5 อุปกรณ์เสริมมือถือที่คุณต้องมี ถ้าไม่อยากเสียใจทีหลัง – thaimobilecenter

ในช่วงเทศกาลแบบนี้ หลายคนคงเลือกที่จะให้ของขวัญตัวเองเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่รุ่นที่อยากได้มานาน  หรือได้รับของขวัญเป็นสมาร์ทโฟนจากคนสำคัญ ความรู้สึกตอนได้ของใหม่มักจะน่าตื่นเต้น ทำให้เราอยากแกะกล่องเอาสมาร์ทโฟนออกมาใช้ไวๆ โดยไม่รอซื้ออุปกรณ์เสริม แต่จริงๆ แล้ว การทำแบบนี้อาจจะเสี่ยงเกินไป เพราะอุปกรณ์เสริมบางอย่างก็มีความสำคัญ และควรหามาใช้คู่กันให้เร็วที่สุดเพื่อความสะดวกและความปลอดภัย และนี่คือ 5 อุปกรณ์เสริมมือถือที่คุณต้องมี ถ้าไม่อยากเสียใจทีหลังครับ


1. เคส

เมื่อซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ สิ่งแรกที่ควรหามาใช้คือเคสกันกระแทกเพื่อปกป้องมือถือสุดรักของเราจากรอยขนแมว และการตกกระแทก เพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้เสมอแม้ว่าเราจะระมัดระวังขนาดไหนก็ตาม ถึงแม้เราจะทนใช้มือถือเยินๆ ต่อไปได้ แต่ราคาขายต่อหล่นฮวบแน่นอน ดังนั้นหาเคสดีๆ มาใช้ดีกว่า จะได้ไม่เสียใจทีหลังครับ

ทั้งนี้ เคสมือถือจะมีอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือเคสแฟชั่น และเคสที่กันกระแทกได้จริงๆ ส่วนใหญ่ที่เราเห็นวางขายตามร้านจะเป็นเคสแฟชั่นซึ่งมีสีสันสวยๆ ให้เลือกมากมาย และมีราคาไม่แพง สามารถกันรอยขีดข่วนและกันการกระแทกเล็กๆ น้อยๆ ได้ ส่วนเคสสำหรับกันกระแทกโดยเฉพาะจะมีราคาแพงกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ใช้วัสดุที่ลดแรงกระแทกได้จริง และผ่านการออกแบบมาอย่างดี อีกทั้งยังมีการ drop test มาแล้ว จึงปกป้องมือถือได้ดีกว่าเคสแฟชั่นทั่วไปแน่นอน เพียงแต่อาจจะไม่สวยเท่า ถ้าเป็นไปได้แนะนำว่าควรเลือกเคสที่กันกระแทกได้จริงดีกว่า อาจจะแพงหน่อยแต่อุ่นใจแน่นอนครับ

2. ฟิล์มกันรอย

นอกจากเคสกันกระแทกแล้ว สิ่งที่ต้องรีบหามาใช้คู่กันคือฟิล์มกันรอย ถึงแม้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะติดฟิล์มมาให้จากโรงงานแล้ว แต่มันก็ป้องกันอะไรได้ไม่มากนัก ซึ่งฟิล์มกันรอยก็มีให้เลือกหลายแบบ ทั้งแบบที่เป็นฟิล์มพลาสติก และแบบที่เป็นกระจกกันกระแทก อีกทั้งยังมีทั้งแบบใส แบบด้าน ซึ่งให้ความรู้สึกในการใช้งานที่แตกต่างกันไป ปกติที่ร้านจะมีตัวอย่างของฟิล์มแต่ละแบบให้ดูอยู่แล้ว สามารถเลือกแบบที่ชอบได้เลย แต่ควรเช็คให้แน่ใจว่าสามารถติดได้โดยไม่ไปดันกับตัวเคส และควรเลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถืออย่าง Focus, Hi-Shield หรือ Gorilla เป็นต้นครับ

3. หัวชาร์จ

ปัจจุบันนี้สมาร์ทโฟนหลายรุ่นไม่แถมหัวชาร์จมาให้ในกล่องแล้ว เราจึงต้องหาซื้อหัวชาร์จมาใช้เอง แต่เพื่อความคุ้มค่า ควรเลือกแบบที่จ่ายกำลังไฟ 65W ขึ้นไปเพื่อให้ชาร์จอุปกรณ์ได้หลายๆ แบบ ตั้งแต่หูฟัง, สมาร์ทวอทช์, สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต หรือแม้กระทั่งแล็ปท็อป เรียกได้ว่าอันเดียวใช้ชาร์จได้ทุกอย่าง ไม่ต้องซื้อหลายอันให้เปลืองเงินครับ


4. อุปกรณ์ยึดมือถือในรถ / มอเตอร์ไซค์

หลายคนที่ต้องขับรถอยู่เป็นประจำมักจะใช้สมาร์ทโฟนเป็น GPS นำทาง แขนจับมือถือดีๆ จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะสะดวกและปลอดภัยกว่าการก้มๆ เงยๆ ดูจอแน่นอน ซึ่งแขนจับเหล่านี้ก็มีทั้งที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์ โดยมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันตามฟังก์ชั่นและคุณภาพ ซึ่งแนะนำว่าควรเลือกรุ่นที่จับยึดได้อย่างแน่นหนา และมีคุณภาพดีในระดับหนึ่งเพื่อไม่ให้มือถือร่วงขณะขับขี่ โดยเฉพาะกับผู้ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ เพราะถ้ามือถือเกิดร่วงลงไปปะทะพื้นถนนขึ้นมาก็เตรียมซื้อเครื่องใหม่กันได้เลย

5. อุปกรณ์ลดแรงสั่น (Vibration Dampener)

หากคุณใช้สมาร์ทโฟนดู GPS ขณะขี่มอเตอร์ไซค์เป็นประจำ และสมาร์ทโฟนมีระบบกันภาพสั่น OIS แรงสั่นสะเทือนจากตัวรถอาจทำให้กล้องมือถือพังได้ ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรหาอุปกรณ์เสริมลดแรงสั่นสะเทือน (Vibration Dampener) มาใช้ให้เร็วที่สุด ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้มากพอสมควร สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์มอเตอร์ไซค์ รวมทั้งใน LAZADA และ Shopee โดยมีราคาอยู่ที่ 600 – 700 บาท แม้จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่คุ้มกว่าค่าซ่อมกล้องมือถือแน่นอน 

อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยได้ คือการเปลี่ยนไปใช้สมาร์ทโฟนที่ไม่มีระบบ OIS เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นเกือบทั้งหมดมาจากชิ้นส่วน OIS ที่ขยับมากเกินไปนั่นเอง

และทั้งหมดนี้คืออุปกรณ์เสริมสำคัญที่เราแนะนำว่าควรหามาใช้คู่กับสมาร์ทโฟนให้เร็วที่สุด เพื่อปกป้องตัวสมาร์ทโฟนจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน และเพื่อให้เราใช้งานได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ส่วนอุปกรณ์อื่นๆ อย่างหูฟัง, แท่นชาร์จไร้สาย, การ์ด microSD หรือขาตั้ง ยังไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่นัก ค่อยหามาใช้ทีหลังก็ยังไม่สายครับ

นำเสนอบทความโดย : thaimobilecenter.com


วันที่ : 22/12/2564