ย้อนอดีต ขุดกระดูกรถญี่ปุ่นคลาสสิกในดวงใจ

ในอดีตเมื่อกว่า 50 ปีก่อน รถยนต์คูเป้ตัวท็อปๆ ที่ขายเฉพาะในญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะเป็นรถสปอร์ตที่หายาก ผลิตในจำนวนไม่มาก และถูกสงวนไว้สำหรับขายภายในให้กับคนญี่ปุ่นเท่านั้น ต่อไปนี้คือโมเดลคูเป้ที่งดงาม (และมักถูกลืม) ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ซึ่งไม่เคยขายอย่างเป็นทางการในตลาดโลก มีเพียงไม่กี่คันที่ออกนอกเกาะญี่ปุ่นจากการนำเข้าส่วนบุคคลในภายหลัง รถสปอร์ตโบราณได้รับการยกย่องว่าเป็นรถคลาสสิกที่กลายเป็นที่ต้องการอย่างสูง

TOYOTA COROLLA GT AE86

Corolla ที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์คงต้องยกให้กับรถส่งเต้าหู้ AE86 มันไม่ได้เป็นเพียงรถที่ยอดเยี่ยมในด้านรูปทรงที่ตรงกับความต้องการในยุค 80 เท่านั้น แต่ยังเป็นรถดริฟต์ที่เหี้ยมโหด และเป็นรถแข่งที่เคยคว้ารางวัล European Touring Car Championship ในปี 1988 ความสำเร็จของ Corolla GT AE86 เกิดขึ้นอย่างยาวนาน เป็นรถที่อยู่ในใจนักขับสายเรโทร นั่นเป็นเพราะการควบคุมที่ว่องไวของรถ การบังคับเลี้ยวที่ตอบสนองได้ดี เครื่องยนต์ทวินแคม 1.6 ลิตร ทั้งหมดนี้ถูกวิศวกรของพี่โตจับมาขยำรวมกัน เพื่อทำให้ AE86 เป็นหนึ่งในรถที่ขับดีที่สุดในตลาดรถคูเป้ไซส์เล็ก และเป็นรถที่น่าใช้สำหรับทั้งนักแข่งและนักดริฟต์ เมื่อพูดถึงนักดริฟต์ Keiichi Tsuchiya หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ Drift King ขับ AE86 จนได้สถานะหนึ่งในนักดริฟต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล สิ่งหนึ่งที่ช่วยทำให้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามก็คือ AE86 ชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโมเดลโบราณนี้ก็คือ การรับบทบาทนำแสดงใน Initial D ซึ่งเป็นหนึ่งในซีรีส์การ์ตูนมังงะที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุคนั้น จนถึงวันนี้ Toyota GT AE86 ยังคงเป็นสินค้ายอดนิยมในหมู่วัยรุ่นที่คลั่งไคล้ความเป็นไปในยุค 80 รวมถึงนักสะสมที่ร่ำรวย การพยายามหา AE86 สภาพดีในวันนี้เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่ถ้าโชคดีคุณอาจได้รถที่มีการดัดแปลงไม่มากนัก พร้อมราคาที่พอจะรับกันได้เฉียดๆ 2.5-3 ล้านบาท 

Toyota Corolla GT AE86 specifications

Engine: 1.6-liter twin-cam engine

Horsepower: 112 horsepower

Torque: 100 pound-feet

0 to 100 km/h: 9.0 seconds

Top Speed: 180km/h

TOYOTA LAND CRUISER FJ40

Toyota Land Cruiser FJ40 เป็นรถเอสยูวีแบบ body-on-frame ที่แข็งกระด้างและไร้สิ้นซึ่งความสะดวกสบายของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในรถ!! ทั้งหมดที่คุณคาดหวังจาก SUV ในปัจจุบัน จะไม่มีวันหาเจอใน Land Cruiser FJ40 มันเป็นรถออฟโรดโบราณ ถือกำเนิดในยุค 1960 การออกแบบให้รถมีฐานล้อสั้น มีประโยชน์อย่างแท้จริงสำหรับการขับในสภาวะที่ยากลำบาก จุดประสงค์และวัตถุประสงค์ทั้งหมดของ Land Cruiser FJ40 นั่นก็คือ ยานพาหนะที่ลุยฝ่าทางโหดๆ ซึ่งไม่มีใครเทียบได้ในด้านความสามารถทางวิบากและความแกร่งของแชสซี สมรรถนะด้านออฟโรด เป็นข้อพิสูจน์ถึงความสามารถของรถ เป็นหนึ่งในเอสยูวีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลที่ Toyota เคยผลิตโมเดล Land Cruiser ตั้งแต่ปี 1960 ถึง 2001 นั่นคือกว่า 40 ปีของรุ่นเดียวกันที่ออกสู่ตลาดโดยไม่มีการหยุดชะงัก ความนิยมของ Land Cruiser FJ40 ยังกระตุ้นการลอกเลียนแบบอีกหลายครั้งด้วยรถ FJ Cruiser ที่ทันสมัยกว่าทั้งหมดนี้ทำให้ Land Cruiser FJ40 กลายเป็นรถเอสยูวีคลาสสิกที่น่าเก็บ มันทนทานมากกว่าการทดสอบของเวลาและเส้นทางตลอดช่วงอายุ มันยังกลายเป็นหนึ่งใน SUV คลาสสิกที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในโลกอีกด้วย

Toyota Land Cruiser FJ40 specifications

Engine: 3.9-liter six-cylinder engine

Horsepower: 125 horsepower

Torque:  256 Nm

0 to 100 km/h ? 

Top Speed: 156 km/h

MAZDA COSMO 110S

เมื่อคุณพูดถึงคำว่า โรตารี่+คอสโม ให้กับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์คลาสสิก หลายคนจะจำได้ทันทีว่านี่คือรถสปอร์ตญี่ปุ่นที่มีความสำคัญมากที่สุดคันหนึ่งในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่นยุค 60 Mazda Cosmo ขึ้นชื่อว่าเป็นรถสปอร์ตคันเล็กที่สวยงามและมีอายุการใช้งานยาวนาน ผลิตในปี 1967 สมรรถนะการทำงานของเครื่องยนต์สูบหมุนอันทรงคุณค่าสำหรับ Mazda ในยุคนั้น ส่งผลให้ Mazda Cosmo เป็นรถคูเป้ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เป็นรถสปอร์ตที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกรู้จัก Mazda มากยิ่งขึ้น ชื่อเสียงที่แท้จริงของ Cosmo ในฐานะหนึ่งในรถยนต์ที่ผลิตขึ้นเป็นครั้งแรกที่ใช้ขุมกำลังเครื่องยนต์โรตารี่ Wankel แบบสองโรเตอร์

เครื่องยนต์ลูกสูบหมุนแบบสามเหลี่ยม นำพาอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ของ Mazda ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เครื่องยนต์โรตารี่ไม่เพียงแต่เล็กและเบากว่าเครื่องยนต์ทั่วไป แต่ยังให้กำลังมากกว่า และมีกำลังรอบเครื่องยนต์ที่สูงกว่าเครื่องยนต์แบบสูบเรียง หรือเครื่องยนต์สูบ V ซึ่งเป็นเครื่องยนต์มาตรฐานในสมัยนั้น ประวัติความเป็นมาของเครื่องยนต์โรตารี่ Wankel ของ Mazda นั้นเชื่อมโยงกับรถสปอร์ตรุ่น Cosmo เสมอ และทำให้รถรุ่นนี้เป็นหนึ่งในยานพาหนะที่สำคัญที่สุด ไม่เพียงแต่ในยุคนั้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประวัติศาสตร์โดยรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลกอีกด้วย 

Cosmo 110S coupe ถือเป็นรถรุ่นแรกในสายการผลิตเครื่องยนต์โรตารี่ เปิดตัวในรูปแบบรถสปอร์ตต้นแบบแนวคิดนานหนึ่งปีเต็ม มียอดการผลิตมากกว่า 2000GT ของคู่แข่งตราสามห่วง ในงาน Tokyo Motor Show ปี 2507 Cosmo ฉายแววดังออกมาให้เห็นจากเสียงตอบรับของสื่อมวลชน หลังงานแสดงรถที่โตเกียว รถตัวอย่างก่อนการผลิต 80 คัน ถูกนำไปใช้ในตัวแทนจำหน่าย Mazda เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการขับ ในช่วงปี 2508-2509 เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องยนต์สูบหมุน Wankel ที่ Mazda บอกว่าเป็นขุมกำลังที่เข้ามาปฏิวัติวงการ สามารถพิสูจน์ตัวเองว่าใช้งานได้จริง และมีความน่าเชื่อถือในมือลูกค้า

