จับเข่าคุย “แป๊ะ” สนธยา คุณปลื้ม คนกีฬาหัวใจ 'มอเตอร์สปอร์ต'

จับเข่าคุย “แป๊ะ” สนธยา คุณปลื้ม คนกีฬาหัวใจ’มอเตอร์สปอร์ต’

กีฬา “มติชน” มีโอกาสพบเจอกับ “บิ๊กแป๊ะ” สนธยา คุณปลื้ม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา “คนแรก” ของประเทศไทยที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรี และนายกราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยฯ ที่ชาดหาดบางแสน จ.ชลบุรี ในช่วงที่มีการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ “บางแสน กรังด์ปรีซ์” เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

จึงมีโอกาสนั่งคุยสนทนาหลากหลายมุมมองในเรื่องของกีฬา ติดตามกันได้เลย

เรื่องกีฬาชลบุรีช่วงก่อนและหลังโควิด-19

สนธยา คุณปลื้ม : จ.ชลบุรี เป็นเมืองใหญ่ เป็นเมืองที่มีประชากรมากถึง 1.5 ล้านคนไม่รวมนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาที่ชลบุรีอีกประมาณปีหนึ่งมากกว่า 20 ล้านคน อีกทั้งชลบุรีเป็นพื้นที่ที่จัดกีฬาทุกๆ ประเภท ไม่ว่าจะเป็นกีฬาที่แข่งขันกันทั่วไปตามยุทธศาสตร์พัฒนากีฬาจังหวัด ระดับประเทศ ระดับนานาชาติ เพราะฉะนั้นเมืองชล จึงมีคำขวัญสมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรีว่า “เมืองชลคนกีฬา” เพราะเรามองว่าเป็นเมืองที่มีความพร้อมกีฬาทุกๆ ประเภท หรืออีกคำพูดหนึ่งคือ ชลบุรี สามารถเล่นกีฬาได้ตั้งแต่บนฟ้า จนถึงใต้น้ำ ในฐานะที่ผมเป็นนายกสมาคมกีฬา จ.ชลบุรีด้วย จึงต้องส่งเสริมกีฬาในทุกๆ ระดับ ในช่วงก่อนโควิด-19 จะมามีแข่งขันกีฬาหลายๆ ประเภททั้งรถยนต์ การวิ่ง กีฬาทางน้ำ ฟุตบอล ตะกร้อ ฯลฯ แต่ช่วงโควิด-19 กิจกรรมกีฬาเหล่านี้หยุดชะงักไปหมดเพราะเป็นการรวมกลุ่มคนเข้าเมืองชล หรือสามารถจัดได้แต่ไม่มีคนดู ปฏิบัติตามข้อกำหนดของ ศบค. 2 ปีที่ผ่านมากีฬาในชลบุรี ยังคงมีการแข่ง มีการซ้อม แต่เรื่องของความคึกคักจะไม่เหมือนเดิม เช่น รถยนต์ “บางแสน กรังด์ปรีซ์” เราต้องหยุดมา 2 ปีเพราะเราไม่สามารถควบคุมจำนวนคนดูได้ คนเข้ามาดู “บางแสน กรังด์ปรีซ์” ในแต่ละปีมากกว่า 200,000 คน จึงทำให้บรรยากาศกีฬาก่อน และหลัง “โควิด-19” แตกต่างกัน

นโยบายการพัฒนากีฬา จ.ชลบุรี

สนธยา คุณปลื้ม : ในฐานะนายกสมาคมกีฬา จ.ชลบุรี และนายกราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยฯ และเรายังเป็นสมาชิกของสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) เราอยากให้คนไทยที่คิดถึงกีฬาให้มาเมืองชลฯ เล่นได้ตั้งแต่บนฟ้าจนถึงใต้น้ำ เราได้เดินตามยุทธศาสตร์พัฒนากีฬาชาติทั้งส่งเสริมให้กับประชาชน เยาวชน หรือว่าคนทั่วไปได้เล่นกีฬาในทุกๆ ชนิด ทุกๆ ประเภทโดยการดำเนินการของสมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นการส่งเสริมและคัดเลือกตัวเพื่อเป็นนักกีฬาของจังหวัดชลบุรีไปแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาแห่งชาติ กีฬาผู้สูงอายุ กีฬาคนพิการ ซึ่งเป็นกีฬาเพื่อความเป็นเลิศ แต่โดยการทำงานของสมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรี ส่งเสริมกีฬาตามยุทธศาสตร์กีฬาขั้นพื้นฐาน เพื่อมวลชน เพื่อความเป็นเลิศ และเพื่ออาชีพ เรามีนักกีฬาระดับแม่เหล็กทั้งกีฬาเป็นเลิศ ส่วนกีฬาอาชีพเรามีทั้งตะกร้อ วอลเลย์บอล ฟุตซอล รถยนต์ ซึ่งเป็น 1 ใน 13 ชนิดกีฬาอาชีพ

