เผยแพร่:
ปรับปรุง:
แบรนด์ใหม่ล่าสุดที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย “เกรท วอลล์ มอเตอร์” จากจีน เปิดตัวมาพร้อมกับการโหมกระแสสร้างความเข้าใจในแบรนด์ โดยใช้รถยนต์ 2 รุ่นแรก ได้แก่ Haval H6” และ “ORA Good Cat” ในการบุกทำตลาด
ทั้งนี้หลังจากเปิดตัวทั้งสองรุ่นผ่านออนไลน์ ทางเกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้สัมภาษณ์ ทีมผู้บริหาร ถึงมุมมองและทิศทางต่างๆของแบรนด์นี้จะเป็นอย่างไร นำทัพโดย “เอลเลียต จาง” ประธาน และ “สตีเฟ่น หวัง” รองประธาน ฝ่ายขายและการตลาด เกรท วอลล์ มอเตอร์ ภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย พร้อมด้วย “นายณรงค์ สีตลายน” กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย
มุมมองต่อตลาดรถยนต์ไทย
ประเทศไทยนั้นถือว่ามีความพร้อมในด้านทุกด้านสำหรับการเป็นฐานการผลิตยานยนต์ โดยเฉพาะมีผู้ชิ้นส่วนยานยนต์มากมายและมีบุคลากรที่มีคุณภาพในอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงเป็นตลาดที่มีความสนุกในการสร้างสรรค์กลยุทธ์ต่างๆ นอกจากนั้นด้านนโยบายของภาครัฐที่สนับสนุนพลังงานทดแทน และการขับเคลื่อนประเทศด้วยไทยแลนด์ 4.0 การพัฒนาด้านเทคโนโลยี มีความสอดคล้องกับทิศทางของแบรนด์
กลยุทธ์สำคัญ
จะประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ 1 ทำตลาดด้วยรถไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และรถไฟฟ้าชนิดใช้แบตเตอรี่, 2 รับฟังผู้บริโภคในทุกๆด้าน, 3 ใช้แพลตฟอร์มใหม่ เพื่อเชื่อมต่อกับผู้บริโภค โดยจะมีการเปิดตัวรถยนต์ 9 รุ่นใน 3 ปี สำหรับในปีนี้มีจะมีการเปิดตัว 4 รุ่นจากสองแบรนด์ ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้เป็นรถแบบ XEV
เริ่มจากรุ่นแรก ประกอบในประเทศไทย ได้แก่ Havla H6 จะเป็นรถที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้องในการขับเคลื่อน เปิดตัวในช่วงไตรมาสสอง ส่วนอีกหนึ่งรุ่น ORA Good Cat จะเป็นการนำเข้ามาในไตรมาสสี่จากประเทศจีน
ความคาดหวังต่อการตอบรับของลูกค้า
ไม่ได้มองยอดขายเป็นหลักในช่วง 2 ปีแรก อยากทำความรู้จักกับลูกค้าชาวไทย และให้เกรท วอลล์เป็นที่รู้จักของลูกค้าชาวไทยก่อน ซึ่งจากการสำรวจของเกรท วอลล์ ปัจจุบันแบรนด์จีนได้รับการยอมรับจากลูกค้าชาวไทย ค่อนข้างมากโดยเฉพาะในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า
ทั้งนี้ สัดส่วนการตลาดไม่ใช่เป้าหมายหลักในการมาทำตลาดช่วงแรก เนื่องจาก ตลาดรถยนต์ไทยมีการแข่งขันที่สูงมาก ดังนั้นจึงต้องค่อยเป็นค่อยไป
ความพร้อมของโรงงาน
ปัจจุบันมีการเริ่มทดลองไลน์ผลิตแล้ว และจะเริ่มผลิตจริงได้ในไตรมาสสองของปีนี้ โดยจะมีการเข้าร่วมแสดงรถยนต์ในงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งลูกค้าจะสามารถสัมผัสรถจริงได้ โรงงานเฟสแรกมีกำลังการผลิต 80,000 คัน โดยผลิตเพื่อป้อนตลาดในประเทศไทย 60% และส่งออก 40% ซึ่งจะเป็นกลุ่มประเทศที่ใช้พวงมาลัยขวาเช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
เมื่อเริ่มเดินสายการผลิตจริงจะมีการจ้างงานมากกว่า 5,000 ตำแหน่งอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งพนักงานส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานเดิมที่ดูแลโรงงานอยู่แล้ว โดยเกรท วอลล์ มอเตอร์ตั้งเป้าให้โรงงานของไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถพวงมาลัยขวาของภูมิภาคนี้
การลงทุน
เกรท วอลล์ ใช้เงินลงทุนในเฟสแรกเป็นจำนวน 22,600 ล้านบาท โดยจะมีการลงทุนเพิ่มเติมอีกในอนาคต ส่วนกำลังผลิตในช่วงแรกยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แน่นอนว่าการผลิตนั้นวางแผนให้ต้องมีการใช้ชิ้นส่วนจากผู้ผลิตในไทยให้ถึง 45% ซึ่งเป็นผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจไทย
การสนับสนุนจากภาครัฐ
ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้รับใบอนุญาตการสนับสนุนการลงทุนจากบีโอไอมาบางส่วนแล้ว ยังเหลือในส่วนของโครงการรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังรอใบอนุญาตซึ่งคาดว่าจะได้รับในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทย
เกรท วอลล์ มอเตอร์ เข้ามาเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภค และมีแผนสร้างสถานีชาร์จต้นแบบด้วยเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งจะเป็นการลงทุนทั้งจากส่วนของเกรท วอลล์ มอเตอร์เอง และร่วมทุนกับทั้งภาครัฐและเอกชนรายอื่น โดยจะมีการเปิดเผยรายละเอียดอีกครั้งพร้อมกับการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ
ซึ่งเราได้ศึกษาข้อมูลพร้อมกับการทดสอบการใช้งานมาเป็นอย่างดีแล้ว จึงนำรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสมเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย เพื่อตอบสนองได้อย่างตรงความต้องการของลูกค้า อย่างไรก็ตามคงต้องใช้เวลาในการสร้างความเข้าใจและคุ้นเคยให้กับลูกค้าชาวไทย
แผนการจำหน่าย
แผนการเปิดตัวแผนโชว์รูมและศูนย์บริการ รูปแบบใหม่ ในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะไม่เหมือนแบบเดิมที่เคยเห็นกัน โดยจะมีทั้งสิ้น 30 แห่ง เน้นในเรื่องการให้บริการและสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า และจะมีการสร้างศูนย์บริการที่เป็น flagship Service Center ของภูมิภาคนี้ในประเทศไทยอีกด้วย ขอให้รอการแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้งสำหรับรายละเอียดทั้งหมด
ราคา
เกรท วอลล์ มอเตอร์ ไม่คิดจะแข่งกับใคร เราเก็บข้อมูลจากลูกค้าและเลือกผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมมาจากการสนับสนุนของภาครัฐทำให้ราคาของรถEVมีราคาต่ำเป็นพิเศษ ซึ่งในประเทศไทย ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย แต่ขอให้มั่นใจว่า เกรทวอลล์จะเปิดตัว ออร่า กู๊ดแค็ท ในราคาที่ลูกค้าชาวไทยพึงพอใจอย่างแน่นอน โดยจากการสำรวจพบว่าลูกค้าอยากได้รถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท
เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเรียบร้อยสำหรับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ พร้อมกับการส่ง 2 หัวหอกสำคัญลุยตลาดเมืองไทย ท่ามกลางภาวะตลาดที่ดูจะไม่เอื้ออำนวยมากนัก ส่วนผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวไทยขนาดไหน คงต้องจับตาดู