Royal Enfield จัดแข่งแต่งรถคัสตอม

Royal Enfield ปิดฉากการแข่งขัน Busted Knuckles Build-Off ซีซัน 2 ซึ่งเป็นหนึ่งในการแข่งขันแต่งรถจักรยานยนต์ที่โด่งดังที่ สุดของแบรนด์ โดยตัวแทนจำหน่าย 5 ราย จากประเทศออสเตรเลีย และประเทศนิวซีแลนด์ได้ปรับแต่ง Royal Enfield 650 Twins  และ Himalayan ให้กลายเป็นรถจักรยานยนต์คัสตอมที่มีสไตล์สวยเท่ พร้อมบ่งบอกถึงตัวตนของตัวเองอย่างมีศิลปะไปด้วยในเวลาเดียวกัน

thumbnail

Ric Steele เป็นเจ้าของธุรกิจ และตัวแทนจำหน่าย Royal Enfield มาตั้งแต่ปี คศ. 2015 ริกกล่าวว่า Interceptor ใหม่ นั้นเหมาะสำหรับการปรับแต่งให้เป็นรถจักรยานยนต์แนว Scrambler มาก ด้วยตำแหน่งของเบาะ และแฮนด์บาร์ที่ทางโรงงานจัดไว้ให้ตั้งแต่ต้น รวมถึงการเป็นที่นิยมในหมู่นักโต้คลื่นฝั่งตะวันตก ในยุควัฒนธรรมการโต้คลื่น และพักผ่อนหย่อนใจบนหาดทรายในรัฐแคลิฟอร์ เนีย คศ. 1960 “Regency” Interceptor 650 Twin Scrambler สามารถวิ่งได้จริงบนทุกถนน มาพร้อมอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ ที่เข้าชุดกันอย่างลงตัว

thumbnail (1)

Revelry Cycles Sydney เริ่มจำหน่ายรถจักรยานยนต์ Royal Enfield เมื่อปี คศ. 2014 โดยดำเนินธุรกิจมากว่า 10 ปี แล้ว “Rev Elation” 650 Twin Salt Racer คันนี้ผ่านการปรับแต่งมาให้เป็นรถจักรยานยนต์แนว Salt Racer ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ในประเทศสหรัฐ อเมริกา เมื่อสร้างฟเรมขึ้นใหม่ทั้งหมดเสร็จแล้ว งานที่ยากยิ่งกว่าอย่างการเติมสารพัดชิ้นส่วนสำหรับเพิ่มความเร็วเข้าไปก็เริ่มขึ้น ตามมาด้วยการเพิ่มความจุของเครื่องยนต์จาก 650 เป็น 960CC พร้อมชุดกระบอกสูบขนาดใหญ่ของ S&S และเพลาข้อเหวี่ยงขนาดใหญ่ขึ้น นอกจากนี้ยังมีชุดลิ้นปีกผีเสื้อที่ Revelry สร้างขึ้นเอง ระบบเกียร์แบบ Air-Shift และท่อไอเสียคัสตอมที่ให้เสียงดัง

thumbnail (3)

Lincoln Smart เป็นเจ้าของ Fast Fuel Motorcycles ในเขตเมืองแฝด อัลเบอรี-โวดองกา “Dr. No” GT 650 Twin Cafe Racer  ที่ทางลินคอล์นนำเข้าแข่งขันใน Busted Knuckles Build-Off ซีซันล่าสุดนี้ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในรถจักรยานยนต์แนว Cafe Racer ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่ Fast Fuel Motorcycles เคยคัสตอมมา โดยลินคอล์นทำการปรับชุดแต่งรอบคันจาก C-Racer ในประเทศกรีซก่อนนำไปประกอบเข้ากับตัวรถ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาตรงกับที่เขานึกภาพไว้มากที่สุด “ตัวรถมาพร้อมไฟเบรกที่รวมเข้ากับชิ้นส่วนบริเวณท้ายรถ แต่เพราะเราต้องการภาพลักษณ์ที่ดูโฉบเฉี่ยว เราจึงดัดแปลงให้ดูมีความมินิมอลมากขึ้น” ส่วนท่อไอเสียนั้นลินคอล์นใช้ของที่ผลิตในประเทศออสเตรเลีย และมีความคิดจะทำเป็นแนวแดรกในตอนแรก แต่สุดท้ายเขาก็เห็นด้วยกับความคิดของซัพพลายเออร์ที่ว่าท่อไอเสียแนว Racer จะทำให้ภาพรวมของตัวรถดูแตกต่าง โดดเด่นกว่า อีกทั้งให้เสียงดีกว่า

thumbnail (2)