เคยเป็น รมว.กีฬา คนแรกของไทย มองวงการกีฬาปัจจุบันอย่างไร

สนธยา คุณปลื้ม : ปัจจุบันกีฬาเมืองไทยพัฒนาขึ้นไปมาก ในยุคผมที่เข้ามาเป็น รมว.กีฬา คนแรกซึ่งเป็นองค์กรที่เป็นหลักขับเคลื่อนภารกิจเรื่องกีฬา สิ่งที่เห็นคือ วงการกีฬาพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ที่ต้องยอมรับคือ กีฬาอาชีพ ช่วงแรก 13 ชนิดกีฬานำร่อง ซึ่งกระทรวงกีฬา กับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จะต้องส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดกีฬาอาชีพขึ้นมาต่อยอดไปจนถึงการมีอุตสาหกรรมกีฬา เราจะเห็นว่านักกีฬาไทยประสบความสำเร็จในโอลิมปิกเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ ซีเกมส์ ส่วนในจังหวัดชลบุรีเราเด่นในกีฬาทางน้ำ เราจะเห็นว่าเรามีเหรียญทองยูธ โอลิมปิก ในชนิดกีฬาทางน้ำคือ วินด์เซิร์ฟ สิ่งที่เห็นคือ หลังไทยเราตั้งกระทรวงกีฬาขึ้น การขับเคลื่อนวงการกีฬาหรือการพัฒนากีฬามีประสิทธิผล และพัฒนาขึ้นอย่างมาก

มุมมองเรื่องการนำกีฬามากระตุ้นการท่องเที่ยว

สนธยา คุณปลื้ม : “สปอร์ต ทัวริซึ่ม” หรือการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ในชลบุรีเราจะเห็นตัวอย่างชัดเจนจากแข่งรถยนต์ “บางแสน กรังด์ปรีซ์” ครั้งที่ 14 ปีที่ 16 ซึ่งไทยแลนด์ ซูเปอร์ซีรีส์ ซึ่งดำเนินการมาครบรอบ 10 ปี กีฬายานยนต์ซึ่งอยู่ในยุทธศาสตร์กีฬาเพื่อการอาชีพ ในส่วนของทีมงาน 1 คันไม่ต่ำกว่า 5 คน ไม่รวมกับครอบครัว หรือผู้ชม สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเกิดในเรื่องของการเดินทาง เรื่องของการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร สถานบริการต่างๆ จะมีผู้เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก สำหรับ “บางแสน กรังด์ปรีซ์” ในช่วง 5 วันที่จัดแข่งจะมีผู้ชมเข้ามาชมมากกว่า 2 แสนคน ชัดเจนว่า “สปอร์ต ทัวริซึ่ม” มันชัดมากเรื่องของการสร้างรายได้ให้เกิดขึ้น นอกจากนี้เรายังมีรายการใหญ่อย่างวิ่ง “บางแสน ฮาล์ฟ มาราธอน” หรือกีฬาทางน้ำ นั่นจึงเป็นภาพรวมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เม็ดเงินจับจ่ายใช้สอยช่วงที่มีแข่งขันกีฬา

อีก 3 ปีข้างหน้าไทยเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ 2025 ชลบุรี สนใจหรือไม่?

สนธยา คุณปลื้ม : ปัจจุบันนี้เราได้เสนอตัวร่วมกับกรุงเทพมหานครในการเป็นเจ้าภาพจัดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ค.ศ.2025 โดยเมืองชลฯ มีความพร้อมมาก เรามีศูนย์กีฬาทั้งของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) มหาวิทยาลัยกีฬาแห่งชาติ รวมถึงศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก ที่เมืองพัทยาดูแลอยู่ เราเคยเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬารายการใหญ่ๆ มาเยอะ ระหว่างนี้ จ.ชลบุรี เมืองพัทยา จะร่วมมือกับการกีฬาแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการยื่นเสนอตัวจัดแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ต่อจากประเทศกัมพูชา

