แมคลาเรน เอลวา (McLaren Elva) ไฮเปอร์คาร์สมรรถนะสูงในตระกูล อัลติเมท ซีรีส์ (Ultimate Series) เดินทางจากสหราชอาณาจักรมาเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย โดย “นิชคาร์ กรุ๊ป” เปิดรับจองในราคา 200 ล้านบาท
หลังจากการเผยโฉม McLaren Elva สู่สายตาชาวโลกครั้งแรก ช่วงปลายปี 2562 สร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยการเป็นไฮเปอร์คาร์ 2 ที่นั่ง ไร้หลังคาและกระจกบังลมหน้า โครงสร้างแชสซีส์และตัวถังขึ้นรูปด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา พร้อมสมรรถนะจากขุมพลัง V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 815 แรงม้า เปิดรับจองในจำนวนจำกัดเพียง 149 คัน
“นิชคาร์ กรุ๊ป” ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์แมคลาเรนอย่างเป็นทางการ เพียงรายเดียวในประเทศไทย ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่ แมคลาเรน ออโตโมทีฟ (McLaren Automotive) ประเทศอังกฤษ จัดงานเปิดตัว McLaren Elva ครั้งแรกในเมืองไทย เมื่อเร็วๆ นี้
แมคลาเรน แบงค็อก (McLaren Bangkok) ได้รับโควต้า 2 คัน ตอนนี้มียอดจองแล้ว 1 คัน เป็นรถรุ่นล่าสุดในตระกูล อัลติเมท ซีรีส์ ต่อจากรุ่น เอฟ วัน โร้ด คาร์, พีวัน, เซนนา และ สปีดเทล กับไฮเปอร์คาร์เครื่องยนต์วางกลาง ขับเคลื่อนล้อหลังอันทรงสมรรถนะ พร้อมโครงสร้างตัวถังน้ำหนักเบา ถูกถ่ายทอดเทคโนโลยียานยนต์มาจากสนามแข่งฟอร์มูล่าวัน
McLaren Elva ยังถือเป็นการฉลองสุดยอดผลงานการออกแบบของ “บรูซ แมคลาเรน” กับ McLaren M1A ที่ทำไว้ในปี ค.ศ.1960 และรถแข่งในซีรีส์ กรุ๊ป 7 แมคลาเรน โดดเด่นด้วยสมรรถนะและนวัตกรรม ถูกนำมาปรับให้อยู่ในรูปแบบของยนตรกรรมเพื่อผู้ขับขี่ ผสานหลักการออกแบบและวิศวกรรมยุคใหม่ของแมคลาเรน พัฒนาเป็นยนตรกรรมสำหรับท้องถนน (Road Car) ในปัจจุบัน
McLaren Elva เป็นรถโอเพ่น-ค็อกพิท (Open-Cockpit) สองที่นั่ง พร้อมแชสซีส์และตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์สั่งทำพิเศษ ให้ความอิสระเพราะปราศจากหลังคา กระจกหน้าและหน้าต่างด้านข้าง สามารถกระตุ้นการรับรู้ของผู้ขับขี่ได้อย่างเต็มที่ เป็นยนตรกรรมสำหรับท้องถนน (Road Car) น้ำหนักเบาที่สุดที่แมคลาเรนเคยผลิตมา พร้อมด้วยสมรรถนะอันน่าทึ่งในทุกๆ ด้าน ทั้งการเร่งความเร็ว ความคล่องตัว และการตอบสนองต่อผู้ขับขี่ในระดับไม่ธรรมดา ด้วยเครื่องยนต์แมคลาเรน V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ขุมพลัง
ตระกูลเดียวกับแมคลาเรน เซนนา (McLaren Senna) และแมคลาเรน เซนนา จีทีอาร์ (McLaren Senna GTR)
นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบแอ๊กทีฟ แอร์ เมเนจเมนต์ ซิสเทม (Active Air Management System-AAMS) เป็นครั้งแรกของโลก ระบบจะลำเลียงอากาศผ่านจมูกของตัวรถแล้วผันออกทางฝาครอบด้านหน้าด้วยความเร็วสูงก่อนจะเหินขึ้นเหนือห้องผู้โดยสาร เพื่อสร้างบับเบิลเสมือนเกราะกำบังให้กับผู้โดยสาร
