ซึ่งไม่เพียงแต่ยอดนักบิดของโลกตัวเป็นๆ จะมารวมกันอยู่ที่บุรีรัมย์ ให้แฟนๆได้ดูกันชัดๆแบบอยู่ติดชิดขอบสนาม ถือว่าได้อารมณ์เหลือหลายหรือใครไม่มีโอกาสนั้น ก็สามารถติดตามการถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง PPTV HD 36 และทรูวิชั่นส์ ตลอดรายการพร้อมๆกับผู้ชมทั่วโลกกันได้
ที่ต้องเน้นเป็นพิเศษก็นักบิดสายเลือดไทยลงแข่ง 2 คนในปีนี้ ทั้ง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จากโครงการฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม เจ้าของหมายเลข 35 จากทีมอิเดมิตสึ ทีม เอเชีย และ “เคเค” เขมินท์ คูโบะ จากยามาฮ่า วีอาร์ 46 มาสเตอร์ แคมป์ แฟนใครแฟนมันเชียร์กันตามสะดวก หรือไม่ก็เชียร์กันทั้งสองคนนั่นแหละ คนไทยด้วยกัน!
และไม่เพียงความมันกับการชิงเจ้าความเร็วในสนาม ที่สนุกและคึกคักไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน เป็นกิจกรรมนอกสนามที่ฝ่ายจัดการแข่งขันเตรียมไว้เพียบตลอด 3 วัน
เริ่มด้วย 30 ก.ย. คอนเสิร์ตจาก “ช้าง มิวสิก คอนเนกชัน” ประเดิมด้วย “สล็อตแมชชีน” และ Rapper ดัง “โจอี้ บอย” ถัดไป 1 ต.ค. มีศึกมวยไทยวิถีอีสานใต้ และคอนเสิร์ตจากศิลปิน กระต่าย พรรณนิภา ปิดท้ายอาทิตย์ที่ 2 ต.ค. พบกับ “โอ๊ต” ปราโมทย์ ปาทาน
ไม่เท่านั้นยังมีกิจกรรมจากผู้สนับสนุนและสินค้ากว่า 100 ร้านค้า พร้อมกับ OR พาวิลเลียนขนาดยักษ์ ซึ่งให้แฟนๆได้ร่วมสนุกมากมาย ทั้งยังสามารถเลือกซื้อของที่ระลึกโมโตจีพี และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับมอเตอร์ไซค์จากค่ายดังมากมาย
ซึ่งมีโอกาสจะพบกับนักบิดระดับโลกจากค่ายต่างๆแบบใกล้ชิดด้วย
แต่ยิ่งใกล้เวลากลับมีเรื่องให้เสียวเล่น ก็คุณพี่พายุ “โนรู” ซึ่งเข้ามาแจมในเมืองไทยในช่วงนี้ด้วย แม้ว่าจะอ่อนกำลังลง
แต่ก็ต้องลุ้นระทึก โดยเฉพาะหลายพื้นที่ที่ประสบปัญหาหนัก น้ำท่วมอยู่แล้ว ก็ยิ่งน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ต้องเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องเราให้ฝ่าฟันผ่านพ้นไปให้ได้
แน่นอน “โมโตจีพีไทย” ที่บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ในโซนจะได้รับอิทธิพลของพายุ แม้จะไม่โดนกระทบโดยตรง แต่อิทธิฤทธิ์ของมันรุนแรงเป็นวงกว้าง ก็ต้องเจอกับผลกระทบด้วย เพียงแต่จะมากหรือน้อยแค่นั้น จริงๆแล้วโมโตจีพีหลายสนามก็เคยเจอกับฝนฟ้ากระหน่ำยังสามารถแข่งขันได้ตามปกติ หวังว่าครั้งนี้จะไม่แรงเกินลิมิตที่นักบิดและสหพันธ์จะตัดสินใจ
รวมถึงแฟนๆที่มีบัตรเรียบร้อย ซึ่งจะต้องเดินทางไปที่นั่น แน่นอนการไปโดยรถต้องมากกว่าเครื่องบินหลายเท่าตัว ต้องเจอกับเรื่องของการจราจรบริเวณรอบๆที่คนเป็นหมื่นไปรวมตัวกัน รวมถึงเส้นทางต่างๆผ่านจังหวัดไหนทางทิศใดเช็กเรื่องน้ำท่วมกันด้วย ขอให้เดินทางไปชมกันอย่างราบรื่น
ไทยเราจัดโมโตจีพีมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อปี 2561 และ 2562 ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ เป็นที่ กล่าวขวัญและชื่นชมไปทั่วโลก ก่อนที่จะระส่ำกับพิษโควิด-19 จนครั้งที่ 3 ต้องเลื่อนออกไปถึง 2 หน ในช่วงเดือน มี.ค. ปี 2563 และเดือน ต.ค.2564 จนมาลงตัวที่ครั้งนี้
ก็หวังว่าเกมใหญ่ประเทศไทยเกมนี้ จะดำเนินไปตามที่วาดหวัง รอชมโมโตจีพี “โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2022” นัดฝ่าพายุ อย่างมีความสุขกันครับ…
“เบี้ยหงาย”