ความหลงใหลกีฬามอเตอร์สปอร์ต และโลกความเร็ว

สนธยา คุณปลื้ม : มอเตอร์สปอร์ต ทั้งยานยนต์ มอเตอร์ไซค์ เป็นกีฬาที่มีกลุ่มคนชื่นชอบอยู่เยอะ ตัวผมเองจะอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย เพราะชื่นชอบในกีฬาประเภทนี้มาตั้งแต่เด็กๆ ตอนเริ่มขี่จักรยานเป็น ขี่มอเตอร์ไซค์เป็น จนมาขับรถยนต์เป็น เราก็ชื่นชอบในเรื่องของความเร็ว ในช่วงที่ผ่านมา เราจึงมีความเข้าใจกีฬาประเภทนี้มาก พอๆ กับกีฬาชนิดอื่นๆ เพราะเราเป็นคนกีฬา แต่ต้องยอมรับว่า กีฬามอเตอร์สปอร์ตเป็นกีฬาของกลุ่มนักท่องเที่ยวเฉพาะ นิช มาร์เก็ต (Niche Market) ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังในการจับจ่ายใช้สอย จึงได้นำตรงจุดนี้มาปรับและพัฒนา “บางแสน กรังด์ปรีซ์” มาตั้งแต่ครั้งแรกๆ ที่จัดแข่งขันตอบโจทย์เรื่องกีฬาเพื่อการอาชีพ และ “สปอร์ต ทัวริซึ่ม” อีกทั้งเรายังเคยเป็นนักแข่งตรงนี้มา ส่วนสำคัญอีกจุด มอเตอร์สปอร์ตเป็นกีฬาที่ช่วยให้เราได้ฝึกสมาธิ เรื่องการวางแผนในการแข่งขันและปรับมาใช้ในเรื่องของการทำงานได้

จากเส้นทางการเมืองสู่สนามความเร็ว ประสบการณ์ดีๆ และจุดหมายท้าทาย

สนธยา คุณปลื้ม : เป้าหมายของผมคือ ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กีฬายานยนต์ หรือมอเตอร์สปอร์ตในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งขณะนี้เรามีโมโตจีพีแล้ว และเราก็มีการแข่งขันไทยแลนด์ซูเปอร์ซีรีส์ 4 สนาม ซึ่งเป็นรายการที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ตรงนี้จะทำให้ไทยเป็นศูนย์มอเตอร์สปอร์ต มีสนามแข่งรถที่ได้มาตรฐาน ซึ่งปัจจุบันเรามีสนาม FIA เกรด 1 ที่บุรีรัมย์แล้ว เรามี FIA เกรด 3 ที่บางแสนเทียบเท่ากับหลายๆ ประเทศทั่วโลก ในอนาคตเรามีแผนที่จะสร้างสนามแข่งให้ได้มาตรฐานต่อยอดไปช่วยในเรื่อง “สปอร์ต ทัวริซึ่ม” ผลักดันในเรื่องของอุตสาหกรรมกีฬา สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจ

บทบาทนายกราชยานยนต์สมาคมฯ

สนธยา คุณปลื้ม : เรามีหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนกีฬารถยนต์ทุกชนิดรวมไปถึงโกคาร์ท (รถแข่งขนาดเล็ก) เราต้องสร้างให้มีนักขับ นักแข่งมากขึ้น ทั้งบนถนน ทางเรียบ ทางฝุ่น เพื่อที่ทำให้ประเทศไทยเรามีนักแข่งยานยนต์ในทุกระดับ ตั้งแต่เด็ก จนถึงผู้ใหญ่ ซึ่งเราจะขับเคลื่อนเรื่องนี้ต่อ เพื่อดันให้เกิด “สปอร์ต ทัวริซึ่ม”

ความสำเร็จ “บางแสน กรังด์ปรีซ์”

สนธยา คุณปลื้ม : ถ้าเรามองตั้งแต่ปีแรกเมื่อปี 2007 หรือเมื่อ 16 ปีที่แล้ว แรกๆ เรามีรถยนต์ 70 กว่าคัน ปัจจุบันมีนักแข่งมากกว่า 30 สัญชาติมาร่วม จะเห็นได้เลยว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างความคึกคักส่งเสริมการท่องเที่ยว จากสถิติปีแรก บางแสนมีนักท่องเที่ยวประมาณ 8 แสนคนต่อปี แต่ปัจจุบันบางแสนมีนักท่องเที่ยวประมาณ 3 ล้านคนต่อปี ซึ่ง “บางแสน กรังด์ปรีซ์” เป็นหนึ่งในกีฬาที่ช่วยทำให้บางแสนชลบุรีมีชื่อเสียง มีความพร้อมรับนักท่องเที่ยว โดยเนลสัน สปอร์ต ที่มาประเมินเมื่อ 3 ปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวเดินทางมา “บางแสน กรังด์ปรีซ์” ประมาณ 3 แสนคน สร้างเงินหมุนเวียนประมาณ 1,500 ล้านบาท ถือว่าเป็นกิจกรรมที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยอย่างมาก