เมื่อวิศวกรของ Mazda มั่นใจในความทนทานของเครื่องโรตารี่ตัวใหม่แล้ว รถรุ่นแรก Cosmo 110S ก็ออกสู่ตลาดในปี พ.ศ.2510 โดยมีการผลิตประมาณหนึ่งคันต่อวัน การผลิตรวมตลอดระยะเวลาห้าปี มีจำนวนเพียงแค่ 1,176 คัน เยอะกว่า 2000 GT แต่หายากพอๆ กัน

เครื่องยนต์โรตารี่ 998cc ขนาดกะทัดรัดของ Cosmo มีกำลังแค่ 112 แรงม้าในรถรุ่นแรกสุด รุ่นต่อมาตั้งแต่กลางปี 1968 เป็นต้นไป เบ่งบานพลังงานได้กำลังถึง 130 แรงม้า ส่งผลให้ความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นอีก 8 กิโลเมตร เป็น 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งสอดคล้องกับอัตราเร่งที่เฉียบคมขึ้นเล็กน้อย หลังจากพักไปสามปี Mazda ได้ฟื้นชื่อรุ่น Cosmo สำหรับรถเก๋งครอบครัว เครื่องยนต์โรตารี่ เบาะนั่งแบบ 2+2 ที่หรูหราและแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงในปี 1975 โดยมีการกำหนดชื่ออย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเลิกจำหน่ายด้วย Eunos Cosmo coupe เครื่องโรตารี่สามโรเตอรี่ รุ่นที่สี่ในปี 1996

Mazda Cosmo specifications

Engine: Two-rotor Wankel rotary engine

Horsepower: 110 horsepower

Torque: 130 Nm

0 to 100 km/h 8.7 s

Top Speed: 185 km/h

HONDA CIVIC

Civic ทุกรุ่นที่ทำให้ Honda ยิ่งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ มีรากฐานมาจากช่วงเวลาที่เชื้อเพลิงมีราคาพุ่งสูงผลอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบในธุรกิจผลิตรถยนต์ โดยเฉพาะรถที่ใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ความรู้สึกประหยัดและพอเพียงดังกล่าวยังคงมีอยู่ใน Civic หลายๆ รุ่น จนถึงทุกวันนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่ารถซีดานรุ่นยอดนิยมของ Honda ที่พยายามทำยอดขายให้แซงหน้ารถคู่แข่งอย่าง Corolla

Civic เป็นหนึ่งในรถยนต์รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ในปี 1972 เมื่อ Honda เปิดตัว Civic รุ่นแรกสู่สายตาของสาธารณชน ในช่วงเวลานั้นผู้คนต้องการรถยนต์ที่ประหยัด ทนทาน และมีราคาไม่แพง เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ยานยนต์ของ Honda หลังจากประสบความสำเร็จในขั้นต้นกับการผลิตรถจักรยานยนต์ Honda Civic รุ่นแรก ไม่ใช่รถที่เร็วที่สุดเท่าที่จะจินตนาการได้ และไม่ใช่รถที่วิเศษที่สุดที่เงินสามารถซื้อได้ แต่ผ่านการตรวจสอบตามข้อกำหนดมากมาย Honda ทำตามเป้าหมายทางการตลาดที่ยังคงใช้ได้อยู่จนถึงทุกวันนี้ นั่นก็คือ การผลิตรถยนต์เพื่อการใช้งานที่ราคาไม่แพง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ Civic กลายเป็นรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จเชิงพาณิชย์คันแรกของ Honda ตั้งแต่นั้นมา มันก็กลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่สามารถระบุตัวตนได้มากที่สุดในอุตสาหกรรมยานยนต์ Civic พัฒนาจากซับคอมแพ็กราคาถูก ไปเป็นรถคอมแพ็กคาร์ที่มีความซับซ้อนในปัจจุบัน ซึ่งเต็มไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของ Honda 

