ในทุกวันนี้นอกจากขนาดเครื่องยนต์ แรงม้า และฟีเจอร์ต่างของตัวรถมอเตอร์ไซค์ที่นับวันยิ่งทวีปริมาณที่มากขึ้นเรื่อยๆ ยังมีส่วนหนึ่งของผู้ผลิตมากมายที่ยังพยายามแข่งขันกัน นั่นก็คือเรื่องของน้ำหนักตัวของรถมอเตอร์ไซค์ ที่หลายๆ ผู้ผลิตเลือกที่จะผลิตตัวรถที่มีน้ำหนักเบากว่าปกติออกมากันเป็นจำนวนมาก โดยที่น้ำหนักที่เบากว่านั้นนอกเหนือจากประสิทธิภาพในการควบคุมที่มากขึ้นแล้ว ศักยภาพของตัวรถจะสามารถแสดงออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น บทความนี้เลยอยากพาเพื่อนๆไปดูรถมอเตอร์ไซค์ที่มีน้ำหนักตัวเบาที่สุดในแต่ล่ะประเภทกันครับ
Adventure Bike : BMW G310GS – 169.5 กิโลกรัม
หากพูดถึงรถในแนว Adventure หลายๆ คนอาจจะนึกถึงรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่โตที่ดูแล้วจะมีน้ำหนักตัวที่มาก หากเทียบกับรถในพิกัดเครื่องยนต์ที่พอๆ กัน แต่ในช่วง 5 ปีมานี้ ตลาดรถ ADV ได้มีการลดขนาดตัวรถให้มีความกะทัดรัด พร้อมกับการเลือกใช้งานเครื่องยนต์ขนาดเล็กในพิกัด 250-300 ซีซี กันบ้างแล้ว ซึ่งหากจะเปรียบเทียบน้ำหนักตัวกันล่ะก็ รถ ADV ขนาดเล็กน่าจะติดอยู่ในกลุ่มนี้อย่างแน่นอน โดยผู้ชนะของเราในหมวดหมู่นี้ก็คือ BMW G310GS ที่มีน้ำหนักตัวแบบแห้งอยู่ที่ 169.5 กิโลกรัม โดยที่เอาชนะคู่แข่งที่พึ่งจะเปิดตัวในประเทศอินเดียไปอย่าง KTM 390 Adventure ที่มีน้ำหนักตัว 172.3 กิโลกรัมไปได้ ทั้งนี้ BMW G310GS ยังมีน้ำหนักตัวที่เบากว่ารถ ADV จากผู้ผลิตสัญชาติจีนที่เลือกใช้งานเครื่องยนต์ที่มีขนาดของกระบอกสูบที่เล็กกว่าอีกด้วย
A1 License (แรงม้าไม่เกิน 14.8 BHP) : Honda CB125R -126 กิโลกรัม
ต้องออกตัวก่อนว่าเจ้า Honda CB125R นั้นมีวางจำหน่ายเฉพาะในทวีปยุโรปเท่านั้น โดยที่บ้านเรานั้นจะมีการอัพขนาดเครื่องยนต์เป็น 150 ซีซี ซึ่งเหตุของการลดขนาดเครื่องยนต์ลงนั้นก็เพราะด้วยกฎข้อบังคับทางกฎหมายการคมนาคม ที่กำหนดให้ผู้ขับขี่ต้องเลือกใช้งานใบขับขี่ตามรูปแบบของรถที่ตนเองครอบครอง โดยเจ้า Honda CB125R นั้นเอาชนะเพื่อนๆ ร่วมคลาสอย่าง Yamaha MT-125, Suzuki GSX-S125, KTM 15 Duke และผู้ที่พึ่งจะมาใหม่อย่าง Kawasaki Z125 ไปได้ ด้วยน้ำหนักตัวเพียง 126 กิโลกรัม (แบบแห้ง) โดยที่ตัวรถนั้นอัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์เด็ดๆไม่ว่าจะเป็น โช้คอัพหน้าขนาดใหญ่ 41 มิลลิเมตรแบบหัวกลับ ระบบเบรกแบบ Radial Mount หน้าจอดิจิตอล LCD มีไฟ Shift-up พร้อมไฟบอกตำแหน่งเกียร์ ระบบไฟ LED ถอดแบบมาจากรุ่นพี่ CB150R ที่ผลิตและขายในประเทศไทยทุกระเบียดนิ้ว แต่ก็มีสิ่งที่น่าแปลกใจอยู่หนึ่งจุดเพราะเจ้า CB150R ที่ขายในบ้านเรานั้น น้ำหนักตัวแบบแห้งกลับมีน้ำหนักตัวที่เบากว่า CB125R ไปหนึ่งกิโลกรัม ทั้งๆ ที่มีขนาดเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่าเสียอีก
Sport Bike 600-800 ซีซี : Norton Superlight 650 – 158 กิโลกรัม
มาถึงแนวทางที่มีผู้คนเลือกใช้งานกันมากที่สุด กับรถในแนวสปอร์ตฟูลแฟร์ริ่ง โดยผู้ชนะในหมวดหมู่นี้ไปก็คือ Norton Superlight 650 ที่มีน้ำหนักตัวเพียง 158 กิโลกรัม เบาสมกับชื่อรุ่น เอาชนะไปทั้ง Honda CBR650R (208 กิโลกรัม) MV Agusta F3 800 (173 กิโลกรัม) หรือแม้แต่ราชาในหมู่ Sportbike อย่าง Yamaha YZF-R6 (190 กิโลกรัม) โดยที่เจ้า Norton Superlight 650 นั้นมีน้ำหนักตัวที่ใกล้เคียงกับ KTM RC390 ที่มีน้ำหนักตัว 147 กิโลกรัม แต่มีแรงม้าสูงสุดเพียง 44 BHP ซึ่งเมื่อเทียบกับ 105 BHP ของเจ้า Norton Superlight 650 นั้นมีมากกว่ากันถึงครึ่งต่อครึ่งด้วยน้ำหนักตัวที่ห่างกันเพียง 11 กิโลกรัมโดยประมาณ
Cruiser : CCM Spitfire Bobber – 135 กิโลกรัม
สำหรับรถในแนวทาง Cruiser นั้นด้วยฐานล้อที่ยาวกว่ารถปกติ คุณสมบัติพิเศษในการเดินทางในทางตรงเป็นหลัก และมักจะเป็นโมเดลที่มีน้ำหนักตัวที่มากกว่ารถทั่วๆไปอยู่พอสมควร โดยเฉพาะการเลือกใช้งานเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดสูงในรอบต่ำ ไม่ได้มีแรงม้าหรือความเร็วปลายที่จี๊ดจ้าดมากมายนัก ผู้ผลิตส่วนมากมักจะหยิบเอาเครื่องยนต์ขนาดใหญ่มาใช้งานกัน จึงกลายเป็นที่มาของน้ำหนักตัวรถที่มากกว่ารถในพิกัดเครื่องยนต์ที่เท่าๆ กัน สำหรับเจ้า CCM Spitfire Bobber เป็นรถที่ถูกผลิตและวางจำหน่ายในทวีปยุโรป โดยมีฐานกำลังหลักอยู่ในประเทศอังกฤษ หัวใจหลักของมันจะเป็นเครื่องยนต์ขนาด 600 ซีซี 1 ลูกสูบ ให้พละกำลัง 55 แรงม้า (HP) แรงบิด 48 นิวตันเมตร โดยที่น้ำหนักตัวมีเพียง 135 กิโลกรัมเท่านั้น โดยได้อนิสงค์มาจากโครงสร้างอลูมิเนียม ถังน้ำมันไทเทเนียม และชุดล้อซี่ลวดแบบคาร์บอน เอาชนะคู่แข่งที่ตามเป็นอันดับสองอย่าง Honda Rebel300 ที่มีขนาดเครื่องยนต์เพียง 286 ซีซี แต่มีน้ำหนักตัวที่ 170 กิโลกรัม
Touring Bike : Yamaha Tracer 700 GT – 196 กิโลกรัม
Yamaha Tracer 700 GT รถท่องเที่ยวที่อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์เด็ดๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ CP2 สองลูกสูบ 689 ซีซี ให้แรงม้าสูงสุด 74.8 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 68 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เดียวกับที่ติดตั้งใน Yamaha MT-07 นั่นเอง โดยเจ้า Tracer 700 GT เมื่อรวมกับกระเป๋าสัมภาระท้ายและอุปกรณ์เสริมสำหรับเดินทางเต็มรูปแบบ มีน้ำหนักตัวเพียง 196 กิโลกรัม ไม่รวมของเหลว เอาชนะคู่แข่งโมเดลยอดนิยมอย่าง Kawasaki Versys 650 ที่มีน้ำหนักตัวไม่รวมของเหลวอยู่ที่ 216 กิโลกรัม และสามารถเอาชนะ CFMoto 650 GT ที่พกพาน้ำหนักตัวแบบไม่รวมน้ำมันและของเหลวที่ 226 กิโลกรัมด้วยกัน
Street Bike : KTM 890 Duke R – 166 กิโลกรัม
ถึงแม้ว่าจะมีรุ่นใหม่เข้ามาอย่าง KTM 790 Duke ที่มาพร้อมกับขุมกำลังใหม่ LC8C สองลูกสูบ แต่เมื่อเทียบกับโมเดลเดิมอย่าง KTM 890 Duke R แล้ว เรื่องของน้ำหนักตัวนั้นมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เจ้า 890 Duke R ใช้เครื่องยนต์แบบสูบเดียว 889 ซีซี ที่สร้างแรงม้าสูงสุดได้ 119 แรงม้า (BHP) พร้อมด้วยช่วงล่าง WP รุ่นพิเศษ ยอดเยี่ยมทั้งเครื่องยนต์และประสิทธิภาพในการขับขี่ พร้อมกับน้ำหนักตัวที่โคตรเบาเพียง 166 กิโลกรัมเท่านั้น
A2 License (แรงม้าไม่เกิน 47 BHP) : Husqvarna 401 Vitpilen – 148 กิโลกรัม
โมเดลลำดับที่สองสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ใช้งานทางเรียบจากแบรนด์ผู้ผลิตสัญชาติสวีเดน Husqvarna หลังจากถูกเทกโอเวอร์โดยบริษัทออสเตรียอย่าง KTM ก็ได้มีการส่งเครื่องยนต์แพลตฟอร์มใหม่ๆ จนออกมาเป็นโมเดลสำหรับทางเรียบรุ่นแรกของทางค่าย โดยเปิดตัวด้วยโมเดลรหัส 701 ตามมาด้วย 401 โดยใช้เครื่องยนต์จากแบรนด์ KTM ซึ่งในโมเดล 401 นั้นใช้เครื่องยนต์ขนาด 373 ซีซี หนึ่งลูกสูบ ให้แรงม้าสูงสุด 43 แรงม้า (BHP) ดังนั้นจึงเป็นไปตามมาตรฐาน A2 และเป็นจักรยานที่มีชีวิตชีวามีสไตล์มากที่สุดและมีเอกลักษณ์ที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดปัจจุบัน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bennetts.co.uk
เรื่องฮิตล่าสุด!