กรณีคลิปวิดีโอที่หญิงสาวคนหนึ่ง บันทึกไว้เป็นหลักฐานปรากฏภาพของหนุ่มหัวร้อน ซึ่งเป็นแฟนเก่า ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่ย่านซอยประชาอุทิศ ก่อนจะลงมาชกต่อยกับชายอีกคน ซึ่งถูกระบุว่าเป็นแฟนใหม่ โดยมีฝ่ายหญิงคอยห้ามปรามว่า “ขอโทษไปหลายครั้งแล้ว ทำไมยังไม่เลิกหาเรื่องอีก”
ล่าสุดวันที่ 9 ก.พ.65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับ นายรชานนท์ มะนานวม อายุ 20 ปี แฟนใหม่ของหญิงสาวคนดังกล่าว เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (8 ก.พ.65) ขณะที่ตนและแฟนสาวกำลังขี่รถมอเตอร์ไซค์อยู่ในหมู่บ้าน แฟนเก่าของฝ่ายหญิงก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์มาตีคู่ และพยายามจะถีบรถมอเตอร์ไซค์ให้ล้ม ตนจึงตัดสินใจจอดและเขาก็วิ่งเข้ามาทำร้ายตน ซึ่งเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิป
ทั้งนี้ ตนทราบมาตลอดว่าผู้ชายคนนี้ เขามักจะตามระรานตนไม่เลิก เคยขี่รถมอเตอร์ไซค์ไล่กวดตน 7-8 ครั้งแล้ว ที่ผ่านมาตนขี่รถหนีทันตลอด แต่ครั้งนี้ตนทนไม่ไหวจริง ๆ จึงได้จอดและเกิดการปะทะกัน ซึ่งเขาหึงหวงที่ตนมาคบหากับฝ่ายหญิง เพราะเขาเพิ่งจะเลิกกัน 2-3 เดือน แต่เขาก็ยังมีอาการหวงก้าง และเคยพูดเอาไว้ว่า “ถ้าไม่ได้เตะหน้า กูจะไม่ยอมรามือ” อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะจบเรื่องนี้ และไม่อยากมีปัญหากัน ที่ผ่านมา ตนพยายามหลีกเลี่ยงมาโดยตลอด เพราะไม่อยากมีปัญหา ตนก็อยากให้เขาหยุดรังควานตนกับแฟนสาวได้แล้ว
น.ส.อมิตา (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี หญิงสาวคนดังกล่าว ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงที่ตนคบหากับนายอั้ม ซึ่งเป็นแฟนเก่า ตนเคยทำโทรศัพท์เขาพัง หลังจากนั้นก็เลิกกัน เพราะเขาก็ไปติดคุกคดีอาวุธปืน และตนติดต่อเขาไม่ได้ ไม่นานตนก็มาพบรักนายรชานนท์ ซึ่งนายอั้ม ติดคุกไปประมาณ 1 ปี หลังจากที่เขาออกจากคุกมา ตนก็เจอเขาอีกครั้ง แต่เขาก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไล่ และพยายามจะถีบรถให้ล้ม
“มันเคยเกิดเหตุการณ์นี้มาหลายครั้งแล้ว ที่ผ่านมาพยายามหนีเพราะไม่อยากมีเรื่อง เมื่อเขาออกจากคุกก็มาตามระราน คิดว่าเขาน่าจะแค้นที่มามีแฟนใหม่ แต่เขามักจะอ้างว่าที่เขาลงมือทำร้าย เพราะหนูไปทำโทรศัพท์เขาพัง แล้วไม่ยอมจ่ายเงินเขา” น.ส.อมิตา กล่าว
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายอั้ม แฟนเก่าของหญิงสาวคนดังกล่าว กล่าวว่า ตนยอมรับว่าตนขี่รถมอเตอร์ไซค์ไล่ตามพวกเขา 2 คน และมีการชกต่อยกันจริง แต่ระหว่างที่ตนคบกันนั้น เป็นช่วงที่ตนติดคุกประมาณ 1 ปี เพราะถูกจับคดีอาวุธปืน น.ส.อมิตา ก็ยังไปเยี่ยมตนเสมอ และก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะรอตนออกจากคุก แต่สุดท้ายตนมาทราบภายหลังว่า น.ส.อมิตา ไปมีแฟนใหม่ ซ้ำยังเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่โรงเรียนเดียวกับตนอีกด้วย
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่ได้ตามราวีเพราะความหวงก้าง แต่ตนจะตามทวงเงินค่าเสียหายที่ น.ส.อมิตา ทำโทรศัพท์ตนพังเท่านั้น ตนยอมรับว่ารู้สึกโมโห เพราะก่อนหน้านี้เคยพูดคุยกับฝ่ายชายทางโทรศัพท์ อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมที่จะเปิดใจเคลียร์ และอยากจะต่อยตัวต่อตัวเพื่อจบปัญหา เพราะตนไม่ชอบที่ “เป็นรุ่นน้องมาเอาเมียรุ่นพี่ เป็นใครก็รับไม่ได้”