1972 Honda Civic specifications

Engine: 1.2-liter four-cylinder engine

Horsepower: 73 horsepower

Torque: 100 Nm

0 to 100 km/h 13.8 seconds 

Top Speed: 108 km/h

DATSUN 240Z

240Z เป็นรถสปอร์ตญี่ปุ่นคันแรกที่ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ หลังจากข้ามน้ำข้ามทะเลดั้นด้นไปขายในสหรัฐอเมริกา มันเดินทางมาถึงในปี 1970 ในช่วงเวลาที่กฎระเบียบด้านความปลอดภัยถูกปรับเปลี่ยนใหม่ ทำให้รถยนต์ที่เป็นสินค้าส่งออกของญี่ปุ่นต้องปรับตัวตามเพื่อความอยู่รอด ขณะที่ผู้คนเริ่มมองหารถสปอร์ตคันเล็กที่ขับสนุกและมีราคาจับต้องได้ Nissan หรือ Datsun ในขณะนั้น สนองความกระหายในสมรรถนะของยานยนต์ ด้วยรถรุ่น 240Z โดยบรรจุเครื่องยนต์ SOHC หกสูบเรียง ความจุ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 130 แรงม้า รูปทรงที่สวยงามทำให้ 240Z โดดเด่นจากสายตาของฝูงชน การออกแบบที่เซ็กซี่ ทำให้นึกถึงรถยนต์ยุโรปที่แปลกใหม่ในยุคนั้น ตั้งแต่ไฟหน้าของ Porsche ตัวรถ Jaguar ไปจนถึงโปรไฟล์ของ Aston Martin รถ Datsun รุ่น 240Z มีราคาจับต้องได้ ซึ่งดูหรูหรากว่าที่เป็นจริงมาก ผู้ซื้อชาวอเมริกันมักจะให้ความสนใจกับ 240Z ที่เปล่งแสงสะท้อนราวกับผีเสื้อกลางคืน จนถึงทุกวันนี้ “Fairlady” 240Z ยังคงเป็นสินค้ายอดนิยมในหมู่นักสะสมรถและผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์คลาสสิก

Datsun 240Z specifications

Engine: 2.4-liter inline-six engine

Horsepower: 151 horsepower

Torque: 197 Nm

0 to 100 km/h 8.9seconds

Top Speed: 202 km/h

TOYOTA 2000GT

2000 GT Coupe เปิดตัวครั้งแรกในฐานะรถต้นแบบที่มีรูปทรงน่าตื่นตะลึง ในงานโตเกียวมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 12 เมื่อปลายปี พ.ศ.2508 2000 GT เป็นรถที่ Toyota พัฒนาร่วมกับ Yamaha ลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่ร่ำรวย ต่างก็ส่งเสียงโห่ร้องด้วยความยินดีที่ Toyota ลงมือผลิตจริง แม้จะแค่นิดเดียวก็ยังดีกว่าเป็นได้แค่รถต้นแบบ เครื่องยนต์ 6 สูบ กำลัง 152 แรงม้า ของ 2000GT วิ่งจากโรงงานออกสู่ตลาดรถหรูในประเทศญี่ปุ่นด้วยรถยนต์รุ่นพิเศษของ Toyota ในฤดูใบไม้ผลิปี 1967 การประกอบแบบแฮนด์เมก เครื่องยนต์ส่งตรงไปยัง Yamaha และกำลังจากกระบอกสูบทั้งหกตัว แคมชาร์ปคู่ DOHC ซึ่งยกเครื่องยนต์รุ่นนี้มาจากเครื่องรุ่นท็อปของ Toyota Crown

ตัวเลขสมรรถนะของ Toyota 2000 GT เร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 8.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประสิทธิภาพของ 2000GT อยู่ในระดับกลางๆ เมื่อเทียบกับรถสปอร์ตฝั่งยุโรป มันเป็นรถที่มีชีวิตชีวา ด้วยมาตรฐานร่วมสมัยของงานประกอบ แม้ว่าห้องโดยสารแบบสองที่นั่ง (ออกแบบมาสำหรับลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่มีรูปร่างเล็ก) จะมีขนาดกะทัดรัดเกินไปสำหรับหุ่นของเศรษฐีในอเมริกาและยุโรปที่หนักถึงร้อยกว่ากิโล และเพื่อถ่ายทำหนังเจมส์บอนด์ จีงมีการดัดแปลงเป็น 2000 GT ให้กลายรถเปิดประทุนเพื่อใช้ในภาพยนตร์ 007 Bond ตอน You Only Live Twice ซึ่งถ่ายทำในญี่ปุ่น ปัจจุบัน Toyota 2000 GT เป็นรถญี่ปุ่นระดับสะสมขึ้นหิ้ง มันถูกสร้างขึ้นมาแค่เพียง 351 คันเท่านั้น และมีมูลค่าการขายเกิน 1 ล้านเหรียญสหรัฐในการประมูล

