery” เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

รถยนต์รุ่น Ralliart จะวางจำหน่ายใน 3 รุ่นย่อย จากรถยนต์จำนวน 2 รุ่น ที่ขายดีที่สุดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ อย่าง Triton (ทไรทัน) และ Pajero Sport (ปาเจโร สปอร์ท) โดยราคาเริ่มต้นของ Triton Ralliart Maga Cab (ทไรทัน แรลลีอาร์ท เมกาแคบ) อยู่ที่ 667,000 บาท รุ่น Triton Ralliart Double Cab (ทไรทัน แรลลีอาร์ท ดับเบิลแคบ) อยู่ที่ 705,000 บาท ในขณะที่รุ่น Pajaro Sport Ralliart (ปาเจโร สปอร์ท แรลลีอาร์ท) ราคา 1,365,000 บาท

สำหรับภายนอกของ Ralliart มาพร้อมชุดอุปกรณ์ตกแต่งของแท้จากโรงงาน อาทิ ลวดลายสติคเกอร์ด้านข้างตัวรถสีแดง สีเงิน และสีดำ แผ่นกันโคลนสีแดง รวมถึงชุดตกแต่งใต้กันชนหน้าที่มาพร้อมโลโก Ralliart โดยรุ่น Ralliart จะแตกต่างจากรุ่นธรรมดา ด้วยชุดตกแต่งภายนอกสีดำสุดพิเศษ ออกแบบเฉพาะสำหรับกระจังหน้า ล้ออัลลอย และหลังคา สำหรับภายในตกแต่งด้วยพรมปูพื้นจะมาพร้อมโลโก Ralliart ด้วยเช่นกัน

Triton Ralliart

– จะมาในรุ่น Triton ตัวเตี้ย โดยมีให้เลือกในรุ่นย่อย ได้แก่ Maga Cab และ Double Cab ชุดตกแต่งพิเศษประกอบด้วย พื้นปูกระบะท้ายที่มีโลโก Ralliart และมือเปิดกระบะท้ายสีดำ เพิ่มลุคสปอร์ทสุดโฉบเฉี่ยว และเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่ไม่หยุดนิ่ง ของรุ่น Triton ให้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

– สีตัวถังรถ Ralliart มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว Solid White พร้อมหลังคาสีดำ และสีดำ Jet Black Mica

Pajaro Sport Ralliart

Pajaro Sport Ralliart มาพร้อมชุดตกแต่งใต้กันชนหลัง รวมถึงชุดตกแต่งซุ้มล้อสีดำ ที่ช่วยให้ล้ออัลลอย และยางโดดเด่นยิ่งขึ้น อีกทั้งเพิ่มความแตกต่างจากรุ่นธรรมดาด้วยไฟหน้ารมดำ ล้ออัลลอยสีดำราวหลังคาสีดำ เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ และสปอยเลอร์หลังสีดำ ที่ติดตั้งมาสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ เพิ่มความสปอร์ท และสไตล์ที่หรูหราให้แก่ Pajero Sport ได้อย่างลงตัว

– สีตัวถังรถ Ralliart มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีขาว White Diamond พร้อมหลังคาสีดำ และสีดำ Jet Black Mica

ในปีนี้ เพื่อฉลองครบรอบ 60 ปีของ Mitsubishi Motors ในประเทศไทย บริษัทฯ ต้องการพาทุกท่านไปสัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำ พร้อมแสดงความขอบคุณคนไทย ด้วยการจัดแสดงรถยนต์ระดับตำนาน 3 รุ่น ที่เปรียบเสมือนตัวแทนความสำเร็จแห่งยุคสมัยของ Mitsubishi Motors ทั้งในตลาดรถยนต์เชิงพาณิชย์ และสนามการแข่งขันแรลลีระดับโลก ที่งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38” ครั้งนี้ด้วย โดยตำนานรถยนต์ทั้ง 3 รุ่นได้แก่

1) สามล้อรุ่น Leo (ลีโอ) ซึ่งเป็นรถยนต์ Mitsubishi คันแรกที่วางจำหน่ายในประเทศไทย รถยนต์ Mitsubishi สามล้อ Leo วางจำหน่ายครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2502 รถยนต์สามล้อรุ่นนี้ มอบประสบการณ์การขับขี่ในแบบสกูเตอร์ และเป็นรถสามล้อที่มีห้องโดยสารที่ทำจากเหล็กทั้งหมดเป็นครั้งแรก พร้อมติดตั้งที่นั่ง 2 ตำแหน่ง ภายหลังเปิดตัว Mitsubishi Leo ก็ติดอันดับรถยนต์ที่ขายดีที่สุดด้วยยอดการผลิตสูงถึง 1,000 คัน/เดือน จากนั้น Mitsubishi Motors ได้ส่งออก Mitsubishi Leo จากญี่ปุ่นเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ในปี 2504

