เผยแพร่: ปรับปรุง: โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ศูนย์ข่าวขอนแก่น – เจอแล้ว! รองเท้าสตั๊ดนักฟุตบอลโรงเรียนคอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ หลังถูกโจรลักยกทีมก่อนลงฟาดแข้งนัดสำคัญระดับจังหวัด โดยตำรวจภาค 4 ตรวจสอบพบอยู่ในรถยนต์จอดอยู่ที่ บขส.3 ขอนแก่น แต่ตัวผู้ต้องหาล่องหน
จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Torslur Ngorknavung ซึ่งเป็นครูผู้ฝึกสอนนักกีฬาฟุตบอล โรงเรียนคอนสวรรค์ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ โพสต์ภาพเด็กนักเรียนในชุดแข่ง นั่งเศร้า หลังถูกคนร้ายขโมยรองเท้าสตั๊ดไปทั้งทีมก่อนลงแข่งขันนัดสำคัญระดับจังหวัด พร้อมกับแคปชันว่า
“นักฟุตบอลไม่มีสตั๊ด ก็เหมือนออกรบโดยไม่มีอาวุธ อยากสู้ แต่เราไม่ได้สู้ ขอโทษที่พาทุกคนไปไม่ถึงที่หวังไว้ มันไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเลย ไม่ว่ากับโรงเรียนไหนก็ตาม มันไม่ควรเกิดขึ้น เสียโอกาส เสียดาย เสียใจ เสียใจมาก ขอโทษเด็กๆด้วย วันนี้มันไม่ใช่วันของพวกเรา” ทำให้นักฟุตบอลโรงเรียนดังกล่าวที่ต้องไปแข่งขันอีกสนาม ไม่มีอุปกรณ์ทำการแข่งขันต่อ ต้องถูกตัดสิทธิ ทำให้แพ้ตกรอบอย่างน่าเสียดาย
สำหรับการแข่งขัดนัดนี้ ทีมโรงเรียนคอนสวรรค์ต้องลงฟาดแข้งกับนักเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดชัยภูมิ ฟุตบอลชายรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี รอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ จ.ชัยภูมิ อย่างไรก็ตามมีกล้องวงจรปิดจับภาพรถยนต์คันที่คาดว่าน่าจะเป็นของคนร้ายเอาไว้ได้ด้วย
หลังเกิดเหตุผู้เสียหายจึงได้ไปแจ้งความ ที่สถานีตำรวจภูธรชัยภูมิ และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด สังเกตว่ามีรถยนต์สีน้ำเงินคันหนึ่งถอยเข้าไปจอดเทียบข้างรถกระบะโรงเรียนคอนสวรรค์ แล้วเปิดประตูรถไปหยิบทรัพย์สินและรองเท้าฟุตบอลนักเรียนมาใส่ไว้ในรถตัวเอง ก่อนขับออกไป ทางเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสุพจน์ สีเหลื่อมใส เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสิงห์บุรี ในฐานความผิดข้อหาลักทรัพย์
ล่าสุดวันนี้ (28 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 4 นำโดย พ.ต.ต.ไตรรัตน์ แงดสันเทียะ สว.กก.สส.ภ.จว.ขอนแก่น หัวหน้าชุด ชป.4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปจร.ภ.4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ท่าพระ ได้ร่วมกันตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัยที่ถูกขโมยมาจากจังหวัดสิงห์บุรี และผู้ก่อเหตุได้นำไปก่อเหตุลักทรัพย์ ชุดกีฬาและรองเท้ากีฬาฟุตบอลของนักเรียน ในพื้นที่ของจังหวัดชัยภูมินำมาจอดทิ้งไว้ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารขอนแก่น แห่งที่ 3
เบื้องต้นตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวพบชุดกีฬาและรองเท้ากีฬาหลายรายการ แต่ไม่พบตัวคนร้าย จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการไล่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี