ฟุ้งท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง

ท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ยอดที่นั่งโดยสารบินเข้าไทยช่วงฤดูหนาวฟื้นตัวเกิน 50% จากช่วงโควิด-19 และเพิ่มขึ้น 74.2% จากช่วงฤดูร้อน มั่นใจนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2565 เป็นไปตามตัวเลขที่วางไว้ 10 ล้านคน  ขณะที่มาตรการกระตุ้นใช้จ่ายภาครัฐหนุนเศรษฐกิจภูมิภาคฟื้นตัวดีขึ้น จ้างงานเพิ่ม ใช้จ่ายคึกคัก

 เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2565 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภาคการท่องเที่ยวของไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการคาดการณ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เชื่อว่าปริมาณที่นั่งโดยสารในช่วงตารางบินฤดูหนาวปี 2565 จะฟื้นตัวเกินร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับตารางบินฤดูหนาวปี 2562/63  ก่อนช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบข้อมูลดังกล่าว และยินดีที่ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนเป็นสัญญาณบวก สะท้อนการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วของภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของไทย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากข้อมูล  ททท.ระบุว่า ปริมาณที่นั่งโดยสารเครื่องบินที่เดินทางจากต่างประเทศมายังประเทศไทยในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวสุดท้ายของปีนี้ มีจำนวน 573,538 ที่นั่ง/สัปดาห์  เพิ่มขึ้นร้อยละ 74.2 เมื่อเทียบกับช่วงตารางบินฤดูร้อน ซึ่งมีจำนวน 329,288 ที่นั่ง/สัปดาห์ โดยปริมาณที่นั่งส่วนใหญ่มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 211,744 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 60.9 รองลงมาคือเอเชียตะวันออก 175,588 ที่นั่ง/สัปดาห์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 153.7 นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1  มกราคม – 30 กันยายน 2565 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมกว่า 6 ล้านคน และคาดการณ์ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทย ตลอดปี 2565 จะสามารถเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10  ล้านคน

 “นายกรัฐมนตรีมั่นใจว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชนได้บูรณาการดำเนินงานร่วมกัน ในการจัดกิจกรรม แคมเปญ และโครงการที่สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทยในทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง และการดำเนินการเพิ่มเที่ยวบินเข้าไทยให้เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานนี้ทำให้ไทยได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยว ทำให้ในช่วง  High Season ของปีนี้ ไทยจะเป็นประเทศที่มีการเดินทางมาท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวทุกภูมิภาคทั่วโลก” นายอนุชากล่าว

ด้าน น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รายงานภาพรวมเศรษฐกิจภูมิภาคเดือนกันยายน 2565 ของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มีสำนักงานภาค 3 แห่ง ประกอบด้วยสำนักงานภาคเหนือ สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสำนักงานภาคใต้ ได้มีการติดตามและวิเคราะห์ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ทั้งในส่วนของเศรษฐกิจภาพรวม ประเด็นเศรษฐกิจที่สำคัญในภูมิภาค เพื่อใช้ประเมินทิศทางเศรษฐกิจในภูมิภาคให้ครอบคลุมและทันเหตุการณ์ พบว่ามาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐส่งผลให้เศรษฐกิจภูมิภาคโดยรวมทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง ดังนี้

ภาคเหนือ การท่องเที่ยวอยู่ในเกณฑ์ดีต่อเนื่อง สนับสนุนกำลังซื้อและการจ้างงาน เนื่องจากมีแรงหนุนจากการจัดกิจกรรมภายในพื้นที่ เช่น การจัดงานแข่งกีฬาฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ใน จ.เชียงใหม่ และแนวโน้มการท่องเที่ยวในระยะถัดไปยังมีทิศทางที่ดี เพราะเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน สะท้อนจากยอดจองห้องพักล่วงหน้าที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ด้วยการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นสนับสนุนให้เกิดความต้องการแรงงานมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจภาคบริการ ร้านอาหารและโรงแรม ตามกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และการจัดงานอีเวนต์ภายในพื้นที่ที่ทยอยกลับมา 

ภาคอีสาน มาตรการภาครัฐช่วยพยุงการใช้จ่ายและการจ้างงานให้อยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งมีการจัดประชุมสัมมนาในพื้นที่ภาคอีสานเยอะขึ้น และการเดินทางมาร่วมกิจกรรมการแข่งขันรถจักรยานยนต์รายการโมโตจีพี ใน จ.บุรีรัมย์ ช่วงปลายเดือนกันยายน-ต้นตุลาคม จึงทำให้มีการเดินทางคึกคักและการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการแรงงานในพื้นที่ก็เพิ่มขึ้นด้วย แต่ก็มีปัญหาเรื่องการเปิดรับแรงงาน เพราะมีแรงงานทยอยกลับไปยังแหล่งงานเดิมในพื้นที่เศรษฐกิจหลัก เช่น  กทม. ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานต้องการแรงงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภาคอีสานเองและพื้นที่เศรษฐกิจอื่นๆ ด้วย

ภาคใต้ การท่องเที่ยวยังดีต่อเนื่องและมีมาตรการภาครัฐหนุนการใช้จ่าย โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาต่อเนื่อง และกลุ่มประชุมสัมมนาในพื้นที่ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่แนวโน้มการท่องเที่ยวยังขยายตัวต่อเนื่องเพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซัน ที่สะท้อนจากอัตราการจองห้องพักล่วงหน้าที่เพิ่มสูงขึ้น  และการจ้างงานยังมีต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่อง  รายได้ภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ประกอบกับมีมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐช่วยหนุนการใช้จ่ายให้ดีขึ้น

“จากความเชื่อมั่นที่ประชาชนเดินทางไปทำกิจกรรมต่างๆ ในจังหวัดท่องเที่ยว ทำให้จังหวัดอื่นๆ ใกล้เคียงในภูมิภาคนั้นๆ ได้รับอานิสงส์คึกคักตามขึ้นมาด้วย” น.ส.ทิพานันกล่าว.