ยังเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัว

1 เมษายน 2564
| โดย บล.ยูโอบี เคย์เฮียนฯ


67

รายละเอียดบางส่วนของแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสหรัฐฯ

หรือ American Jobs Plan มูลค่า 2.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทีมงานของไบเดนได้เปิดเผยบางส่วนของแผน แผนมูลค่า เม็ดเงินลงทุน $621bn ในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม, อีก $580bn สำหรับสนับสนุนภาคการผลิต, $650bn สำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ, ปรับปรุงระบบส่งไฟฟ้า และอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ทั้งนี้แผนการลงทุนดังกล่าวยังรวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆและพลังงานสะอาด ซึ่งผลักดันความต้องการในการใช้โลหะสำหรับการก่อสร้างเช่นเหล็ก ประกอบกับการปิดโรงงานเหล็กที่ไม่มีประสิทธิภาพในจีน ทำให้ราคาเหล็ยังมีโอกาสทรงตัวในระดับสูง ซึ่งเรามองเป็นลบต่อกลุ่มผู้ใช้เหล็กอย่างรับเหมาก่อสร้าง ขณะที่ผลบวกต่อผู้ค้าเหล็กแตกต่างกันไปตามความต้องการที่ต่างกัน // ทั้งนี้รายละเอียดหลายอย่างในแผนยังถูกคัดค้านจากรีพับริกัน โดยเฉพะในส่วนของการปรับขึ้นภาษีนิติบุคคลเป็น 28% (จาก 21%) และภาษีจากผลการดำเนินงานในต่างประเทศเป็นขั้นต่ำที่ 21% (จากเดิม 13%)

ราคาน้ำมันดิบทรงตัวระหว่างรอผลการประชุม ราคาน้ำมันดิบแกว่งตัวเล็กน้อยจากการรายงานตัวเลขสต็อคน้ำมันดิบ และยังคงรอผลการประชุมโอเปคและพันธบัตร แม้จะมีรายงานคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค (JTC) คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะมีการขยายตัว 5.6 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ โดยลดลง 300,000 บาร์เรล/วันจากการคาดการณ์ครั้งก่อน (เป็นการลดในช่วงไตรมาส 2/64) แต่ภาพรวมการใช้น้ำมันยังฟื้นตัวต่อเนื่อง ซึ่งเรามองรายงานดังกล่าวยังสนับสนุนท่าทีที่ซาอุดิอาระเบียยังอาจจะยอมลดกำลังการผลิตของตนเองเพื่อคงกำลังการผลิตรวมไปจนมิ.ย. ดังนั้นเรามองราคาน้ำมันดิบจะยังทรงตัวในระดับสูงเป็นบวกกับกลุ่มพลังงานไปจน พ.ค.-มิ.ย. อย่างไรก็ตามในมุมมองของการเก็งกำไร กลุ่มโรงกลั่นอาจน่าสนใจกว่าพลังงานต้นน้ำ โดย Gasoline spread ปรับขึ้นเป็น 10.73 เหรียญฯ ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ไม่ได้เห็นมาเป็นเวลานาน และบวกกับ SPRC

บรรยากาศยังสนับสนุนการเก็งกำไรรายตัว โดยธีมที่น่าสนใจ ได้แก่ 1) กลุ่มท่องเที่ยว-ธนาคาร จากการผ่อนคลายเศรษฐกิจ และมาตรการออก REIT buy back รวมถึง Asset warehousing เราชอบธนาคารที่ยัง Laggard อย่าง BBL, SCB, AWC, MINT, CPN, BDMS 2) กลุ่มเปิดเศรษฐกิจ บวกต่อ CPN, CRC, MAJOR, SPA, BDMS, M 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) ไฟฟ้าชุมชน เรามองบวกต่อพลังงานทดแทน โดยเฉพาะ ETC และ ACE 5) Re-rating PTG 6) ปันผลและกองรีทส์ ADVANC, BTSGIF, CPNREIT, AIMIRT, FTREIT, EASTW, WHAUP, TTW, TIP 7) กลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ PTT, PTTGC, IVL, TOP ส่วน SCC ยังขึ้นน้อยที่สุดใน 1 ปี ที่ผ่านมา 8) งบไตรมาส 1/64 โดดเด่น ได้แก่ SCC, BANPU, SUPER, TVO, PTT, FTREIT, WHART 9) การเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตร บวกต่อหุ้นประกัน THRE, TIP, BLA

ภาพรวมกลยุทธ์ ยังคงมุมมองบวกต่อภาพระยะกลาง เลือกหุ้นผสมระหว่างฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและทยอยสะสมหุ้นปันผลสูง กองรีทส์ที่มีการถือครองต่ำ รวมถึงหุ้นที่ยังขึ้นน้อย คาดกลุ่มธนาคารพาณิชย์และท่องเที่ยวมีโอกาสฟื้นตัวช่วยประคองจิตวิทยาการลงทุน ขณะที่ระวังการอ่อนค่าของบาท (เงินเหรียญสหรัฐฯแข็งค่า) อาจกระทบต่อกลุ่มโรงไฟฟ้า// หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร SCC*, PTG*, TWPC*, SPRC*

แนวรับ 1,575 / แนวต้าน : 1,600 จุด สัดส่วน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%

ประเด็นการลงทุน

ไฟเซอร์โชว์ประสิทธิภาพในกลุ่มวัยรุ่นอายุ 12-15 ปี. บริษัทไฟเซอร์ อิงค์ เปิดเผยผลทดลองวัคซีนวิด-19 ระยะ 3 ระบุมีประสิทธิภาพ 100% ในการป้องการไวรัสสำหรับวัยรุ่นที่มีอายุอยู่ในช่วง 12-15 ปี

ภาวะเศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ. ฟื้นตัวดีขึ้น. หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนทยอยฟื้นตัวตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้น และได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการภาครัฐ ด้านเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวสูงขึ้นตามการนำเข้าสินค้าทุนที่ปรับดีขึ้น

SAWAD. รุกปล่อยกู้สินเชื่อยานยนต์เต็มรูปแบบ ล่าสุดส่ง SCAP เข้าซื้อหุ้น เอส ลีสซิ่งจำนวน 90% เพื่อลุยสินเชื่อเช่าซื่อรถมอเตอร์ไซด์ใหม่ โดยตั้งเป้าปล่อยกู้ 2 หมื่นล้านบาท เพิ่ม 300%

ประเด็นติดตาม: – 1 เม.ย. : OPEC Meeting, US Initial Jobless Claims, US PMI เดือน มี.ค.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)