ระบบ AAMS ประกอบด้วยช่องรับลมตรงกลางขนาดใหญ่อยู่เหนือสปลิตเตอร์ ช่องระบายอากาศของฝาครอบและตัวเบี่ยงลมคาร์บอนไฟเบอร์ สามารถยกขึ้นและลดระดับได้ในแนวตั้ง เมื่อ AAMS ทำงานอยู่ ตัวเบี่ยงลมบริเวณขอบของช่องระบายอากาศที่ฝาครอบด้านหน้าจะถูกยกขึ้น 150 มม. เพื่อสร้างพื้นที่แรงดันต่ำที่ช่องระบายอากาศ อากาศที่ถูกระบายออกมาจะถูกผันออกในรัศมี 130 องศา ผ่านโครงข่ายของใบพัดตามขวาง ทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ ติดตั้งอยู่ตลอดความยาวของฝาด้านหน้า คอยทำหน้าที่กระจายกระแสลมทั้งด้านหน้าและด้านข้างของห้องโดยสารและช่วยในการจัดการอากาศในห้องโดยสารด้วย
สำหรับการขับขี่ในเมืองระบบ AASM จะปิดใช้งาน เนื่องจากระดับความเร็วของรถและการไหวของอากาศเข้าสู่ห้องโดยสารไม่ได้สูงมาก แต่เมื่อความเร็วของรถเพิ่มขึ้น ระบบ AAMS จะทำงานโดยอัตโนมัติจนกว่าความเร็วจะลดลงส่งสัญญาณให้ตัวเบี่ยงลมหดกลับ แต่ผู้ขับก็สามารถกดปุ่มปิดระบบเองได้ด้วย
นอกเหนือจากระบบ AAMS แล้ว ขอบท้ายของ McLaren Elva ยังติดตั้งแอร์เบรกแบบแอ๊กทีฟแบบเต็มความกว้างของรถ ความสูงและมุมของแอร์เบรกปรับแต่งเพื่อให้เกิดสมดุลอากาศที่เหมาะสมที่สุด
ด้านเบาะนั่งออกแบบมาโดยเฉพาะ ด้านกรอบคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา รองรับศีรษะ ไหล่ และหลังของผู้โดยสาร
อย่างไรก็ตาม เบาะนั่งจะสั้นกว่าเบาะนั่งของรถแมคลาเรนทั่วไปเล็กน้อย เพื่อทำให้มีพื้นที่พักเท้าเพียงพอสำหรับการยืนหรือช่วยอำนวยความสะดวกระหว่างการเข้า-ออกจากรถ ขณะเดียวกันลูกค้าสามารถเลือกสีและวัสดุของเบาะนั่งได้ทั้งด้านบนและด้านล่าง เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างส่วนบนที่เปิดโล่ง และส่วนล่างที่โอบล้อมปกป้องผู้โดยสาร รวมถึงออปชั่นสายรัดนิรภัยแบบ 6 จุด หากต้องการนำไฮเปอร์คาร์คันนี้ไปใช้ในสนามแข่ง
เพื่อลดน้ำหนักของรถให้มากที่สุด ระบบเครื่องเสียงจึงไม่ถูกจัดอยู่ในชุดอุปกรณ์พื้นฐานของ McLaren Elva แต่ลูกค้าสามารถสั่งทำพิเศษได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ส่วนตัวเลือกอื่นๆ ที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ได้แก่ ระบบยกตัวรถ รวมถึงล้ออัลลอยฟอร์จ น้ำหนักเบาพิเศษ ลาย 5 ก้าน (เปลี่ยนได้จากล้อมาตรฐาน ลาย 10 ก้าน) รวมถึงเปลี่ยนยาง พิเรลลิ พี ซีโร่ (Pirelli P Zero) เป็นยาง พิเรลลิ พี ซีโร่ คอร์ซา สำหรับสนามแข่งได้
McLaren Elva เป็นรถเปิดประทุน ตัวถังแบบโมโนค็อกทำจากคาร์บอนไฟเบอร์มีความแข็งแรง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เครื่องยนต์แมคลาเรน V8 ขนาด 4.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ตัวเครื่องมีเพลาข้อเหวี่ยงแบบระนาบแบนระบบหล่อลื่นแบบบ่อพักแห้ง เพลาลูกเบี้ยว ก้านสูบ และลูกสูบน้ำหนักเบาช่วยลดมวลในระบบส่งกำลัง พร้อมเกียร์ดูอัลคลัตช์ 7 สปีด ทำหน้าที่ส่งกำลังไปยังล้อหลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. น้อยกว่า 3 วินาที
สามารถใช้ฟังก์ชั่น อแดพทีฟ ไดนามิกส์ คอนโทรลส์ (Adaptive Dynamics Controls) เพื่อเปลี่ยนโหมดการควบคุมรถและระบบส่งกำลังได้ 3 รูปแบบ คือ คอมฟอร์ต, สปอร์ต, แทรค เพื่อปรับลักษณะการขับขี่ให้เข้ากับอารมณ์ หรือสภาพแวดล้อมในขณะนั้น รวมถึงการปรับโหมด อิเล็กทรอนิก สเตบิลิตี้ คอนโทรล (Electronic Stability Control – ESC) เลือกได้ 3 ระดับ และระบบ แวเรียเบิล ดริฟต์ คอนโทรล (Variable Drift Control – VDC) ช่วยล็อกอิสรภาพในการขับขี่
นายพล