เจาะลึกเบื้องหลังการออกแบบ FORD RANGER RAPTOR NEXT-GEN

ออกขายไม่นานก็สร้างยอดจองเยอะมากพอที่จะทำให้คนที่อยู่เบื้องหลังขั้นตอนการพัฒนายิ้มไม่ยอมหุบ Ranger Raptor เจเนอเรชันใหม่ รถกระบะออฟโรดที่ขายดีและทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมาในตระกูล Raptor การปรับให้รถมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ขับสนุกกว่าเดิมพร้อมอัตราสิ้นเปลืองแบบถังรั่วยังคงเหมาะสมกับนักขับที่มีกระเป๋าเงินหนาเป็นพิเศษ 

สำหรับเบื้องหลังการทำงานเพื่อสร้างให้ Ranger Raptor Next-Gen มีรูปลักษณ์ที่ลงตัวและโดนใจลูกค้า ทีมงานฟอร์ดใช้ดินเหนียวมากถึง 4,000 กิโลกรัม ในการทำรถต้นแบบ ร่างภาพสเก็ตช์หลายร้อยภาพ ใช้สีหลายร้อยลิตร บนการทำงานทั้งในและนอกสถานที่อีกหลายพันชั่วโมง ในการออกแบบนักล่าเจเนอเรชันใหม่ ทุกรายละเอียดของดีไซน์ต้นแบบทำขึ้นด้วยมือเพื่อถ่ายทอดรูปทรง ฟังก์ชัน และความรู้สึกไปสู่ตัวรถ วิดีโอความยาว 90 วินาที บอกเล่าเบื้องหลังการทำงานของทีมออกแบบ Ranger Raptor Next-Gen ตั้งแต่ยังเป็นภาพร่างบนกระดาษสเก็ตช์ จนกลายเป็นรถกระบะคันโตที่ขับได้ดีที่สุดในตลาดรถปิกอัพของประเทศไทย 

เมื่อพูดถึงการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ เราอาจนึกถึงเครื่องจักรที่ซับซ้อนในสายการผลิตขนาดใหญ่ แต่อันที่จริงแล้วสิ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการเหล่านี้ คืองานของช่างฝีมือที่ต้องสเก็ตช์ภาพหลายร้อยภาพ ขึ้นรูปดินเหนียวหลายพันกิโลกรัม และใช้สีหลายร้อยลิตรในการรังสรรค์รถต้นแบบ ทุกงานล้วนเริ่มต้นมาจากการตั้งโจทย์ ทีมดีไซน์ของ Ranger Raptor Next-Gen เจเนอเรชันใหม่ มีโจทย์ที่จะกลายเป็นแกนหลักของงานออกแบบ และบ่งบอกว่าในงานดีไซน์ต้องใช้แรงบันดาลใจและองค์ประกอบที่จำเป็นอะไรบ้าง เดฟ ดูวิทท์ ผู้จัดการฝ่ายออกแบบภายนอก กล่าวว่า “เมื่อเราสรุปโจทย์เกี่ยวกับงานครีเอทีฟได้แล้ว ทีมนักออกแบบจะเริ่มทำงานอย่างแรกนั่นคือการสเก็ตช์ภาพด้วยดินสอลงบนกระดาษ และเมื่อภาพร่างที่มีมากมายหลายร้อยแบบได้รับการอนุมัติ ทีมออกแบบดิจิทัลจะนำมาขึ้นแบบจำลองเสมือนจริงเพื่อใช้เป็นต้นแบบ และส่งต่อให้ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างโมเดลดินเหนียว

ในขั้นตอนนี้ใช้ดินเหนียวมากกว่า 4,000 กิโลกรัม สร้างโมเดลขนาด 1 ต่อ 3 ก่อนที่จะพัฒนาเป็นโมเดลเท่ากับขนาดจริงโดยใช้เครื่องจักร จากนั้นทีมประติมากรที่เชี่ยวชาญจะเข้ามาตกแต่งรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้าย เมื่อทั้งหมดนี้เสร็จสิ้น หัวหน้าฝ่ายออกแบบจะอนุมัติ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบหลังจากนี้ไม่ได้อีกแล้ว นอกจากนี้ทีมปั้นดินยังสร้างโมเดลของพวงมาลัย แผงหน้าปัด และเบาะที่นั่ง ที่มีขนาดเท่ากับอุปกรณ์จริงด้วย ในขณะที่ทีมปั้นดินเหนียวทำงาน ทีมสีและวัสดุจะเริ่มคัดเลือกผ้า พื้นผิว และสีที่ช่วยเน้นรูปลักษณ์และความรู้สึกของกระบะเจเนอเรชันใหม่ รวมทั้งสอดคล้องกับดีเอ็นเอด้านดีไซน์ของรถรุ่นนี้ ส่วนทีมออกแบบภายในจะคอยดูแลเพื่อให้มั่นใจว่าห้องโดยสารภายในให้ความรู้สึกเหมือนค็อกพิทของเครื่องบิน และตอบโจทย์การใช้งานจริงได้สูงสุดด้วยเช่นกัน

