ชกหน้า เตะ “ศรีสุวรรณ” พิษเดี่ยว13 ขณะแถลงข่าวหลังแจ้งความที่บช.ก. (คลิป)

“ศรีสุวรรณ” เจอลุงเสื้อแดงแฝงเป็นนักข่าว บุกชกกลางวงสื่อระหว่างให้สัมภาษณ์เรื่องแจ้งความเอาผิด “โน้ส-อุดม ทอล์กโชว์เดี่ยว 13” สนับสนุนม็อบแขวะรัฐบาล เจ้าตัวปัดป้องพายุหมัดพายุแข้งพัลวัน ก่อนช่างภาพที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าแยก ลุงเสื้อแดงลั่นตั้งใจมาตบสั่งสอน อ้างมีตำรวจฝากตบด้วย ขณะที่ “ศรีสุวรรณ” แฉคู่กรณีเตรียมการวางแผนไลฟ์สด-ชกเสร็จขอบริจาคทันที “แรมโบ้อีสาน” อดีตเหยื่อลุงเสื้อแดงให้กำลังใจ “ศรีสุวรรณ” “เชาว์” ชี้เหตุซึ่งหน้า ตำรวจต้องดำเนินคดี กลับปล่อยให้ขี่ จยย.กลับบ้านเฉย

“เดี่ยว 13” ลามทุ่ง “ลุงเสื้อแดง” บุกชก “ศรีสุวรรณ” กลางวงสื่อครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 ต.ค. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้าพบ ร.ต.อ.ปิยวัฒน์ ปรัญญา รอง สว.กก.3 บก.ปอท. ยื่นเรื่องตรวจสอบการแสดงของ “โน้ส-อุดม แต้พานิช” กรณีพูดล้อเลียนหรือพาดพิงรัฐบาลในทอล์กโชว์เดี่ยวไมโครโฟน 13 นายศรีสุวรรณกล่าวว่า มาแจ้งความดำเนินคดีเนื่องจากถ้อยคำบางคำอาจส่งเสริมให้บุคคลร่วมชุมนุมสาธารณะที่ผิดกฎหมาย อาจขัดต่อความมั่นคงของรัฐและหรือละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่นและหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ประกอบ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 หรือไม่

นายศรีสุวรรณกล่าวต่อว่า ทอล์กโชว์ดังกล่าวมีบางคำพูด อาทิ “วันนี้รถติดเยอะหน่อย มีม็อบไล่คนที่เราอยากจะไล่เขา ก็ให้อภัยเขาไปนะครับ ถือว่าเขาทำงานแทนเรา” จะสื่อความหมายไปอย่างอื่นมิได้ นอกเสียจากการพูดเพื่อที่จะสื่อหรือโฆษณาให้ผู้ฟังหรือผู้ชมเข้าใจตรงกันว่ามีเจตนาหรือจงใจที่จะให้ทุกคนที่รับฟังและรับชมให้อภัยกลุ่มผู้ที่ออกมาชุมนุมสาธารณะที่เกิดขึ้นหลายๆครั้งเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยที่การชุมนุมเหล่านั้นล้วนผิดกฎหมาย สอดไส้เป็นเรื่องการยกเลิก ม.112 และการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ มิใช่การชุมนุมเพื่อขับไล่ผู้นำรัฐบาล

ชกหน้า เตะ

นายศรีสุวรรณกล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผิดต่อแผ่นดิน อาจกระทบต่อความมั่นคง และความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.84 ม.85 และหรือ ม.87 ประกอบ ม.14 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ต้องนำความพร้อมพยานหลักฐานมาแจ้งต่อ บก.ปอท. ให้ตรวจสอบ สอบสวนว่าเข้าข่ายความผิดอาญาแผ่นดินหรือไม่ หากพบว่าเป็นความผิดให้ดำเนินการตามครรลองกฎหมาย ทั้งนี้ โน้ส อุดม เคยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทุกยุคทุกสมัย แต่บางคำพูดที่ยุยงส่งเสริมม็อบ ไม่เห็นด้วย

