เปิดใจ ฮิโรชิ มาซูโอกะ ผู้อยู่เบื้องหลังทีม มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท “ขึ้นชื่อว่าแข่งรถ ไม่มีอะไรที่ง่ายเลย”



ฮิโรชิ มาซูโอกะ หนึ่งในนักแข่งแรลลี่ชั้นนำของโลกชาวญี่ปุ่น และแชมเปี้ยนการแข่งขันดาการ์ แรลลี่  2 สมัยติดต่อกันในปี พ.ศ. 2545 และ 2546 ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการ ทีม มิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท ทีมงาน “มอเตอริ่ง” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ถึงความพร้อมในการเข้าร่วมการแข่งขันรายการ เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2022



มีความมั่นใจมากน้อยแค่ไหน กับการกลับมาแข่งครั้งนี้

ค่อนข้างมีความมั่นใจ เราได้ผ่านการทดสอบมาแล้ว 2 รอบ บวกกับ รถไทรทัน เป็นรถที่มีสมรรถนะที่ดีมาก มีความอดทน ถึก และการขับขี่เยี่ยมอยู่แล้ว จึงความมั่นใจในตัวรถ นอกจากนั้นเรายังมีความมั่นใจในตัวนักขับ คือผู้แข่ง 3 ท่านที่คัดเลือกมา อย่างริฟัต ซุงการ์ นักแข่งหลัก เป็นหนึ่งในนักแข่งแรลลี่ระดับแถวหน้าของอินโดนีเซีย มีประสบการณ์มากเรามั่นใจในความสามารถ และจุดแข็งในตัวเขาเอง

สำหรับ ชยพล โยธา เองถือว่าเป็นนักขับรุ่นใหม่ ที่กำลังมาแรง มีบทบาทมาก มาซูโอกะ ตั้งความหวังไว้สูง ในการแข่งขันในครั้งนี้

ส่วน ศักดิ์ชัย ห่านตระกูล มีประสบการณ์ในการแข่งขันมากว่า 30 ปี เชื่อว่าเขาน่าจะเป็นตัวชูโรง ตัวที่สร้างสีสันให้กับทีม เช่นกันเรามีความหวังในตัวเขามาก

ทั้ง 3 คน เรามั่นใจว่าพวกเขาจะเข้าสู่เส้นชัย ที่สำคัญสมรรถนะรถที่ยอดเยี่ยม ผมมีความหวังและคาดหวังที่จะให้เป็นแชมป์ด้วย



ไทรทัน มีจุดแข็งตรงไหนบ้าง

การแข่งขันเราได้มีการปรับแต่งตัวไทรทัน ให้รถมีน้ำหนักเบา ตรงนี้เรามองว่าเป็นจุดแข็งและเป็นจุดได้เปรียบกว่าคู่แข่ง เนื่องจากมีน้ำเบาการควบคุม การขับขี่ก็สะดวกสบายกว่า และมีความปลอดภัยสูง

ทำไมไม่ลงเล่นในการแข่งขันรายการที่ใหญ่กว่า



รถไทรทัน ของมิตซูบิชิ นี้ เป็นรุ่นที่มีความสำคัญอย่างมากในตลาดเอเชีย มองว่าเป็นรถที่ในอนาคตมีศักยภาพมากขึ้น ก็อยากให้ ทุกคนที่อยู่ในภูมิภาคเอเชีย รู้จักไทรทัน นอกจากนี้คงจะให้ประสบการณ์ ข้อมูล ที่เราได้มาจากการแข่งขัน ครอสคันทรี แรลลี่ มาต่อยอดการพัฒนารถยนต์ในอนาคตให้มันดีขึ้น แม้ว่าตอนนี้แผนในการลงแข่งจะอยู่ในภาคพื้นเอเชีย เป็นหลัก แต่ความฝันของ มาซูโอกะ อยากให้ไทรทันไปสู่เวทีโลก แต่ก็มีเป็นความฝันอยู่

ส่วนคำถามที่ว่า มาซูโอกะ ทำไมไม่แข่งเอง ผมอายุไม่มากไม้น้อยแล้ว 62 ปี ถามว่าตอนนี้ เขาควรเป็นผู้สร้าง ผู้กำกับ เป็นผู้อำนวยการ มากกว่า เป็นนักแข่ง



นิยามการแข่งขันครอสคันทรีกับ การแข่งทางเรียบแตกต่างกันอย่างไร

ในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต หัวใจสำคัญเลย คือชัยชนะ สิ่งที่เราคำนึง เราให้ความสำคัญคือ การนำไปสู่ชัยชนะ ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันถนนทางเรียบ หรือครอสคันทรี ความยากเท่ากัน ไม่แตกต่างกัน แต่ว่าถ้าเราพูด ถึงรายละเอียด อย่างครอสคันทรี ภาวะของถนนจะไม่เหมือนกันเลย จะมีทั้ง ขึ้นเขา ลงเขา ผ่านทะเลทราย ภูเขา ที่จะทำให้มีอุปสรรคในการเดินทาง เช่นว่าฝนตกถนนลื่น ถนนแห้งกลับกลายเป็นว่าเราเจอฝุ่น มองข้างหน้าไม่เห็น มีความยากเหมือนกัน แต่เราเลือกแข่ง ครอสคันทรี การที่รถจะต้องวิ่งผ่านพื้นผิว ที่หลากหลาย หิน ทราย กรวด หิมะ มันทำให้ในเชิงการพัฒนารถ การเรียนรู้มาก มีประโยชน์ เป็นที่มาของมิตซูบิชิ ให้ความสำคัญในการสร้างรถยนต์ พัฒนารถยนต์ ก็เลยมาแข่งในครอสคันทรี

เซอร์กิจ ก็มีแข่งเหมือนกันที่ สหรัฐอเมริกา ก็ไม่ง่าย ถ้ามีคำว่า “แข่งรถ” ไม่มีอะไรที่ง่ายเลย เพราะว่าทุกอย่างมันคือ ความท้าทายเช่นกัน



หลังจากนี้เราต้องมาจับตาดูว่า ความฝันของ มาซูโอกะ ที่อยากให้ไทรทันไปสู่เวทีโลกจะเป็นจริงไหม เพราะตอนนี้บทบาทเขาเปลี่ยนไปจากนักแข่งสู่ผู้กำกับ