ในระหว่างที่ทีมอื่นๆ กำลังทำงานด้านรูปลักษณ์ภายในและภายนอกของรถ ทีมวิศวกรออกแบบจะดูรายละเอียดที่ลงลึกกว่าความสวยงาม เพื่อให้แน่ใจว่ารถคันนี้ไม่ได้มีดีแค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากการทำงานอย่างหนัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานทำมือ ของทีมครีเอทีฟและช่างฝีมือมากความสามารถ คือรถกระบะคันโตที่มีรูปทรงลงตัวสมส่วน ทั้งความดุดันของด้านหน้า ส่วนด้านข้างที่สวยงามและสอดคล้องกันทั่วทั้งคัน ด้านหลังที่ยึดโยงกับดีไซน์ในอดีตของรถกระบะสายพันธุ์อเมริกัน 

“โจทย์สำคัญในการออกแบบ Ranger Raptor Next-Gen เจเนอเรชันใหม่ คือการให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและตอบโจทย์การใช้งานจริง เพื่อยกระดับรถในตระกูล Ranger ให้เหนือไปอีกขั้น” แม็กซ์ ทราน หัวหน้าทีมออกแบบกล่าว ทีมนักออกแบบต้องการสื่อถึงตัวตนของ Raptor เจเนอเรชันใหม่ ผ่านการออกแบบ เดฟกล่าวเสริม “ทันทีที่ได้เห็น คุณจะสัมผัสได้ถึงขุมพลังและสมรรถนะของรถ และรู้ได้ทันทีว่ากระบะรุ่นนี้อัดแน่นไปด้วยดีเอ็นเอของ Ford Performance เป็นรถกระบะในตระกูล Ranger ที่แตกต่างไปจากรุ่นมาตรฐาน” เขากล่าว

Ford Ranger Raptor Next-Gen รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ แม้ว่ากระบะแต่ละรุ่นในตระกูล Raptor จะมีจุดเด่นที่ต่างกัน แต่รถทุกคันในตระกูล Raptor จะต้องมีองค์ประกอบที่เห็นแล้วรู้ได้ทันที เช่น ตัวอักษร F-O-R-D ขนาดใหญ่บนกระจังหน้าสีดำ ไฟหน้าแบบเมทริกซ์ แอลอีดี กันชนหน้าและหลังทำจากเหล็กที่แข็งแรงทนทานเพื่อการขับขี่ออฟโรดสุดหฤโหด รวมถึงแผ่นกันกระแทกที่ผลิตจากเหล็กที่มีความทนทานสูง ฝากระโปรง ช่องระบายอากาศด้านข้าง และโป่งซุ้มล้อ องค์ประกอบทั้งหมดที่กล่าวมามีความโดดเด่นที่แตกต่างไปจาก Ranger เจเนอเรชันใหม่รุ่นอื่นๆ ฝากระโปรงหน้าซึ่งนูนขึ้นเพื่อสื่อถึงขุมพลังภายใน ท่อไอเสียคู่ที่ติดตั้งไว้สูงขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง รวมไปถึงการตกแต่งด้วยสีเทาเข้มในส่วนอื่นๆ

“เราเชื่อว่า Ranger Raptor Next-Gen จะโดดเด่นและแตกต่างจากรถกระบะ Ford รุ่นอื่นๆ และยังแตกต่างอย่างโดดเด่นจากรถในตระกูล Raptor ทั้งหมดด้วย” เดฟกล่าว “หากคุณจอดรถเหล่านี้ไว้ข้างกัน คุณจะเห็นได้ถึงสิ่งที่ทำให้รถแต่ละรุ่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ ที่เชื่อมโยงรถแต่ละคันเข้าไว้ด้วยกัน”