Royale Motorcycles เลือกนำการแข่งขัน Royal Enfield “GT Cup” Production Racing series ที่ประเทศอินเดียมาเป็นแรงบัน ดาลใจในการปรับแต่ง No. 55 GT 650 Production Racer ให้คล้ายคลึงกับรถจักรยานยนต์แนวสปอร์ท และเมื่อผู้คนนึกถึงรถจักร ยานยนต์แนวสปอร์ท ก็อาจจะคิดว่านั่นเป็นอะไรที่ห่างไกลจาก GT Enfield’s แต่ GTS นั้นก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถแนว Cafe Racer ในการแข่งขัน The Isle of Man TT ในยุค 50 และ 60 ด้วยเช่นกัน และนั้นก็นับว่าเป็นรถจักรยานยนต์แนวสปอร์ทในยุคนั้น ดังนั้นการสร้างนักแข่งสมัยใหม่จาก 650 Twin จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ล้อขนาด 17 นิ้วได้รับการติดตั้งด้วยยางรถแข่งจาก Pirelli Diablo ที่ด้านหลัง นอกจากนั้น ทางทีมยังได้ติดตั้งระบบท่อไอเสียเพื่อระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ โดยได้เลือกท่อจาก HP Corse สุดเท่เพื่อเพิ่มกลิ่นอายความเป็นรถแข่ง และเสียงที่ดีขึ้นของเครื่องยนต์ และเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายขึ้นอีกระดับ ตัวโครงของรถจักรยานยนต์จึงทำจากเหล็กไม่ใช่อลูมิเนียม เพื่อให้การโมดิฟายด์ GT’S Bones ง่ายขึ้นสำหรับร้านรับทำงานคัสตอมทั่วไป รวมถึงผู้ขี่ที่อยากจะคัสตอมเอง

thumbnail (4)

ทีม Surfside ได้ช่วยกันผนึกกำลังทำให้ “No. 40” Himalayan 650 Twin สำหรับ Busted Knuckles Build-Off ซีซันล่าสุดนี้ เป็นอีกหนึ่งตำนานที่ผู้คนจะจดจำ โดยผู้คนต่างตื่นเต้น และคาดเดากันไปมาก แต่ไม่มีใครเคยเห็นได้เห็นเลย ตั้งแต่เครื่องยนต์ 650 Twin ออกสู่ตลาดในปี คศ. 2018 ตัวรถมีชุดขยายความจุจาก S&S ขนาด 856CC และมี Hallam Engineering ในเมืองเมลเบิร์นคอยดูแลด้านการออกแบบ ซึ่งตัวรถจักรยานยนต์ได้เปลี่ยนชุดวาล์วที่ใหญ่กว่าเดิม และแคมของ Hallam นอกจากนี้ทีมยังได้ติดตั้งลิ้นปีกผีเสื้อขนาดใหญ่ และท่อจาก Verex โดยรถจักรยานยนต์จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 182 กก. พร้อมของเหลว และสามารถทำแรงม้าได้มากกว่า 70 แรงม้า เพื่อให้รถจักรยานยนต์คันนี้สมบูรณ์แบบมากขึ้น ตัวถังอลูมิเนียมใหม่ของ Tommy ได้รับการเสริมด้วยยาง  Mitas แบบออฟโรด สวิงอาร์มที่ยาวขึ้น การเปลี่ยนชอคเดี่ยว และชอค YSS ปิดท้ายด้วยหน้าปัด Garmin Montana 700I สุดเจ๋งพร้อมปุ่ม SOS

อนุจ ดัว หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค Royal Enfield กล่าวว่า งานคัสตอมรถจักรยานยนต์ที่มีมายมายในตลาดเอเชียแปซิฟิคเป็นการตอกย้ำว่ารถจักรยานยนต์ Royal Enfield เป็นรถจักรยานยนต์ที่เหมาะสำหรับการปรับแต่งคัสตอมเป็นอย่างมาก จากที่เราเห็นมา ตัวแทนจากประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์นั้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่มีความสามารถด้านการสร้างสรรค์ผลงานคัสตอมมากที่สุดในโลก สิ่งที่ทำให้การแข่งขัน Busted Knuckles Build-Off ซีซัน 2 พิเศษก็คือ การที่ตัวแทนจำหน่ายของเราเข้ามาเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของการจัดงาน เนื่องจากเรามีนักขี่ไฟแรงมากมายในประเทศออสเตรเลีย และประเทศนิวซีแลนด์ เราจึงมีกลุ่มผู้ชื่นชอบการปรับแต่งรถจักรยานยนต์ที่ใหญ่ โดยการคัสตอมรถนั้นเปรียบเสมือนการเสริมบุคลิกภาพของผู้ขับขี่ไปในตัวอีกด้วย ด้วยโครงสร้างที่เรียบง่าย และไม่ซับซ้อน รถจักรยานยนต์ของเราจึงเหมาะสำหรับการออกแบบและแสดงความสร้างสรรค์อันเป็นเอกลักษณ์ส่วนบุคคลของผู้แต่งรถคัสตอมที่เก่งที่สุดทั่วโลกเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งนอกจากการตีความหมายผลงานออกแบบที่สวย งามแล้ว ทาง Royal Enfield ยังได้มีส่วนผลักดันการสร้างสรรค์ที่สามารถกำหนดแบบเองได้ในแง่ของความสามารถด้วยเช่นกัน โดยในประเทศออสเตรเลีย เรามีผลงานคัสตอมมากกว่า 25 แบบแล้ว และเราเชื่อว่าโปรแกรมคัสตอมของเราเป็นการเปิดโอกาสให้ ผู้สร้างได้สำรวจความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาอย่างแท้จริง ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้อื่น และผู้ที่ชื่นชอบรถจักรยาน ยนต์อีกด้วย