PRINCE SKYLINE SPORT COUPE

Prince Skyline Sport coupe ที่หรูหราแต่มีราคาแพง เริ่มสร้างกระแสให้กับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นให้หันมาใช้ดีไซเนอร์จาก Turin ความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบรถยนต์ กลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในช่วงต้นทศวรรษ 1960 โดยมี Nissan/Datsun, Mazda, Hino, Daihatsu, Suzuki และแบรนด์ญี่ปุ่นอื่นๆ เดินตามเส้นทางการบุกเบิกของ Prince นักออกแบบชาวอิตาลีฝีมือดีที่สุด ถูกโยกมาออกแบบรถใหม่ให้เหมาะกับผู้ใช้งานทั่วโลก

Giovanni Michelotti นักออกแบบยานยนต์ชื่อดังของตูรินเป็นผู้นำในเวทีนี้ มีการเปิดตัวรถต้นแบบ Prince Skyline Sport ที่ Turin Salon ในปี 1960 และได้รับเสียงวิจารณ์ไปในทางชื่นชม รถ Prince เวอร์ชันผลิตจริง เปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อเดือนเมษายน 1962 ทั้งแบบรถเก๋งสี่ที่นั่งและแบบเปิดประทุน โดยมีรถต้นแบบที่โดดเด่นของ Skyline ซึ่งทำด้วยมือ โดยช่างฝีมือชาวอิตาลีในขั้นต้น ซึ่งได้บินมายังญี่ปุ่น โดยได้รับเชิญให้สอนและฝึกอบรมคนงานในสายการผลิตท้องถิ่น เพื่อสร้างรถยนต์ชั้นยอดที่ประณีต

กระบวนการทำงานในครั้งนี้ ทำให้ราคาขายของ Skyline สูงขึ้นเป็นพิเศษ (มากกว่าสองเท่าของรถเก๋งผู้บริหารระดับแถวหน้าของค่าย Prince) ทำให้ลูกค้าชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้มากนัก เนื่องจากรถมีราคาแพง โดยมีรถเพียง 60 คันเท่านั้นที่ถูกสร้าง Skyline ของ Michelotti มีพื้นฐานมาจากกลไกง่ายๆ ของรถเก๋ง Prince Gloria 1900 รุ่นมาตรฐาน เครื่องยนต์โอเวอร์เฮดวาล์ว OHV สี่สูบ ให้กำลัง 94 แรงม้า เมื่อ Nissan เข้ายึดครอง Prince ในปี 1966 มีการผลิต Skyline รุ่นสปอร์ตอย่างต่อเนื่อง ในฐานะรถที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Datsun 

DATSUN SKYLINE GT-R COUPE 1971

ในเดือนสิงหาคม 1966 บริษัท Nissan Motor ได้เข้าซื้อกิจการและควบรวมกิจการกับ Prince ซึ่งเป็นคู่แข่งร่วมสัญชาติในการส่งออกรถไปขายยังต่างประเทศ ค่าย Prince ถือเป็นแบรนด์แห่งศักดิ์ศรีของรถสปอร์ตที่ผลิตในญี่ปุ่น หลังการควบรวม Nissan/Datsun เปิดตัวโมเดลรถสปอร์ตประสิทธิภาพสูง ซึ่งต่อมากลายเป็นลัทธิ Skyline

Skyline เปลี่ยนจาก Prince เป็น Nissan (และ Datsun) ในปี 1968 เมื่อ Prince Marque ถูกยกเลิกสายการผลิต และมีการเปิดตัวรถคูเป้สุดสวยรุ่น C10

Skyline C10 เจเนอเรชันนี้ เปิดตัวด้วยอนุพันธ์สมรรถนะสูงของ GT-R รุ่นแรกในปี 1970 โดยเริ่มจำหน่ายในรูปแบบรถเก๋งสี่ประตูเท่านั้น สำหรับเรื่องราวของ GT-R coupe ตามมาในต้นปี 1971 เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 162 แรงม้า บล็อก DOHC ซุ้มล้อแบบบานเปิดและไฟท้ายทรงกลม ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นคุณลักษณะการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของ GT-R รุ่นหลังๆ เกือบทั้งหมด ดังที่ยังคงปรากฏอยู่ในบั้นท้ายของรถ Nissan GT-R ในปัจจุบัน มีการส่งออกไปขายในต่างประเทศแค่ไม่กี่แห่ง รถ C10 GT-R ยังคงสงวนไว้สำหรับตลาดบ้านเกิดในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น จนกระทั่ง Datsun Skyline (C110) เจเนอเรชันที่สี่ ได้รับการประกาศเมื่อปลายปี 1972 ว่าจะมีการส่งออกโมเดลไปยังตลาดรถในยุโรป โดยได้รับฉายาว่า 240K GT.