นิค เอเทอโรวิค ผู้จัดการฝ่ายออกแบบภายใน Ranger Raptor Next-Gen กล่าวว่า การตกแต่งภายในจะต้องสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้าในการปลดล็อกการขับขี่ ด้วยสมรรถนะของรถ “เราต้องการพัฒนาห้องโดยสารที่ให้ประสบการณ์การขับขี่แบบรถกระบะออฟโรด ที่พร้อมลงสนามแข่ง ควบคู่กับการมอบความสะดวกสบายแบบรถสปอร์ตที่ทันสมัย” นิคกล่าว ห้องโดยสารสื่อถึงพลังและความดุดันของการเป็นยานยนต์ออฟโรด เช่นเดียวกับการออกแบบตัวถังภายนอก จากการตกแต่งด้วยสีส้ม ‘โค้ด ออร์เรนจ์’ ทั่วห้องโดยสาร แผงหน้าปัดและด้านบนแผงประตูบุด้วยหนังเทอร์รา ซูเอด ที่นุ่มแต่ทนทานและทำความสะอาดง่าย การเคลือบผิวแบบด้านยังช่วยลดแสงสะท้อน และเพิ่มความหรูหราในแบบรถแข่งให้กับห้องโดยสาร

เบาะที่นั่งแบบ Ford Performance เอกลักษณ์เฉพาะ ได้รับแรงบันดาลใจจากเบาะเครื่องบินขับไล่ F-22 Raptor ที่โอบกระชับกับสรีระ เพื่อความมั่นใจในทุกสภาพถนน วัสดุที่ใช้พัฒนาขึ้นเพื่อให้ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานและความสวยงาม ตกแต่งด้วยหนังกลับและวัสดุผิวด้านแบบ ‘ซูเปอร์แมตต์’ นอกจากนี้เบาะที่นั่งด้านหลังก็ยังได้รับการออกแบบให้รองรับสรีระของผู้โดยสารได้ดีเช่นเดียวกับเบาะหน้า “ที่นั่งบนเครื่องบินรบจำเป็นต้องรองรับการเคลื่อนที่ของผู้โดยสารทั้งการโยกซ้ายขวาและการขยับขึ้น-ลง เราจึงทุ่มเทเวลาอย่างมากในการศึกษารายละเอียดสำคัญๆ ของเบาะที่นั่งของเครื่องบินขับไล่ F-22 เพื่อนำมาพัฒนาและออกแบบเบาะที่นั่ง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้โดยสารที่นั่งด้านหลังจะต้องสัมผัสถึงความสบายได้เท่ากับผู้โดยสารและผู้ขับขี่ที่อยู่ด้านหน้า” นิคกล่าว

ผู้ขับสัมผัสได้ถึงการควบคุมเสมือนอยู่ในค็อกพิทของเครื่องบิน พวงมาลัยหนังเกรดพรีเมียม ดีไซน์ใหม่ ขอบหนาจับสบาย มีที่พักนิ้วโป้งเพื่อความกระชับ แถบบอกตำแหน่งองศาพวงมาลัย หรือ On-center mark สีส้ม แป้นแพดเดิลชิฟต์เคลือบแมกนีเซียม มีปุ่ม My Mode ที่มีเฉพาะใน Ranger Raptor Next-Gen เพื่อช่วยให้เจ้าของรถเลือกโหมดการขับขี่ ทั้งแบบโหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดบาฮา รวมถึงระบบควบคุมการขับขี่ ระบบกันสะเทือน และระบบท่อไอเสีย สามารถเลือกโหมดเงียบ เพื่อรักษาสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนบ้านได้ ห้องโดยสารได้รับการออกแบบใหม่ให้รองรับการแสดงผลผ่านแผงหน้าปัดดิจิทัลความชัดเจนสูงขนาด 12.4 นิ้ว ที่ผู้ขับสามารถปรับรายละเอียดของการแสดงผลได้ตามต้องการ พร้อมแสดงภาพเคลื่อนไหวขณะเริ่มต้นใช้งานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับรถกระบะสมรรถนะสูง เสริมด้วยหน้าจอแบบสัมผัสแนวตั้งตรงกลางขนาด 12 นิ้ว ที่แสดงผลการเชื่อมต่อและระบบความบันเทิงผ่านระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 4A® รุ่นล่าสุด “Ranger Raptor Next-Gen ดุดัน ทรงพลังทั้งภายในและภายนอก ด้วยรายละเอียดการออกแบบตั้งแต่แผงหน้าปัดดิจิทัล การควบคุมระบบกันสะเทือน เลือกโหมดท่อไอเสีย และโหมดการขับขี่เพียงปลายนิ้วสัมผัส เบาะที่นั่งโอบกระชับนั่งสบาย หน้าจอทัชสกรีนที่ออกแบบมาเพื่อการขับขี่แบบออฟโรดโดยเฉพาะ ตลอดจนการตกแต่งภายในด้วยสีส้ม โค้ด ออเรนจ์ เป็นที่สุดแห่งรถกระบะออฟโรดที่โดดเด่นและแตกต่างอย่างแท้จริง” นิคเสริม.