รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทลุง ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.นาขยาด สภ.โคกชะงาย และสภ.ควนขนุน สกัดจับแก๊งเด็กแว้นแข่งรถสร้างความเดือดร้อนรำคาญในพื้นที่ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เมื่อเวลา 01.10 น. วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 พ.ต.ท.นาถพล บุญสนิท รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทลุง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองพัทลุง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์ สภ.นาขยาด เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.โคกชะงาย และเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.ควนขนุน กว่า 20 นาย ร่วมกันสกัดจับกลุ่มเยาวชน หรือกลุ่มเด็กแว้น ที่นัดรวมตัว เพื่อซิ่งรถจักรยานยนต์ป่วนเมือง บนถนนสายเอเชีย ตั้งแต่บริเวณหน้าบริษัทโค้ก บ้านส้มตรีด และบริเวณสี่แยกไฟแดงสถานีขนส่งจังหวัดพัทลุง ตลอดจนถึงเขตรอยต่ออำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง โดยกลุ่มเด็กแว้น จะรวมกันประมาณ 40 ถึง 50 คัน ส่วนใหญ่จะเป็นรถจักรยานยนต์ลักษณะแต่งซิ่ง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีท่อเสียงดัง ซึ่งสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับพี่น้องประชาชนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง
ซึ่งเจ้าหน้าที่วางแผนตั้งจุดสกัด และไล่จับกุมได้รถจักรยานยนต์กว่า 10 คัน พร้อมเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี อีกจำนวนหนึ่ง
พ.ต.ท.นาถพล บุญสนิท รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทลุง เผยว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีกลุ่มเยาวชนนัดรวมตัวกันทุกวันศุกร์ ในเวลา 4 ทุ่มถึงเที่ยงคืนจะมีการรวมกลุ่มของเด็กแว้น ประมาณ 30 – 40 คัน เพื่อขับรถประชันความเร็วกันบนถนน สร้างความรำคาญเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ในละแวกใกล้เคียง และสร้างผลกระทบกับผู้ใช้รถใช้ถนน ตนจึงได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ 4 สภ.วางแผนสกัดจับโดยใช้วิธีการตั้งด่านสกัดและขับรถตระเวนไล่ ซึ่งมีเยาวชนบางส่วนไหวตัว ขับหลบหนีไปได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมและตรวจยึดรถจักรยานยนต์แต่งซิ่งมีเสียงท่อดัง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนได้กว่า 10 คัน พร้อมกับเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี จำนวนหนึ่ง นำส่ง สภ.เมืองพัทลุง และ สภ.นาขยาด เพื่อตรวจสอบหลักฐานในการแจ้งข้อหา ตามความผิด พ.ร.บ.จราจร ส่วนเยาวชนเจ้าหน้าที่จะได้ทำประวัติ ว่ากล่าวตักเตือน และประสานผู้ปกครองมารับกลับ
รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทลุง ยังกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดีท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นี้ จังหวัดพัทลุงถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงทุกอำเภอ โดยขอความร่วมมือให้ผู้ปกครองได้กำชับบุตรหลานไม่ให้นำรถออกมาแว้นซิ่งรวมตัวกัน ซึ่งนอกเหนือจากเป็นการสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้แก่ผู้อื่นแล้ว ยังเป็นการป้องกันความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 นี้อีกด้วย.