เริ่มที่การจับกุมในพื้นที่ตำรวจภูธร ภาค 1 มี พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปแถลงผลการกวาดล้างจับกุม ระหว่างวันที่ 11 – 20 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงหลังสิ้นสุดการใช้มาตรการเคอร์ฟิวควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเริ่มเปิดเมือง พบว่ามีการร้องเรียนน้อยลงกว่าเดิม จากที่เคยมีมากถึง 1,000 ราย เหลือเพียง 400 ราย ต่อเดือน อย่างไรก็ตาม สามารถจับกุมเด็กแว้นได้ 922 คน, ผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงจะเป็นเด็กแว้น หรือกองเชียร์ ได้ 9,411 คน, แอดมินเพจชักชวนแข่งรถ 13 คน, ดำเนินคดีผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลย 1 คน, ทำทัณฑ์บนกว่า 2,500 คน ยึดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ได้กว่า 19,000 คัน เข้าตรวจค้นร้านที่รับดัดแปลง หรือแต่งรถกว่า 26,000 ราย ยึดท่อไอเสียไม่ได้มาตรฐานกว่า 3,300 อัน
ตำรวจภูธรภาค 2 นอกจากจะจับกุมเด็กแว้นแล้ว ยังรวมไปถึงการจับกุมผู้ที่รวมกลุ่มขับขี่รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ท่องเที่ยวในลักษณะก่อความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนทั่วไป ยึดรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ รวม 1,814 คัน, จับแอดมินเพจชักชวนกันรวมตัวแข่งรถ 5 ราย และศาลสั่งทำทัณฑ์บนผู้ปกครอง จำนวน 109 คน
ส่วนตำรวจภูธร ภาค 4 จังหวัดขอนแก่น มีผลการกวาดล้างจับกุมในรอบ 10 วันที่ผ่านมา ยึดรถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง ได้ 1,985 คัน, รถซิ่ง 12 คัน, ยึดท่อไอเสียดัดแปลงเสียงดัง 462 อัน, จับนักซิ่งได้ 25 คน, ว่ากล่าวตักเตือนผู้ปกครอง 115 คน, ดำเนินคดีร้านรับแต่งรถ 1 ราย และร้านขายอะไหล่ไม่ได้มาตรฐาน 12 ราย
ส่วนตำรวจภูธร ภาค 5 จังหวัดเชียงใหม่ มีการตรวจยึดรถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง 819 คัน , ดำเนินคดีเด็กแว้น 3 คน , นำตัวไปทำประวัติ 232 คน , ตักเตือน และทำทัณฑ์บนผู้ปกครอง 794 ราย, จับกุมร้านรับแต่งรถซิ่ง 19 ร้าน, ยึดท่อไอเสียเสียงดังไม่ได้มาตรฐาน 188 อัน
ส่วนตำรวจภูธร ภาค 9 จังหวัดสงขลา ก็มีการจับกุมเด็กแว้นได้ 792 คน, ยึดรถยนต์ และรถจักรยานยนต์แต่งซิ่งได้กว่า 1,400 คัน, ว่ากล่าวตักเตือน และทำทัณฑ์บนผู้ปกครองของเด็กแว้น 54 คน เข้าตรวจค้นร้านแต่งรถฯ อีกกว่า 2,600 แห่ง ยึดอะไหล่ที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นท่อไอเสียอีกจำนวนมาก