ตำรวจขานรับนายกฯ ใช้ก.ม.เฉียบ ปราบเด็กแว้นแข่งรถ เผยสถิติลดฮวบ


This image is not belong to us

สตช. ขานรับ “บิ๊กตู่” ลุยปราบเด็กแว้นซิ่งจยย.แข่ง ย้ำเน้นบังคับใช้กฎหมายเฉียบขาด เผยผลการจับกุม สถิติการแข่งรถในทางหลวงลดฮวบ พร้อมขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแส ขณะที่ ตร.ได้ร่วมมือกับกรมการขนส่ง ฝ่ายปกครอง พม. นำเอาเด็กพฤติกรรมเสี่ยงเก็บข้อมูลในระบบ และนำมาอบรมให้ขับรถถูกต้องตามกฎหมาย

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.63 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ตร. (ศปข.ตร.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการแข่งรถในทางการขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น และมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหานี้ให้หมดไปอย่างสิ้นเชิง

ผอ.ศปข.ตร. กล่าวด้วยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง ตร. (ศปข.ตร.) โดยมอบหมายให้ตนเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ จากการขับเคลื่อนนโยบายพบว่าการรวมกลุ่มของเด็กแว้นเพื่อแข่งรถในทางลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผลการปฏิบัติปราบปรามการแข่งขันรถที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือของประชาชนทุกภาคส่วนในการแจ้งเบาะแสผ่านช่องทางต่างๆ เป็นจำนวนมาก ช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งป้องกันเชิงรุก ปราบปราม ขยายผล และเฝ้าระวัง ส่งผลให้การปฏิบัติมีสถิติลดลงเป็นรูปธรรม

This image is not belong to us

พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ผลการจับกุมตั้งแต่ 27 มิ.ย.62-30 เม.ย.63 ในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1.แข่งรถในทางและขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ และสนับสนุน 1,699 ราย ให้มีการแข่งรถหรือให้ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย 2.ดำเนินคดีบิดามารดาหรือผู้ปกครอง ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก 51 ราย 3.ทำทัณฑ์บนกับบิดา มารดา ผู้ปกครอง ตามคำสั่ง หน.คสช. 28,988 ราย 4.ดำเนินคดี ร้านค้าดัดแปลง รถหรืออุปกรณ์ 99,953 ราย 5.ตรวจพบท่อไอเสียไม่ได้มาตรฐาน 20,982 ราย 6.ความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก และ พ.ร.บ.รถยนต์ ที่เกี่ยวข้อง 711,329 ราย 7.ดำเนินคดีกับ Admin Page (YouTuber 10 ราย) 101 ราย 8.ตรวจยึดรถยนต์ 1,575 คัน รถจักรยานยนต์ 158,251 คัน 9.จัดทำประวัติผู้กระทำความผิดและผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะแข่งรถในทาง 97,954 ราย กรณีจับกุมผู้ต้องหาส่งฟ้องศาล และศาลมีคำสั่งให้ริบรถของกลาง 144 ราย

ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า โดยสถิติการรับแจ้งเหตุของศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 และ 1599 และศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร. จากเดิมมีสถิติการรับแจ้งเหตุทั่วประเทศมากกว่า 1,500 รายต่อเดือน ณ ปัจจุบันเหลือการรับแจ้งเหตุทั้งประเทศไม่ถึง 500 รายต่อเดือน เช่น ในเดือน มิ.ย.ล่าสุดขณะนี้มียอดการรับแจ้งเหตุเพียง 103 ราย โดยเฉพาะในพื้นที่นครบาลซึ่งเคยมียอดการรับแจ้งเหตุในเดือน มิ.ย.2562 ถึง 404 ราย แต่ปัจจุบันมียอดรับแจ้งประมาณไม่เกิน 30 รายต่อเดือน โดยเมื่อเดือน พ.ค.2563 มียอดการรับแจ้งเหตุเพียง 17 ราย ถือเป็นยอดเฉลี่ยการรับแจ้งเหตุแต่ละพื้นที่กองบัญชาการละ 1 เหตุต่อวัน และส่วนใหญ่จะเป็นการแจ้งเหตุขับรถส่งเสียงดังก่อความเดือดร้อนรำคาญ การรับแจ้งเหตุจากประชาชนในเรื่องการรวมตัวเพื่อแข่งรถในทางแทบจะไม่มีแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความพยายามให้ปัญหาเหล่านี้หมดไปจากสังคมไทย จึงยังต้องการได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสถาบันครอบครัว คนใกล้ชิด และสถาบันการศึกษา ต้องคอยเป็นหูเป็นตาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในการแจ้งข้อมูลเบาะแสเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสได้ทางสายด่วน 1599 ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 และส่งคลิปวิดีโอแจ้งข้อมูลเบาะแสที่เกี่ยวข้องให้ตำรวจทราบ ในช่องทางเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร.

This image is not belong to us

พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะได้ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก ฝ่ายปกครอง และ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำเอาเด็ก เยาวชน และผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงในการแข่งรถในทางซึ่งเก็บข้อมูลประวัติไว้ในระบบ CRIMES ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวนทั้งสิ้น 97,954 ราย มาอบรมเพื่อสร้างเสริมทักษะการขับรถให้ถูกต้องตามกฎจราจรและพัฒนาเป็นอาสาสมัครรับใช้สังคมต่อไป โดยอยู่ระหว่างการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในโครงการวิจัยจาก กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กองทุนเลขสวย)

ผบ.ตร. ได้ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน จึงมีนโยบายมอบเงินค่าตอบแทนการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดให้แก่ประชาชน ผลการดำเนินการจ่ายค่าตอบแทนบุคคลภายนอกผู้ให้ข้อมูลข่าวสาร ระหว่างวันที่ 3 ก.ย.62-15 มิ.ย.63 ประชาชนส่งข้อมูลเบาะแสการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง รวม 4,267 ราย ประสงค์ขอรับเงินค่าตอบแทนและเข้าข่ายได้รับเงินค่าตอบแทนจำนวน 19 ราย ซึ่งเบิกจ่ายค่าตอบแทนฯ ให้กับผู้แจ้งเบาะแสทั้ง 19 รายแล้ว เป็นเงิน 57,000 บาท.