ถ้าให้เปรียบเทียบรถยนต์ 2 ยี่ห้อ ระหว่างฮอนด้ากับเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยที่ไม่มีปัจจัยเรื่องราคาเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นคุณจะเลือกใช้รถยี่ห้อไหนครับ? ผมเชื่อว่ากว่า 90 เปอร์เซ็นต์น่าจะมีคำตอบในใจเหมือนกัน
คงต้องยอมรับว่าหากเป็นรถยนต์ที่ขายอยู่ในโชว์รูมทั่วไป อาจเป็นการ “เปรียบมวย” ที่ไม่ถูกคู่นัก แต่ถ้าเป็นในสนามแข่งเอฟวันปีนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือ รถที่ใช้เครื่องยนต์ฮอนด้า มีโอกาสที่จะเป็นแชมป์โลกเหนือรถเครื่องยนต์เมอร์เซเดส!
ถ้านึกถึงรถฮอนด้าบนท้องถนน Honda NSX คือสุดยอดความแรงของรถญี่ปุ่นตลาดกาลรุ่นหนึ่ง แต่ถ้า “ฮอนด้า” กับเอฟวัน แฟนความเร็วตั้งแต่ยุคผมย้อนขึ้นไป คงต้องนึกถึง ไอร์ตัน เซนน่า และทีมแม็คลาเรน-ฮอนด้า ที่คว้าแชมป์โลกได้ในยุคปลาย 80 ต่อไปถึงต้น 90
ส่วนรถเมอร์เซเดส หรือเบนซ์ แน่นอนว่ามีรถระดับซูเปอร์คาร์หลากหลายรุ่น แต่ถ้านับความสำเร็จบนเวทีเอฟวัน ค่ายรถยนต์จากเยอรมนี อาจไม่เคยประสบความสำเร็จในยุคอดีต แต่นับจากกลับเข้าร่วมเอฟวันในปี 2010 พวกเขาใช้เวลา 4 ปี ขึ้นมาครองแชมป์โลก และผูกขาดยาว 7 ปี ตั้งแต่ปี 2014 มาถึงปี 2020
ผมกำลังเชื่อมไปถึงการแข่งขันฟอร์มูล่า วัน ฤดูกาล 2021 ที่จะปิดฉากตัดสินแชมป์โลกในสนามสุดท้ายที่ อาบู ดาบี สุดสัปดาห์นี้ครับ ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 47 ปี ที่นักขับ 2 คน มีแต้มเท่ากันก่อนสนามสุดท้าย นั่นก็คือแม็กซ์ เวอร์สตัพเพ่น ทีมเรดบูลล์-ฮอนด้า กับลูอิส แฮมิลตัน ทีมเมอร์เซเดส
สถานการณ์ในปีนี้ นักแข่ง และทีมแข่งใดจะเป็นแชมป์โลก คือ สิ่งที่แฟนกีฬาทั่วโลกจับตามอง นอกจากลุ้นว่าจะมีดราม่าเหมือนกับยุค ไอร์ตัน เซนน่า-อแลง พรอสต์ หรือว่าไมเคิล ชูมัคเกอร์-ฌัคส์ วิลล์เนิร์ฟ หรือไม่ ยังเป็นการพิสูจน์ว่า รถเครื่องยนต์ฮอนด้า จะประกาศศักดาเหนือยี่ห้อยุโรป อย่างเมอร์เซเดส ได้หรือไม่
จริงอยู่ครับ องค์ประกอบที่จะทำให้รถไปได้เร็วบนสนามแข่ง ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เครื่องยนต์ที่แรงอย่างเดียว อีกหนึ่งปัจจัยคือตัวรถและการเซ็ตอัปในแต่ละสนามด้วย ทว่าผลลัพธ์สุดท้ายที่ออกมานั้น คนส่วนใหญ่ก็จะมองไปที่ยี่ห้อเครื่องยนต์มากกว่าตัวรถ ซึ่งถือเป็นการต่อยอดมาสู่การทำตลาดรถในโชว์รูมยี่ห้อนั้น ๆ ได้อย่างดี
โดยเฉพาะถ้าทีมเรดบูลล์-ฮอนด้า คว้าแชมป์โลกได้ในปีนี้ (เรดบูลล์ยังมีลุ้นทั้งประเภทนักขับและประเภททีม) ฮอนด้า ในฐานะผู้ผลิตเครื่องยนต์ให้กับทีมแข่ง ก็จะพูดได้เต็มปากว่า ยี่ห้อเครื่องยนต์หนึ่งเดียวจากญี่ปุ่น คว้าชัยเหนือเครื่องยนต์ค่ายยุโรปได้อย่างเบ็ดเสร็จ ทั้งเมอร์เซเดส, เฟอร์รารี่ และเรโนลต์
งานนี้แม้ แม็กซ์ เวอร์สตัพเพ่ จะกุมความได้เปรียบเหนือ ลูอิส แฮมิลตัน หากกรณีทั้งคู่จบการแข่งขันแบบไม่มีแต้มเหมือนกัน แม็กซ์ จะเป็นแชมป์โลก เนื่องจากจำนวนชัยชนะในปีนี้มากสนามกว่า แต่หากขับกับแบบใสสะอาดทั้งคู่ ผมคิดว่าเปอร์เซ็นต์ที่ทั้งคู่จะไม่มีแต้มเกิดขึ้นน้อยมาก ๆ ครับ
บริษัทรับพนันถูกกฎกหมาย ยกให้ แฮมิลตัน แชมป์โลก 7 สมัยจากเมอร์เซเดส มีโอกาสดีกว่า หลังเคยชนะสนามที่อาบู ดาบี มาแล้ว 5 ครั้ง ส่วนแม็กซ์ แม้สถิติเป็นรอง แต่ที่แฟน ๆ พอใจชื้นได้ คือ เขาและทีมเรดบูลล์-ฮอนด้า เพิ่งจะชนะที่นี่เมื่อปีที่แล้ว
สุดท้าย ฮอนด้าหรือเมอร์เซเดส เครื่องยนต์ยี่ห้อใดจะเป็นแชมป์โลกเอฟวันปีนี้ คงต้องลุ้นกันนะครับ ส่วนผมที่ร่ายยาวมาขนาดนี้ ขอปันใจเชียร์ค่ายญี่ปุ่นก็แล้วกันครับ
ผู้เขียน: ธันยเดช เกียรติศิริ