ระหว่างที่นายศรีสุวรรณยืนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนนั้น เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อนายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล อายุ 62 ปี สมาชิกกลุ่มศักดินาเสื้อแดงต่อต้านเผด็จการที่มาไลฟ์สดรายงานข่าว ทำทีสอบถามประเด็นการร้องเรียนของนายศรีสุวรรณว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดี 8 ปีนายกรัฐมนตรี จะแจ้งความคนเห็นต่างหรือไม่ แต่ยังไม่ทันจะฟังคำตอบ นายวีรวิชญ์ปรี่เข้าไปชกขวาใส่หน้านายศรีสุวรรณ ตามด้วยแข้งขวาเข้าชายโครง ท่ามกลางความตกตะลึงของสื่อมวลชน ขณะที่นายศรีสุวรรณได้ปัดป้องและตอบโต้อยู่ชั่วครู่ ก่อนจะมีช่างภาพสื่อมวลชนที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าห้ามปรามทั้งคู่แยกออกจากกัน โดยนายศรีสุวรรณเดินเข้าไปในอาคารเพื่อแจ้งความกับตำรวจ

ส่วนนายวีรวิชญ์กล่าวกับสื่อมวลชนด้วยอารมณ์ถึงเหตุดังกล่าวว่า ตนคาใจเพราะหลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปม 8 ปีนายกรัฐมนตรี นายศรีสุวรรณออกมาประกาศว่า ใครชุมนุมจะแจ้งความจับให้หมด ตนเป็นคนหนึ่งที่ชุมนุม วันนี้ตั้งใจมาตบเพื่อสั่งสอน มีตำรวจที่รู้จักฝากมาตบด้วย กราบขอโทษตำรวจที่มาทำแบบนี้ เพราะไม่มีโอกาส ตนเฝ้าและแอบดูว่านายศรีสุวรรณจะไปร้องอะไรที่ไหนบ้าง เมื่อเช้าต้องยอมทิ้งงาน ตนอายุ 62 ปี จะเป็นอะไรไม่สนใจ อยากให้เห็นว่า คำว่าประชาธิปไตย ทุกคนต้องยอมรับความเห็นต่าง ประเทศนี้เป็นของประชาชน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ถ้าถูกดำเนินคดีพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จากนั้นนายวิรวิชญ์ได้ขี่รถ จยย. มีหญิงซ้อนท้าย คาดเป็นภรรยา ถ่ายวิดีโอไลฟ์สดไปตลอดทางกลับบ้านย่านประชาสงเคราะห์ โดยมีคอมเมนต์ส่งข้อความมาส่วนใหญ่ให้กำลังใจนายวีรวิชญ์

สำหรับนายวีรวิชญ์เป็นผู้ชุมนุมคณะราษฎร และอดีตผู้ชุมนุมเสื้อแดงปี 53 เคยตกเป็นข่าวเมื่อปีที่แล้ว หลังบุกเดี่ยวไปตบนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายก รัฐมนตรีในขณะนั้น จนเป็นข่าวโด่งดังไปเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของยูทูบ ศักดินาเสื้อแดง ผู้ติดตามกว่า 1.5 หมื่นคน มีคนเข้าชมทุกคลิปรวมเกือบ 3 ล้านครั้ง

ต่อมาเวลา 12.30 น. หลังนายศรีสุวรรณเข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจเสร็จสิ้น ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอีกครั้งถึงเหตุการณ์ถูกบุกทำร้ายว่า มีอาการเจ็บที่ใบหน้า โดยเฉพาะที่บริเวณปลายคาง แต่ก็ไม่เจ็บอะไรมากเท่ากับเจ็บใจ ยืนยันไม่รู้จักคู่กรณี ไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งบาดหมางกันมาก่อน แปลกใจอยู่เหมือนกัน เขาเป็นสื่อมวลชนหรือเปล่า เห็นสอบถามก่อนจะเอียงตัวเข้ามาใกล้ผิดสังเกต ป้องกันตัวได้ทัน เห็นชัดว่าตั้งใจมาทำร้าย เตรียมตัววางแผนมาเป็นอย่างดี มีทีมมาไลฟ์สด หลังเกิดเหตุมีคนส่งลิงก์มาให้ดู เลยรู้ว่าหลังก่อเหตุเสร็จยังไลฟ์สดประกาศรับเงินสนับสนุน ค่อนข้างชัดเจน หลังจากนี้จะไป สน.พหลโยธิน เพื่อขอใบส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล นำมาประกอบพยานหลักฐานแจ้งความเอาผิดข้อหาทำร้ายร่างกาย และจะเร่งให้เสร็จสิ้นทุกอย่างในวันนี้

