Porsche ฉลองผลิต Taycan คันที่ 100,000

ชตุทท์การ์ท-ยนตรกรรมสปอร์ทพลังงานไฟฟ้า Porsche Taycan คันที่ 100,000 ได้แก่ Porsche Taycan Turbo S สีน้ำเงิน Neptune Blue ได้เดินทางออกจากสายการผลิตตามเป้าหมายได้เป็นที่เรียบร้อย โดยจุดหมายดังกล่าวนี้เกิดขึ้นได้ภายในระยะเวลา 3 ปี ภายหลังเปิดสายการผลิตไปครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน ปี 2019 ณ โรงงานหลักในเมือง Zuffenhausen โดยรถสปอร์ท Porsche คันดังกล่าว จะส่งถึงมือเจ้าของผู้ครอบครองในสหราชอาณาจักร

Kevin Giek รองประธานกรรมการ ผู้กำกับดูแลส่วนงาน Model Line Taycan กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่สามารถบรรลุยอดการผลิตได้รวดเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ ถึงแม้จะมีความท้าทายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการขาดแคลนชิ้นส่วน ฆemiconductor และสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ก็ตาม แต่ด้วยสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของสปอร์ทพลังงานไฟฟ้า Porsche Taycan เราสามารถปูเส้นทางความสำเร็จในการก้าวเข้าสู่ยุคของยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าได้อย่างสวยงาม”

S22_4008_fine

สำหรับ 3 ตลาดหลักสำหรับรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าในปัจจุบัน ประกอบด้วย ประเทศสหรัฐอเมริกา, จีน และสหราชอาณาจักร/สาธารณรัฐ ไอร์แลนด์ โดยมีทางเลือกถึง 3 รูปแบบตัวถัง ได้แก่ Taycan Sports Sedan, Taycan Cross Turismo และ Taycan Sport Turismo ในแต่ละรุ่นยังสามารถเลือกขุมพลังได้ถึง 5 ระดับความแรง รวมทั้งระบบขับเคลื่อนทั้ง 2 ล้อหลัง หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive ด้วยพิสัยการเดินทางสูงสุดกว่า 513 กม. (ทดสอบตามมาตรฐาน WLTP) ส่งผลให้ Porsche Taycan 4S เป็นรุ่นที่เดินทางได้ไกลที่สุด ในส่วนของรถสปอร์mไฟฟ้าจากสายการผลิตปกติรุ่น Porsche Taycan Turbo S เป็นเจ้าของผู้ครองสถิติการวิ่งต่อรอบสนามแข่ง Nurburgring Nordschleife ได้เร็วที่สุดด้วยระยะเวลา  7 นาที 33 วินาที

ดีไซจ์น และเทคโนโลยี: Jean-Hubert Revolon กับ Porsche Taycan 4S

ไม่เพียงยอดการผลิตที่ Porsche Taycan สามารถสร้างสถิติครบ 100,000 คัน ได้เร็วที่สุดแล้ว นั้น แต่รถคันนี้ยังสามารถสร้างตัวเลขอันน่าอัศจรรย์ในแง่ของการใช้งานดด้วยยอดการผลิตให้แก่ลูกค้าหลายรายให้สามารถเดินทางด้วยรถสปอร์ทพลังงานไฟฟ้าจาก Porsche ไปแล้วมากกว่า 100,000 กม. สำหรับบุคคลสำคัญอย่าง Jean-Hubert Revolon ได้ขับ Taycan 4S ของเขาไปเป็นระยะทางมากกว่า 188,119 กม. นับตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ปี 2020 เจ้าของกิจการขนส่ง พักอาศัยอยู่แถบพื้นที่ Lyon และนำพารถ Porsche คู่ใจท่องไปแทบจะทุกประเทศที่มีอาณาเขตติดกับฝรั่งเศส โดยระยะทางวิ่ง/วันสูงสุด คือ 1,200 กม.

เหตุผลของเขาในการเลือกซื้อรถอยู่ที่งานออกแบบดีไซจ์น “นวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ ล้วนส่งผลลัพธ์ที่ดีต่อสภาพแวดล้อม  อีกทั้งด้านงบประมาณของผมส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาลดลง” เขากล่าวย้ำ สำหรับจุดแข็งอื่นๆ คือ เรื่องของสมรรถนะ และระบบช่วงล่าง การยึดเกาะอย่างยอดเยี่ยม และความคล่องแคล่วปราดเปรียวอย่างที่สุด และมีเพียง Porsche เท่านั้น ที่แสดงศักยภาพออกมาเปรียบเสมือนมายากลอย่างน่ามหัศจรรย์ ” ยิ่งไปกว่านั้น หนุ่มใหญ่วัย 43 ปี ยังการันตีอีกว่าในจำนวนรถยนต์หลายคันที่เค้าเป็นเจ้าของ ไม่มีคันไหนที่ทำให้เขามั่นใจได้เทียบเท่ากับรถสปอร์ทพลังงานไฟฟ้า Taycan 4S ซึ่งนับตั้งแต่ใช้งานมา มีเพียงเซนเซอร์ระบบช่วงล่างเพียง 1 ตัวเท่านั้นที่จำเป็นต้องเปลี่ยน

แต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่จะราบรื่นได้ตลอด Jean-Hubert Revolon ได้ย้อนระลึกถึงประสบการณ์การชาร์จที่แปลกประหลาด เมื่อเขาไม่สามารถใช้งานกับ Porsche Taycan ของเขาได้ ซึ่งจอดอยู่ห่างจากสถานีชาร์จเพียงไม่กี่ม. เป็นเพราะเหตุจากรั้วกั้นที่ขวางอยู่ โดยตัวสถานีถูกแยกออกจากจุดพักรถบน Highway และไม่สามารถเข้าถึงได้จากทางตัวเมือง และระบบนำทางของเขาพาไปไม่ถูกจุด

S22_4014_fine

การตัดสินใจเป็นเจ้าของอย่างง่ายดาย: Guillaume Takvorian กับ Porsche Taycan 4S

Guillaume Takvorian คือ อีกหนึ่งผู้ใช้รถระยะทางสูง เมื่อเลขไมล์บนแผงหน้าปัดรถ Porsche Taycan 4S ของเขาพุ่งขึ้นจนแตะ 6 หลัก เขาได้ทำการถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ ขณะนี้รถ Porsche ของเขาวิ่งไปแล้วเป็นระยะทางกว่า 113,977 กม. และตัวเลขดังกล่าวยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป

เภสัชกรหนุ่มจาก Marseille รับเอารถสปอร์ทซีดาน สีเทา Volcano Grey มาอยู่ในครอบครอง ตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2020 “ผมได้รับการส่งมอบ Porsche Taycan จากศูนย์บริการ Porsche Toulon หลังจากทดลองขับ ผมตัดสินใจเลือกรถรุ่นนี้ในทันที” เขากล่าวพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม โดยส่วนใหญ่เขาขับขี่ Porsche Taycan 4S ในแถบภาคใต้ของประเทศฝรั่งเศส เพื่อทำธุรกิจของเขา “ระยะทางไกลที่สุด คือ การขับจาก Marseille ไปยัง Megeve ในเขต Savoy Alps ตลอดทางขึ้นเขากว่า 440 กม. แน่นอนว่ามันต้องใช้พลังงานเพิ่มขึ้น ดังนั้นผมจึงต้องหยุดพักที่ศูนย์บริการ Porsche Grenoble และชาร์จพลังงานให้แก่ Porsche Taycan ของผม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย” มีเพียงเสียงรบกวนจากพัดลมไฟฟ้าที่หนุ่มวัย 41 กล่าวถึง ซึ่งมันได้รับการเปลี่ยนภายใต้เงื่อนไขการรับประกันของโรงงาน นอกจากนั้นรถคันนี้ไม่เคยมีปัญหาอื่นใดตลอดการใช้งาน

“มันมีแต่ความสนุกยามที่ขับ Porsche Taycan” Guillaume Takvorian กล่าว นอกเหนือจากพละกำลังมหาศาล เขายังเล็งเห็นถึงข้อดีอื่นๆ ของรถคันนี้ “ในแง่ของงานดีไซจ์น Taycan มีความเป็น Porsche เต็มตัว และในทุกรายละเอียดมีเอกลักษณ์ของแบรนด์อัดแน่นอยู่เต็มพิกัด ถึงพร้อมด้วยความล้ำสมัย และคุณภาพการผลิตชั้นยอด” ในฐานะนักขับรถหนุ่มเลือดฝรั่งเศสยังประทับใจกับความเงียบที่ได้รับจากขุมพลังไฟฟ้า “ผมชื่นชอบเสียงคำรามจาก Porsche 911 Targa ของผม แต่ในการขับขี่ทางไกล ความเงียบเมื่อนั่งอยู่ใน Taycan คือ ความรื่นรมย์อย่างล้นเหลือ” รถ Porsche ของเขามักจะได้รับการชาร์จพลังงานจาก Wallbox ที่บ้านในช่วงกลางคืน นอกจากนั้นในกรณีที่จำเป็น Takvorian ให้ความไว้วางใจเพียงการชาร์จจากสถานี Fast Charging Stations

S22_4012_fine

ทริพการเดินทางในยุโรปตะวันออก: Markus Kreutel กับ Porsche Taycan Turbo

Markus Kreutel ต่างจากเจ้าของรถรายอื่น บ่อยครั้งที่เขาใช้บริการสถานี Fast Charging Stations เพื่อเติมพลังงานให้แบทเตอรีรถพลังงานไฟฟ้าของเขา และแทบไม่ต้องสงสัย มันช่วยให้เขาเดินทางได้สูงสุดถึง 1,500 กม./วัน นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2021-สิงหาคม ปี 2022 พนักงานของ Porsche รายนี้ได้ใช้งานรถ Porsche Taycan Turbo ซึ่งเป็นรถส่วนกลางของบริษัทด้วยระยะทางรวมทั้งสิ้นกว่า 134,911 กม. โดย Kreutel มีตำ แหน่งเป็นหัวหน้าส่วนงาน Body Planning ของ Porsche และด้วยหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลผลิตตัวถัง Body in White ในโรงงาน Zuffenhausen โรงงาน Leipzig และโรงงาน Bratislava รวมทั้งในฐานะ CEO ของ Porsche Toolmaking เขายังรับบทบาทดูแลหน่วยงานใน Schwarzenberg, Dubnica และ Horna Streda สิ่งที่ตามมา คือ การเดินทางที่เกิดขึ้นเป็นประจำระหว่างสำนักงานใหญ่ของ Porsche ที่ Zuffenhausen ไปยัง Slovakia หรือเทือกเขา Ore

นอกเหนือจากศักยภาพในการขับขี่ทางไกล สิ่งที่ได้รับ คือ สมรรถนะการยึดเกาะถนนภายใต้สภาพอากาศอันเลวร้าย รวมทั้งการบังคับควบคุมที่แม่นยำ Kreutel ยกตัวอย่างค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ถือว่าต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่นที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน และเขายังชื่นชมคุณภาพการผลิต และความทนทานอีกด้วย Porsche Taycan สีขาว ทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยมสม่ำเสมอ ถึงแม้จะผ่านการใช้งานมามาก กว่า 100,000 กม. แล้ว ทั้งในแง่ของสภาพภายนอกที่มองเห็นได้ด้วยตา หรือในเชิงเทคนิคก็ตาม “แบทเตอรียังคงอยู่ที่ 91 % จากความจุเดิม” Kreutel อธิบาย และเป็นอีกครั้งที่พบเพียงปัญหาเล็กน้อย นั่นคือ ชิ้นส่วนพลาสติคครอบชุดกลอนฝาท้ายหลุดหลวม

การใช้สถานีบริการชาร์จพลังงาน ในอีกมุม มันคือ บททดสอบความอดทนของ Kreutel “การเดินทางครั้งหนึ่งในโรมาเนีย ยังตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผม ผมเดินทางถึงสถานีชาร์จแห่งแรกใน Timisoara ซึ่งไปถึงที่นั่นเวลา 2 นาฬิกา โดยไม่คาดคิดว่ามันใช้งานไม่ได้ สถานีต่อไปที่ Arad ตั้งอยู่ข้างถนนอันมืดสนิท ดังนั้นการขยายเครือข่ายให้บริการสถานีชาร์จพลังงานประสิทธิภาพสูง คือ ความหวังสูงสุดประการหนึ่งที่บรรดาผู้ขับขี่รถ ยนต์ไฟฟ้าร้องขอ”

จุดสิ้นสุด และจุดเริ่มต้น: การทดสอบระยะยาว โดย “Auto Bild” และ “Auto Motor and Sport”

ไม่ต่างจากลูกค้า และบุคลากรของ Porsche สื่อสารมวลชนสายรถยนต์ คือ ส่วนหนึ่งของผู้ขับขี่ Porsche Taycan รถสปอร์ทพลังงานไฟฟ้า Taycan 4S สีน้ำเงิน Frozen Blue วิ่งครบ 100,000 กม. จากการทดสอบความทนทาน โดยนิตยสารรถยนต์จากประเทศเยอรมนี “Auto Bild” ขั้นตอนดังกล่าวเริ่มขึ้นในวันที่ 17 ตุลาคม 2020 การทดสอบระยะยาวมีกำหนดสิ้นสุดลงในเดือนพฤศจิกายน 2022 “สำหรับผม การทดสอบระยะยาวที่เราทำกับ Porsche Taycan ได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างน้อย 3 ประการ อันดับแรก คือ รถคันนี้มีความน่าสนใจ และดึงดูดใจอย่างที่รถยนต์น้อยคันจะทำได้” Tom Drechsler บรรณาธิการของ “Auto Bild” จาก Bild Group แสดงความคิดเห็น “ประการที่ 2 รถพังงานไฟฟ้าของ Porsche มีความเป็นรถสปอร์ทจาก Porsche เต็มตัว นับตั้งแต่สัมผัสแรก และนั่นคือ Taycan ประการที่ 3 การทดสอบของเราพิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า การขับขี่ทางไกลไม่ได้เป็นอุปสรรคกับรถยนต์ไฟฟ้าแต่อย่างใด”

ขณะเดียวกัน ทีมบรรณาธิการของ “Auto Motor and Sport” ได้ทำการทดสอบระยะยาวกับ Porsche Taycan 4Cross Turismo สีเขียว Mamba Green ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี เลขไมล์บนแผงหน้าปัดพุ่งขึ้นแตะ 6 หลักด้วยการขับขี่ของพวกเขา มันคือ ครั้งแรกที่กลุ่มนักข่าวสายรถยนต์จากชตุทท์การ์ท ได้ทดสอบระยะยาวแบบเต็มพิกัดรวมกว่า 100,000 กม. ด้วยรถไฟฟ้า “การได้ขับ Porsche ในการทดสอบแบบกลุ่มระยะยาว เป็นอะไรที่พิเศษ หลังบททดสอบหลากหลาย สูงสุดถึง 12 เดือน หรือบ่อยครั้งที่วิ่งเพียง 3-6 เดือน ตอนนี้เลขไมล์ทะลุหลัก 100,000 กม. ไปเป็นที่เรียบร้อย ภายในเวลา 2 ปีกับรถไฟฟ้าคันนี้” Michael Pfeiffer บรรณาธิการของ “Auto Motor and Sport” อธิบาย

“เรามีความมั่นใจว่ากระบวนการชาร์จ และอัตราการใช้พลังงานของรถพลังงานไฟฟ้าในปัจจุบัน ตอบโจทย์มาตรฐานคุณภาพที่เราวางเอาไว้ มันมีความสำคัญต่อคุณสมบัติพื้นฐานสำหรับการใช้งานยานพาหนะประจำวัน เรายังคงอยากรู้ถึงประสิทธิภาพของ Cross Turismo ในการใช้งานเป็นประจำทุกวัน” Jens Dralle หัวหน้าทีมทดสอบ และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี กล่าวเสริม

DT Porsche Taycan Messen

เฉลียวฉลาด สะอาด และไม่สิ้นเปลือง: สายการผลิตอัจฉริยะ

ไม่เพียงแต่ตัวรถ Porsche Taycan เท่านั้น แต่สายการผลิตของรถรุ่นนี้ คือ อีกศาสตร์แห่งศิลปะ ซึ่งกำหนดบรรทัดฐานในเชิงของความยั่งยืน และโลกแห่งดิจิทอล โรงงานสุด High-Tech ประกอบด้วยเทคโนโลยี และกระ บวนการใหม่ล่าสุด ได้รับการสร้างขึ้นในเมือง Stuttgart-Zuffenhausen อาทิ ระบบปัญญาประดิษฐ์ Artificial intelligence (AI) ถูกนำมาใช้ในการผลิตอุปกรณ์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ต้องขอบคุณ “Machine          Learning” หรือระบบกล้องถ่ายภาพตรวจวัดคุณภาพ ขณะประทับหมายเลขลำดับการผลิต และประกอบระบบส่งกำลังเบื้องต้น ซึ่งมีความถูกต้องแม่นยำ เหนือกว่าระบบตรวจสอบ Non-AI แบบเดิม นอกจากนั้นยังมีส่วนช่วยลดภาระของเจ้าหน้าที่ในสายการผลิต โดยพวกเขาจะใช้เวลาในการตรวจสอบน้อยลง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดจากแผนก Resource-Conserving Processes and Technology คือ การทดสอบระบบ Recuperation ด้วยหุ่นยนต์ Porsche Taycan สามารถเปลี่ยนพลังงานจุลน์ กลับมาเป็นพลังงานไฟฟ้าเมื่อรถเบรคชะลอความเร็ว และกักเก็บไว้ด้วยการทำงานของตัวเก็บประจุสมรรถนะสูง ในกรณีที่หุ่นยนต์เร่งเครื่อง พลังงานจากระบบ จะถูกดึงออกมาใช้

“Porsche Taycan คือ ที่สุดแห่งนวัตกรรม และแน่นอนว่ารวมถึงสายการผลิตของ Porsche Taycan อีกด้วย” ข้างต้น คือ คำกล่าวจาก Albrecht Reimold สมาชิกคณะกรรมการบริหาร ผู้กำกับดูแลส่วนงาน Production and Logistics ของ Porsche “นับตั้งแต่เปิดสายการผลิตเมื่อปี 2019 เราใช้กระบวนการที่ปราศจากสารประกอบคาร์บอนอย่างเบ็ดเสร็จ ซึ่งตอนนี้เรานำวิธีการดังกล่าวไปใช้กับสายการผลิตรถสปอร์ททุกรุ่นภายในโรงงาน Zuffenhausen และโรงงาน Leipzig สิ่งนี้ช่วยยกระดับพวกเราเข้าใกล้วิสัยทัศน์ “Zero Impact Factory” ความฉลาด สะอาด และไม่สิ้นเปลือง คือ นิยามของสายการผลิตอันยั่งยืน”