2) Pajero รุ่นปี 1985 Mitsubishi Pajero ร่วมแข่งขันรายการ Dakar Rally ถึง 26 ครั้ง ระหว่างช่วงปี 2526 – 2552 และสามารถคว้าชัยชนะมาครองได้ถึง 12 ครั้ง สร้างสถิติชนะสูงถึง 50 % ในช่วงเวลาดังกล่าว โดย Pajero รุ่นปี 1985 สามารถคว้าชัยในการแข่งขันประเภทรวมโอเวอร์ออลล์ครั้งแรกในรายการ Dakar Rally และมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะแบรนด์รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายแรกที่สามารถคว้าชัยชนะครั้งใหญ่มาครองได้สำเร็จเมื่อปี 2528 และในปีเดียวกันนั้นเอง Mitsubishi Motors ได้เปิดตัวรถยนต์ต้นแบบ Pajero Montero โดยนำเอาพื้นฐานโครงสร้างแชสซีส์ และตัวถังของรถยนต์ในสายการผลิตที่ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.6 ลิตร รหัส 4G54 ที่มาพร้อมกับเทอร์โบชาร์จ และอินเตอร์คูเลอร์ มีกำลังสูงสุด 225 แรงม้า มาทำการปรับอัตราทดเฟืองท้ายใหม่ จึงส่งผลให้รถต้นแบบนี้สามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 185 กม./ชม.

3) Lancer WRC05 (แลนเซอร์ ดับเบิลยูอาร์ซี 05) พัฒนาต่อเนื่องจากรถยนต์ Mitsubishi Lancer Evolution ซึ่งได้รับสมญานามว่า “เจ้าแห่งสนาม World Rally Championship” โดยรถยนต์รุ่น Mitsubishi Lancer Evolution มาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่ล้ำสมัย ที่รู้จักในนามของ Super All-Wheel Control ที่ได้รับการพัฒนามาจากประสบการณ์การแข่งขันแรลลีชิงแชมพ์โลก เทคโนโลยีดังกล่าวนี้เอง อยู่เบื้องหลังของการคว้าชัยชนะรายการแข่งขันแรลลีชิงแชมพ์โลกของ Mitsubishi Motors ถึง 34 สมัย ระหว่างช่วงปี  2510 – 2551 โดยชัยชนะ 26 ครั้ง จาก 34 ครั้ง มาจากรุ่น Mitsubishi Lancer Evolution ซึ่งโชว์ฟอร์มสุดยอดด้วยชัยชนะติดกันถึง 4 ปีซ้อน ในช่วงปี 2539 – 2542 โดยรุ่น Lancer WRC05 ยังได้เข้าร่วมรายการแข่งขันแรลลีชิงแชมพ์โลก เมื่อปี 2548 ภายใต้กฎข้อบังคับใหม่ของการแข่งขัน รถยนต์รุ่นนี้ได้ถูกพัฒนาอย่างมากในหลายๆ ส่วน อาทิ ขนาดความกว้างของตัวรถที่ขยายกว้างขึ้น ช่วงล่างที่มีความสูงเพิ่มขึ้น เพลาขับใหม่ และทำการปรับแต่งองศาช่วงล่างใหม่หมด เพื่อให้ได้สมรรถนะสูงสุด ระบบควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ใหม่เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด และยังได้ติดตั้งเกียร์กึ่งอัตโนมัติพร้อมชุดคลัทช์ใหม่ จากการผสมผสานของการพัฒนาในจุดต่างๆ และการปรับแต่งอย่างพิถีพิถัน จึงทำให้รถคันนี้มีประสิทธิภาพการขับขี่สูงขึ้น

นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ยังได้จัดแสดงรถยนต์ Mitsubishi Xpander Special Edition (มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์ สเปเชียล เอดิชัน) และ Mitsubishi Pajaro Sport Special Edition (มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท สเปเชียล เอดิชัน) เพื่อเอาใจสาวกคนรักรถยนต์ Mitsubishi ที่ต่างรอคอยการปรับแต่งเพิ่มเติมของรถยนต์ Mitsubishi รุ่นต่างๆ ภายในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38” โดย Mitsubishi Xpander Special Edition มาพร้อมความสปอร์ทแบบพรีเมียมที่เหนือระดับมากยิ่งขึ้น ความแข็งแกร่ง และความโฉบเฉี่ยวอย่างมีสไตล์ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ทุกไลฟ์สไตล์ ลูกค้ายังเพลิดเพลินไปกับระบบความบันเทิงรุ่นใหม่พร้อมหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับ Apple CarPlay (1) และ Android Auto (2) Mitsubishi Xpander Special Edition  มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ที่โดดเด่นสะกดทุกสายตา ได้แก่ สีแดง Spirit Red สีดำ Jet Black Mica และสีขาว Quartz White Pearl  ในขณะที่ Mitsubishi Pajaro Sport Special Edition มาพร้อมกับตัวรถสีแดง Medium Red ที่มีเอกลักษณ์ พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งเพิ่มเติมเพื่อฉลองครบรอบ 60 ปีของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ โดย Mitsubishi Xpander Special Edition และ Mitsubishi Pajaro Sport Special Edition มีวางจำหน่ายในจำนวนจำกัด

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ไม่เพียงแค่มุ่งมั่นที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าเท่านั้น แต่ความพึงพอใจของลูกค้าก็เป็นหัวใจของพันธกิจหลักที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ให้ความสำคัญตลอดมา เราเดินหน้าให้การดูแลบริการลูกค้าอย่างดีที่สุดผ่านเครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์ Mitsubishi ทั้ง 231 แห่งทั่วประเทศ อย่างต่อเนื่อง ทำให้เราสามารถมอบประสบการณ์การดูแลที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า และเราจะยังคงครองตำแหน่งผู้นำด้านบริการการขายและหลังการขาย การันตีคุณภาพด้วย 3 รางวัล จาก 4 รางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมประจำปี 2563 ในด้านความพึงพอใจของลูกค้า

นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ยังคงสานต่อพันธกิจในการสนับสนุนช่วยเหลือสังคมตามหลักสำคัญ 3 ด้าน อันได้แก่ สิ่งแวดล้อม สุขภาพ และการศึกษา ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวไกลไปสู่การเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน สำหรับเป้าหมายด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เรามุ่งมั่นที่จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยผลักดันประเทศไทยไปสู่สังคมคาร์บอนสมดุล โดยมีการริเริ่มโครงการ และกิจกรรมหลายอย่าง เพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ส่งเสริมการลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์อย่างเต็มกำลัง ผ่านโครงการ “ปลูกป่า 60 ปี 60 ไร่” รวมถึงติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาโรงงานที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี จากการใช้พลังงานหมุนเวียนผ่านการติดตั้งแผงโซลาร์ สำหรับทุกโครงการที่ศูนย์การผลิตรถยนต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ตั้งเป้าช่วยลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ลงมากกว่า 6,100 ตัน/ปี

ในส่วนของการพัฒนารถยนต์ ที่มาช่วยตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย)ฯ ได้เปิดตัวรถยนต์ Mitsubishi Outlander PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) รถยนต์พลัก-อิน ไฮบริดระดับพรีเมียม ที่โดดเด่นด้วยสมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม และปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ ในประเทศไทย จากการศึกษาการประเมินการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ ตามวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment-LCA) ของ Mitsubishi Motors Corporation พบว่า ตราบจนปัจจุบัน รถยนต์ประเภทพลัก-อิน ไฮบริด เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เมื่อพิจารณาปริมาณการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เฉพาะจากปลายท่อไอเสียรถยนต์ แต่หมายรวมถึง ทั้งกระบวนการการผลิตทั้งหมด ทั้งจากการผลิตกระแสไฟฟ้า และจากกระบวนการการผลิตรถยนต์อีกด้วย

Mitsubishi Triton Ralliart, Pajaro Sport Ralliart, Xpander Special Edition และ Pajaro Sport Special Edition เปิดให้จองและเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ โดยลูกค้าที่สนใจสามารถเข้ามาเยี่ยมชมที่บูธ Mitsubishi (A07) ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 38” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2564 ณ อาคารชาลเลนเจอร์ 1-3 อิมแพคท์ เมืองทองธานี หรือที่เครือข่ายผู้จำหน่ายรถยนต์ Mitsubishi ทั่วประเทศ