“บิ๊กตู่” คำราม “บิ๊กบี้” สตาร์ทรถรอ งัดข้อ “สมาพันธ์ขนส่งฯ” – ผู้จัดการออนไลน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 22 พ.ย. 64 นำเสนอรายงานพิเศษ “บิ๊กตู่” คำราม “บิ๊กบี้” สตาร์ทรถรอ งัดข้อ “สมาพันธ์ขนส่งฯ”

“รถบรรทุกทหาร” มีเรื่องราวมากกว่าที่เห็น หลังจาก “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม สั่ง “กองทัพ” ให้แสตนบาย “รถบรรทุกทหาร” หลังสมาพันธ์ขนส่ง ประท้วงขู่หยุดเดินรถ 1 ธ.ค.นี้

ทำให้งานนี้ “กองทัพ” เด้งรับนโยบายทันที โดยเฉพาะ ทบ. หน่วยกำลังรบ “ทางบก” ซึ่ง “บิ๊กบี้”พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ได้สั่งการให้หน่วยเตรียมรถบรรทุกทหารไว้ 3,700 คัน แบ่งเป็น 3 ประเภท

ได้แก่ รถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก , ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ รองรับการบรรทุกได้ 1 ตัน , 4 ตัน และ 8 ตัน โดยใหัตรวจสภาพความเรียบร้อย รอรับคำสั่งจากรัฐบาล

ทว่าหน่วยที่ออกมามีแอคชั่นผ่านสื่อแรกๆ คือ พล.1 รอ. โดยมีกระแสข่าวว่าได้รับ “การสะกิด” มาจาก “อดีตบิ๊กทหาร ด.” ที่สั่ง พล.1 รอ. ได้ด้วย ดังนั้นเมื่อ พล.1 รอ. ขยับ จึงทำให้ ทบ. ในส่วนอื่นๆขยับตามทันที ตรวจเช็คสภาพรถออกสื่อจำนวนมาก โดยเป็นช่วง “รอยต่อเวลา” เดียวกับที่ “บิ๊กบี้” สั่งการพอดี ซึ่งการขยับของ พล.1 รอ. ก็เปรียบเป็น “สัญญาณแรง” ที่ทำให้ทุกหน่วย “กล้าขยับ” แบบไม่แทงกั๊ก

ปรากฏการณ์นี้ทำให้ “บิ๊กตู่” ปลื้มไม่น้อย หลังชี้ให้สื่อดูข่าวเรื่อง “รถทหาร” เพื่อเบี่ยงประเด็นปฏิเสธให้สัมภาษณ์ เพราะแอคชั่นของ ทบ. ครั้งนี้ ถือว่าออกตัวมากกว่าที่ผ่านมา

ด้วยเหตุที่ว่า “บิ๊กบี้” ถูกมองว่ามี “ระยะห่าง” กับ “บิ๊กตู่” เพราะช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ของ ทบ. ยุคนี้ ไม่ออกตัวแรง ชนิดที่ว่า “ล้ำหน้า” มากนัก อีกทั้ง “บิ๊กบี้-บิ๊กตู่” ต่างเติบโตมาคนละสายใน ทบ. ไม่ได้เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงกันมาในอดีต การแอคชั่นของ ทบ. ครั้งนี้ ก็ทำให้ “บิ๊กตู่” อุ่นใจไปไม่น้อย

แน่นอนว่าเอาเข้าจริงแล้ว “รถบรรทุกทหาร” ถ้านำมาใช้ “รับมือ” อาจไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะการขนส่งสินค้าแต่ละประเภทมีรูปแบบต่างกัน อีกทั้งจะเกิดความ “โกลาหล” ขึ้นแน่นอน ดังนั้นการออกมาคำรามของ “บิ๊กตู่” จึงถูกวิจารณ์หนักว่า “แก้ไม่ตรงจุด” และเป็นการ “ท้าทาย” มากกว่าแก้ปัญหา

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ “บิ๊กตู่” ทราบดี จึงได้กล่าวตอนหนึ่งบนเวที ปาถกฐา “จับมือ รวมใจ พาไทยรอด” ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 39 เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า ถ้าเดือดร้อนขึ้นมาจริงๆ ขาดแคลนสินค้าขนส่ง ก็จะต้องมาขอทหาร ตนก็ต้องช่วย

พร้อมย้ำว่าตนไม่ได้เปิดการขนส่งแข่งกับใคร อย่าไปฟังการบิดเบือน ถ้าเดือดร้อนขึ้นมา ไม่มีรถวิ่งเลย จะทำอย่างไร จะให้แบกกระสอบเดินกันหรือไม่ ซึ่งที่ตนพูดขึ้นมา ไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น

ดังนั้นการเสียงคำรามของ “บิ๊กตู่” จึงเปรียบเป็นการ “พูดดักคอ” บรรดาผู้ประกอบการรถบรรทุกไว้ก่อน ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งเจรจา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น

ทว่าเรื่องนี้ก็ถูกมองว่ามี “การเมืองแฝง” หรือไม่ โดยเฉพาะในกระทรวงพลังงาน ที่เขย่าเก้าอี้ “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” รองนายกฯและรมว.พลังงาน ที่ได้ชื่อว่าเป็นรัฐมนตรีสายตรง “บิ๊กตู่” เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ในซีกฝ่ายค้านก็จ้องตรวจสอบว่าคำสั่งของ “บิ๊กตู่” ขัดกับ พ.ร.บ.ขนส่งทางบก หรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ “จิรุตม์ วิศาลจิตร” อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ออกมายืนยันว่าไม่ขัดกฎหมาย เพราะเป็นการใช้รถทหารออกมาวิ่งช่วยเหลือประชาชน และบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าแก่ส่วนรวม ไม่ต้องขออนุญาตอะไร

โดยเหมือนการปฏิบัติภารกิจช่วยคนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่น้ำท่วม และไม่ได้เป็นการกระทำเพื่อการค้าเชิงพาณิชย์ ส่วนรูปแบบจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเอง

ในส่วนของ “กระทรวงกลาโหม” มีระเบียบในเรื่องนี้ชัดเจน เพื่อป้องกันการนำ “รถหลวง” ไปใช้ “ประโยชน์ส่วนตัว” โดยมี “ข้อบังคับทหารว่าด้วยการใช้รถยนต์ทหาร พ.ศ.2480” ภายใต้ “ระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยรถราชการทหาร พ.ศ.2525”

สำหรับ “รถทหาร” มี 2 ชนิดหลักๆ ได้แก่ 1)รถยนต์สงครามชนิดรบ 2)รถยนต์สงครามชนิดช่วยรบ หรือ รถยนต์ปกติ ซึ่งรถบรรทุกทหาร อยู่ในประเภทนี้ อีกทั้งรถยนต์ทหารต้องจดทะเบียนตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงกลาโหม มีป้ายทะเบียนประจำรถยนต์ ตัวเลข 4 ตัว มีเครื่องหมายบอกเหล่าทัพ เป็นต้น อีกทั้งรถทหารจะมี “พลขับประจำรถ” และมีระเบียบคุมเข้มกว่า “รถพลเรือน” ด้วย

ดังนั้นจึงอยู่ที่ “ระเบียบ” ของกองทัพที่จะกำหนดขึ้น หากต้องนำไปขนส่งช่วยภาคเอกชนหรือประชาชน ถ้าเกิดเหตุการณ์หยุดวิ่งขึ้นมาจริงๆ เช่น ค่าสึกหรอ ที่ต้องคิดตามระยะทางจริง หรือ ค่าเบี้ยเลี้ยงพลขับ เป็นต้น

สิ่งเหล่านี้จะนำมาซึ่งความ “ยุ่งยาก-โกลาหล” ในรายละเอียดต่างๆ เพื่อไม่ให้ขัดระเบียบและเพื่อ “ความต่อเนื่อง” และ “ยืนระยะ” ในการขนส่งด้วย

ดังนั้นก่อน 1 ธ.ค.นี้ ที่สมาพันธ์ขนส่ง ขีดเส้นประท้วงหยุดวิ่ง เรื่องนี้ “บิ๊กตู่” ต้องรีบเคลียร์ให้จบโดยเร็ว !!