นายศรีสุวรรณกล่าวอีกว่า เขาบอกเป็นกลุ่มประชาธิปไตย แต่กลับทำร้ายร่างกายคนอื่น การกระทำช่างย้อนแย้ง เช่นเดียวกับการชุมนุมทางการเมืองมีความรุนแรงมาโดยตลอด โดยเฉพาะกลุ่มม็อบที่ทำลายทรัพย์สิน สร้างความเดือดร้อนรำคาญ เป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย จากนี้จะเพิ่มความระมัด ระวัง และพาเพื่อนไปด้วยมากขึ้น ยอมรับเป็นบทเรียนสำคัญ ยืนยันไม่มีคำว่าท้อจะทำหน้าที่ต่อไป ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล ส่วนเรื่องเดี่ยว 13 ของโน้ส-อุดม ไม่จบแค่นี้ ยังมีอีกหลายช็อตที่ต้องตามต่อ ส่วนกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ไม่อยากเอาเรื่องกรณีเดี่ยว 13 เป็นเรื่องของท่าน แต่ส่วนของตนยังดำเนินการต่อไป

ขณะที่ ร.ต.อ.นิพนธ์ สกุลเพชรอร่าม รอง สว. (สอบสวน) สน.พหลโยธิน กล่าวหลังนายศรีสุวรรณเดินทางมาแจ้งความเอาผิดคู่กรณีมือชกว่า เบื้องต้นสอบปากคำนายศรีสุวรรณ ก่อนจะทำหนังสือส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิต ให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยก่อนจะออกหมายเรียกคู่กรณีมารับทราบข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดี ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปจะมี ความรู้สึกว่าชกต่อยกันปรับแค่ 500 ก็จบกัน แต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ต้องรอผลแพทย์ประกอบ บาดเจ็บสาหัส หรือไม่สาหัส คู่กรณียอมให้ปรับหรือไม่ ถ้าไม่ยอมให้ปรับจะต้องทำสำนวนส่งฟ้องให้อัยการต่อไป

วันเดียวกัน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ อีสาน อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมนายวีรวิชญ์ อดีตผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง เท่าที่ตรวจสอบชายคนนี้เคยมีพฤติกรรมชอบใช้ความรุนแรง ในอดีตเคยบุกเข้ามาที่ตึก กพร.สมัยที่ตนทำงานอยู่ หวังเข้ามาทำร้ายตน แต่ตนรู้ทันเลยป้องกันตัวรอดมาได้ พฤติกรรมชอบโชว์ความรุนแรงก้าวร้าวต่อหน้าสื่อ เรียกร้องความสนใจ แม้จะมีคนที่ชอบและไม่ชอบนายศรีสุวรรณ แต่มองว่าไม่ควรที่จะไปใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นเช่นนี้ นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังอาจจุดชนวนให้สังคมเกิดความแตกแยกได้ และอาจเป็นแบบอย่างให้สังคมสร้างความรุนแรงได้อีก ที่ผ่านมานายศรีสุวรรณ ถือว่าทำตามหน้าที่ของตนเอง และทำตามกติกา เมื่อเห็นใครอะไรในสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ไปยื่นหนังสือตรวจสอบเท่านั้น คนส่วนใหญ่เข้าใจตรงนี้ แต่ขอให้กำลังใจนายศรีสุวรรณ ทำหน้าที่ตรวจสอบสิ่งที่ไม่ถูกต้องในบ้านเมืองและพิทักษ์คุณธรรมต่อไป

ขณะที่นายเชาว์ มีขวด ทนายอาสาและอดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์โพสต์เฟซบุ๊กในหัวเรื่อง “ต่อย ‘ศรีสุวรรณ จรรยา’ สะท้อนบริบทการเมืองไทยมากกว่าเรื่องกฎหมาย” ใจความสรุปว่า นายวีรวิชญ์ให้สัมภาษณ์อย่างภูมิใจหลังก่อเหตุชกต่อยนายศรีสุวรรณ จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์กลับ โดยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่ดำเนินคดี ทั้งที่เป็นความผิดซึ่งหน้า แปลกใจเพราะคดีทำร้ายร่างกาย ไม่ใช่คดีความผิดส่วนตัว เป็นคดีอาญาแผ่นดิน พฤติ การณ์ตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุ และเห็นเหตุการณ์สดๆ แต่ไม่จับกุม ทั้งที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ สุ่มเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีหากมีใครกล่าวโทษ กองบัญชาการสอบ สวนกลางต้องสอบสวนเรื่องนี้และดำเนินการอย่างจริงจังกับเจ้าหน้าที่ที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่อย่างที่ควรจะเป็นด้วย ทั้งนี้ สื่อมวลชนไม่ควรโหมประโคมข่าว หรือสัมภาษณ์ผู้ก่อเหตุ จะยิ่งเป็นการขยายผลให้ตรรกะในการแก้ปัญหาบิดเบี้ยวไป