เปิดไทม์ไลน์บึ้มสนั่น โรงงานผลิตเม็ดโฟมย่านบางพลี – Thai News Agency

สมุทรปราการ 5 ก.ค. – เปิดไทม์ไลน์ไฟโรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ล่าสุดมีนักผจญเพลิงบาดเจ็บ 11 คน ชาวบ้าน 15 คน บ้านเสียหาย 70 หลัง รถเสียหาย 15 คัน


เช้ามืดวันนี้เกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อโรงงานโฟมและเม็ดพลาดสติกในพื้นที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เกิดเพลิงไหม้และระเบิดเสียงดังสนั่นปลุกคนในรัศมี 5-10 กิโลเมตร ตื่นขึ้นมา พร้อมกับเห็นแสงเพลิงที่เกิดจากการระเบิดและสภาพความเสียหายของบ้านเรือน เราย้อนกลับไปดูเหตุการณ์ในช่วงนั้นกัน

ภาพและเสียงระเบิดที่ดังสนั่นได้ปลุกให้คนในพื้นที่ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ต้องตื่นขึ้นมาในช่วงเช้ามืดด้วยความตกใจ หลายคนบ้านถูกแรงระเบิดพังเสียหาย อีกหลายคนที่อยู่ไกลออกไปเมื่อได้ยินเสียงต่างหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปเหตุการณ์ไว้ ก่อนที่จะมีการส่งต่อข้อมูลสอบถามกันในโซเชียลถึงที่มาของเสียง กระทั่งมีรายงานว่าเกิดเหตุโรงงานผลิตเม็ดโฟมที่ชื่อว่า “หมิงตี้ เคมีคอล” ซึ่งเป็นบริษัทของไต้หวัน เกิดไฟไหม้ และระเบิดขึ้น

03.10 น. ความโกลาหลได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อรถดับเพลิงกว่า 30 คัน พร้อมอาสากู้ภัย ได้เข้าไปในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือ และค้นหาผู้บาดเจ็บ ท่ามกลางเพลิงที่ลุกไหม้อย่างรุนแรง พร้อมกับเสียงระเบิดดังเป็นระยะ ซึ่งแรงอัดจากการระเบิดทำให้บ้านเรือนและโรงงานนับ 10 โรงที่อยู่โดยรอบเสียหายเป็นวงกว้าง ส่วนเศษซากโรงงานปลิวไปทั่วบริเวณ ทำให้การค้นหาผู้บาดเจ็บเป็นไปอย่างยากลำบาก ขณะที่การฉีดน้ำสกัดเพลิงยังทำได้แค่ควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด แต่ยังดับไม่ได้

การทำงานแข่งกับเวลา กู้ภัยพบคนเจ็บอย่างน้อย 21 คน ส่วนใหญ่ถูกแรงอัดของระเบิดและกระจกที่แตกตกใส่ รวมถึงพบผู้ที่ติดอยู่ใต้โครงสร้างของโรงงาน 1 คน ส่วนรถยนต์เสียหายอีกหลายคัน

07.20 น. นายสมศักดิ์ แก้วเสนา นายอำเภอบางพลี สั่งอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 5 กิโลเมตรของโรงงาน เพราะไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ และกังวลว่าไฟจะลามไปติดถังสารเคมีอีก 30 ตัน ที่เป็นสารไวไฟ และยังหลงเหลืออยู่ในโรงงาน หลังจากถังเคมีขนาด 20 ตัน ระเบิดไปแล้ว ด้านทีมแพทย์ พยาบาล และกู้ชีพ ได้เร่งประสานขอใช้ลานอเนกประสงค์ของมูลนิธิร่วมกตัญญู ตั้งศูนย์คัดกรองผู้บาดเจ็บ และเตรียมพร้อมสำหรับการอพยพ

08.00 น. การอพยพเริ่มต้นขึ้น โดยมีการแบ่งจุดอพยพเป็น 2 แห่ง คือ โรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์ และ อบต.บางพลีใหญ่ ซึ่งการอพยพประชาชนยังไม่ทุลักทุเลเท่าการอพยพผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต เพราะที่นั่นนอกจากจะมีผู้ป่วยเดิม ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจแล้ว ยังมีผู้ป่วยจากโรงงานที่ถูกลำเลียงส่งมาด้วย ทำให้ผู้เกี่ยวข้องต้องมาดูแลท่ามกลางการเฝ้าระวังขั้นสูงสุด พร้อมประกาศใครที่มีนัดตรวจวันนี้ หรือจะมาตรวจโควิด-19 ให้งดเดินทางมาโรงพยาบาลเป็นการชั่วคราว

11.00 น. ผ่านมา 8 ชั่วโมง นับแต่เกิดเหตุ กลุ่มควันจากโรงงานยังพวยพุ่ง และลมได้พัดเป็นทางยาวไกลหลายกิโลเมตร โดยเฉพาะเส้นทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 2 กิโลเมตร มองเห็นควันสีดำได้ชัดเจน ส่วนกลิ่นสารเคมียังส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่

ขณะที่สภาพการจาจรบนถนนกิ่งแก้ว รถติดยาวเหยียดทั้งขาเข้าและขาออก รถกู้ภัย รถเจ้าหน้าที่ รถพยาบาล ต่างหมุนเวียนมาเฝ้าระวังสถานการณ์ และรอรับผู้ที่ยังอพยพออกไปไม่หมด เพราะหลายคนยังห่วงบ้าน และอีกหลายคนแม้ออกไปแล้วก็ขอกลับเข้ามาดูบ้าน ส่วนอีกหลายคนกังวลว่าอพยพมาแบบไม่มีอะไรติดตัว แล้วคืนนี้จะอยู่อย่างไร

12.10 น. กู้ภัยแจ้งข่าวด่วน กำลังถอนกำลังเจ้าหน้าที่ออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด เพราะสถานการณ์ขณะนี้คุมไม่อยู่ เกิดระเบิดปะทุมาอีกรอบ หวั่นเกิดระเบิดซ้ำ ต้องประสานรถโฟมจาก กทม. เข้าคุมสถานการณ์ และต้องกลับมาวางแผนใหม่อีกครั้ง

ด้านอธิบดีกรมควบคุมโรคเตือนประชาชนระวังควันพิษ เพราะเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ และตัวเลขล่าสุดมีนักผจญเพลิงบาดเจ็บ 11 คน ชาวบ้าน 15 คน บ้านเสียหาย 70 หลัง รถเสียหาย 15 คัน

13.00 น. ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ เชิญตัวเจ้าของโรงงานเข้าให้ปากคำกับตำรวจ สภ.บางแก้ว ขณะรถดับเพลิงโฟมและเคมีขนาดใหญ่ของ ปภ. เริ่มทยอยเข้าพื้นที่ และเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขึ้นบินสำรวจความเสียหาย พร้อมเตรียมโปรยสารเคมีเพื่อหวังควบคุมเพลิง

13.30 น. มีรายงานความสูญเสีย นายกรสิทธิ์ ราวพันธ์ อายุ 19 ปี อาสาสมัครกู้ภัย เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กน้องต้าร์ อะไรก้อได้ โพสต์ข้อความว่า “ในนามผู้บังคับบัญชา ขอแสดงความเสียใจ ขอให้น้องไปสู่ภพภูมิที่ดีไปอยู่บนสวรรค์ และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วยนะครับ ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บก็ขอให้หายไวๆ อาสาดับเพลิงไม่มีเงินเดือนเสียสละทุกอย่าง แม้แต่ชีวิตตัวเอง ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแต่มันก็เป็นอุบัติเหตุ ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ”

นอกจากนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Speed leader team โพสต์ว่า “แอดมินรู้จักน้องทั้งในงานด้านอาสา และงานมาแชลที่เป็นลูกทีมของ #runnerService มาช่วยทำงานกันหลายครั้ง หลับให้สบายนะ น้องพอส”

เมื่อเรื่องราวถูกแชร์ออกไปได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้ามาเขียนไว้อาลัยและแสดงความเสียใจกับครอบครัวของน้องเป็นจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม