โค้ชซาอุฯ ปัดข่าวลือ เจ้าชายแจกรถหรู 50 ล้านให้นักเตะทุกคน ฉลองชัยเหนือ อาร์เจนตินา

          โค้ชทีมชาติซาอุดีอาระเบีย ปฏิเสธข่าวลือที่ราชวงศ์เตรียมหรูโรลส์รอยซ์ คันละกว่า 50 ล้าน ให้กับนักเตะ ฉลองชัยชนะเกมคว่ำ อาร์เจนตินา

โค้ชซาอุฯ ปัดข่าวลือ เจ้าชายแจกรถหรู 50 ล้านให้นักเตะทุกคน

ภาพจาก KHALED DESOUKI / AFP

          กลายเป็นผลการแข่งขันที่สร้างความฮือฮาอันดับต้น ๆ สำหรับ ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กับแมตช์ที่ ซาอุดีอาระเบีย พลิกล็อก ชนะ ทีมชาติอาร์เจนตินา 2-1 จนเกิดการฉลองใหญ่ในประเทศ แถมยังมีสำนักข่าวใหญ่ปล่อยข่าวว่า เจ้าชายมูฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมาร เตรียมแจกรถยนต์หรู โรลส์รอยซ์ แฟนธอม ให้กับเหล่านักเตะอีกด้วยนั้น

          เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2565 เว็บไซต์เดลี่เมล รายงานว่า แอร์กเว่ เรนาร์ (Herve Renard) โค้ชทีมชาติซาอุดีอาระเบีย ปฏิเสธข่าวลือที่ว่าราชวงศ์ของซาอุฯ จะทรงประทานของขวัญเป็นโรลส์รอยซ์ แฟนธอม ให้กับนักเตะทุกคน จากผลงานในเกมคว่ำทัพฟ้า-ขาว

โค้ชซาอุฯ ปัดข่าวลือ เจ้าชายแจกรถหรู 50 ล้านให้นักเตะทุกคน

ภาพจาก KHALED DESOUKI / AFP

          เดิมที ข่าวลือดังกล่าวมีต้นตอมาจากหมอฟันชาวปากีสถานที่มีความนิยมบนโลกโซเชียล จนเรื่องราวนี้ถูกส่งต่อไปทั่วโซเชียลอย่างทวิตเตอร์ ก่อนที่ล่าสุด โค้ชทีมชาติซาอุฯ จะออกมาตอบโต้ข่าวลือนี้ด้วยตัวเอง ด้วยการยืนยันว่าเหล่าผู้เล่นในทีมไม่ได้กำลังจะได้รับรถหรูเป็นของขวัญแต่อย่างใด

          เรนาร์ ระบุว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงเลย พวกเรามีสหพันธ์ และกระทรวงกีฬาที่เคร่งครัดมาก และมันก็ไม่ใช่เวลาที่จะได้รับอะไรก็ตามในช่วงนี้ เขาเคยกล่าวไว้ก่อนเกมเจอ อาร์เจนติน่า ว่าเกมนั้นเป็นหนึ่งใน 3 เกมสำคัญที่ทีมต้องลงเล่น สิ่งเดียวที่ดีที่สุดซึ่งทีมจะได้รับ คือการจบด้วยอันดับ 1 หรืออันดับ 2 ในรอบแบ่งกลุ่ม

          เช่นเดียวกับ ซาเลห์ อัล-เชห์รี่ กองหน้าซาอุฯ ได้ปฏิเสธข่าวดังกล่าวเช่นกัน ยืนยันว่า มันไม่เป็นความจริง พวกเรามาที่นี่เพื่อรับใช้ประเทศชาติ และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด นั่นแหละคือรางวัล

          สำหรับ ซาอุดีอาระเบีย ลงแข่ง 2 นัด ชนะ 1 แพ้ 1 มี 3 คะแนน อยู่อันดับ 3 ของกลุ่มซี ปัจจุบันพวกเขามีโอกาสลุ้นผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2537 โดยเกมสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่ม มีคิวเจอกับ เม็กซิโก ในวันพุธที่ 30 พฤศจิกายน นี้

ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์เดลี่เมล