จากกรณีภาพเหตุการณ์ที่ชาวบ้านถ่ายไว้ได้ ก่อนจะนำไปมอบให้กับตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เผยถึงการรวมกลุ่มแข่งขันรถยนต์ของกลุ่มวัยรุ่น ที่มักจะมาปิดถนนประลองความเร็วช่วงวันศุกร์-เสาร์ และอาทิตย์ บนถนนสุวินทวงศ์ หน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. พื้นที่ ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนในพื้นที่
หลังทราบเรื่องดังกล่าว พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง ผู้บังคับการตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.พงศ์พัชร์ แจ้งหมื่นไวย์ ผู้กำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา จัดชุดสืบสวนหาข่าวเพื่อติดตามจับกุมกลุ่มนักแข่ง นำโดย พ.ต.ท.สุรเดช นามโยธา รองผู้กำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา และ พ.ต.ท.อิทธิฤทธิ์ สิงห์เปี้ย สารวัตรกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา นำกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวนหาข่าวและแฝงตัวไปยังจุดแข่งขันรถ ก่อนจะสืบสวนในทางลับ
จากการสืบสวนในทางลับพบว่า ในเฟซบุ๊กของผู้ต้องหามีการโพสต์เกี่ยวกับการแข่งขันรถยนต์อยู่เป็นประจำ จนเจ้าหน้าที่ทราบทะเบียนรถยนต์ จำนวน 3 คัน ที่ตรงกันกับคลิปในภาพ ประกอบด้วย 1. รถกระบะโตโยต้าวี โก้ สีแดง หมายเลขทะเบียน บท 4594 อุทัยธานี มีนายนที มีแก้ว อายุ 24 ปี เป็นคนขับ พักอยู่ที่หอพักในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
2. รถกระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมคซ์ สีขาว ลักษณะตู้ทึบ หมายเลขทะเบียน 2 ฒพ 7209 กรุงเทพมหานคร มีนายวศิน เพ็งสะและ อายุ 24 ปี เป็นคนขับ เป็นชาวบ้าน หมู่ที่ 8 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กทม. และ 3. รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมคซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 ขข 1768 กรุงเทพมหานคร มีมนัสชัย เกตุคล้าย อายุ 25 ปี เป็นคนขับ และนายวิชิต ประพันธ์กาญจน์ อายุ 26 ปี นั่งอยู่ในรถ เป็นชาวบ้านย่าน ซอยเคหะร่มเกล้า 19 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. จึงยื่นคำร้องขอหมายค้นต่อศาลอาญามีนบุรี และหมายค้นต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อตรวจค้นและยึดทรัพย์คือรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุแข่งรถในทาง
จนรุ่งเช้าของวันที่ 7 มกราคม 2565 กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดฉะเชิงเทราจึงเดินทางไปยังบ้านเป้าหมายและควบคุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายและรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุมาทำการสืบสวนต่อที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา
พ.ต.อ.พงศ์พัชร์ แจ้งหมื่นไวย์ ผู้กำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ ถูกตำรวจกวดขันเข้มงวดจากหลายพื้นที่ ตั้งแต่มีนบุรี หนองจอก บางน้ำเปรี้ยว ก่อนจะมาร่วมตัวแข่งขันในพื้นที่เมืองฉะเชิงเทรา โดยกลุ่มนี้จะมีการนัดหมายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (เฟซบุ๊ก) ผู้จัดให้มีการแข่งรถในทางสาธารณะ จะมีการส่งลิงก์ไลน์ OpenChat ใต้โพสต์ดังกล่าว จะมีการนัดแนะจุดนัดหมาย พร้อมทั้งเส้นทางการหลบหนี การจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
เมื่อผู้เข้าร่วมแข่งรถในทางแข่งขันกันเสร็จแล้ว ก็จะมีการปิดกลุ่ม OpenChat ที่ตั้งไว้ในทันที แล้วหากจะแข่งรถกันใหม่ ก็จะดำเนินการเช่นนี้เสมอมา ทำให้ยากต่อการติดตามจับกุม โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ถูกตั้งข้อหา แข่งขันรถในทางสาธารณะ ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน พร้อมเสนอต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้มีการริบรถยนต์ของกลางที่ใช้กระความผิด พร้อมนำตัวส่งศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.65).