รถแข่งไฟฟ้าบินได้เป็นครั้งแรกในออสเตรเลีย ก่อนหน้าที่จะมีการนำเสนอการแข่งขันแบบขับระยะไกลในปลายปีนี้
Alauda Airspeeder Mk3 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่หลายใบพัดยาว 4 เมตร ได้ทำการทดสอบเที่ยวบินไร้คนขับครั้งแรกในทะเลทรายออสเตรเลียใต้ โดยได้รับการอนุมัติจากสำนักงานความปลอดภัยการบินพลเรือนของออสเตรเลีย
ด้วยน้ำหนัก 130 กก. ยานพาหนะนี้มีอัตราส่วนแรงขับต่อน้ำหนักที่มากกว่าเครื่องบินขับไล่ที่ล้ำหน้าที่สุดในโลกบางลำ
Matthew Pearson ผู้ก่อตั้งบริษัทที่สร้างรถ Alauda Aeronautics กล่าวว่าจะทำการบินในการแข่งขันแบบ Formula One โดยมีเครื่องบินมากถึง 10 ลำที่บินอยู่ในอากาศในเวลาเดียวกัน การแข่งขันสามรายการจะมีขึ้นในปี 2564 ในสถานที่ที่ยังไม่ได้ประกาศ
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับภูมิประเทศ ยานพาหนะจะบินด้วยความเร็วระหว่าง 150 ถึง 250 กม. ต่อชั่วโมง Pearson กล่าว
เครื่องบินมีพื้นที่ในห้องนักบินสำหรับนักบิน แต่ในขณะนี้ถูกควบคุมโดย “อวาตาร์เทเลโรโบติก” “เรามีหุ่นยนต์อยู่ในห้องนักบิน เชื่อมโยงกับนักบินบนพื้นดิน เมื่อนักบินหันศีรษะ หุ่นยนต์จะหันศีรษะ” เพียร์สันกล่าว
หากการแข่งขันแบบไร้คนขับสามารถดำเนินการได้อย่างปลอดภัย ทีมงานหวังว่าจะเปลี่ยนไปสู่การแข่งขันที่ขับด้วยร่างกาย
รถบินได้มีการติดตั้ง are ลิดาร์ และระบบเรดาร์ที่ทำงานประสานกันในยานพาหนะต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนกลางอากาศ “โดยพื้นฐานแล้ว นักบินมีอิสระเต็มที่ … แต่เราสามารถสร้างสนามพลังเสมือนระหว่างเครื่องบินในอากาศ แม้จะอยู่ในความเร็วสูงจริงๆ” เพียร์สันกล่าว
ยานพาหนะใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมโพลิเมอร์ที่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ประมาณ 15 นาทีในการบิน การแข่งขันแต่ละครั้งจะใช้เวลา 45 นาที โดยต้องหยุดพักสองครั้งเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 วินาทีในแต่ละครั้ง
จาก Back to the Future สู่ Blade Runner, รถบินได้เป็น คุณสมบัติทั่วไปในนิมิตไซไฟแห่งอนาคต.
เพียร์สันกล่าวว่าเขาหวังว่าซีรีส์การแข่งขันชื่อ Airspeeder EXA จะช่วยปรับปรุงความปลอดภัยของเทคโนโลยีและ “เร่งการเคลื่อนย้ายอากาศบริสุทธิ์สำหรับเมืองของเรา”
“มันไม่ใช่แค่การแข่งเพื่อเห็นแก่การแข่งรถ” เขากล่าว “การแข่งรถทำให้เราคาดเข็มขัดนิรภัย ดิสก์เบรก และกระจกมองหลัง”
Dr Simona Mihaita หัวหน้าแผนก Future Mobility Lab ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีซิดนีย์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ Alauda กล่าว รถบินได้ และ แท็กซี่ ได้รับการพัฒนามาหลายปี
“เมื่อเทียบกับโดรนบินได้อื่นๆ หรือแท็กซี่บินได้ในตลาด [the Mk3] อาจจะเร็วที่สุด” เธอกล่าว “การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ดูเหมือนว่าจะปรับให้เข้ากับการแข่งขันทางอากาศได้อย่างเหมาะสม”
การใช้งานรถยนต์ที่บินได้จริงในช่วงแรกบนท้องฟ้าของเราอาจเป็นการขนส่งสินค้า เช่น การจัดส่งพัสดุ ซึ่งดำเนินการโดยโดรนแล้ว เธอกล่าว
ในปี 2019 Casa ได้อนุมัติให้ a ธุรกิจส่งโดรนที่ดำเนินการโดยบริษัทแม่ของ Google เพื่อเปิดตัวในแคนเบอร์รา
“ในอนาคตอันใกล้นี้ ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ก็ตาม สำหรับคนที่ไม่กลัว เป็นไปได้ว่าเราจะบินไปทำงานแทนการขับรถไปทำงาน” มิไฮตะกล่าว พร้อมเสริมว่าการขาดโครงสร้างพื้นฐานที่ชาร์จไฟจะเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ สู่การยอมรับอย่างกว้างขวาง
“คุณต้องการที่จะสามารถ เรียกเก็บเงินยานพาหนะเหล่านี้ตามความต้องการ on ที่ไหนก็ได้” เธอกล่าว “น่าเสียดายที่เราอยู่ห่างไกลจากสิ่งนั้นมาก เพราะโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าในปัจจุบันของเราต้องการการอัพเกรดอย่างมาก”