ปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ สายเลือดรถสนามพันธุ์แท้

ปอร์เช่ เปิดตัว 911 จีที3 ใหม่ (The new 911 GT3) นับเป็นเจเนอเรชันที่ 7 ของรถสปอร์ตสมรรถนะสูง ซึ่งผ่านการพัฒนา ร่วมกับหน่วยงาน Porsche Motorsport อย่างใกล้ชิด ถ่ายทอดเทคโนโลยีชั้นเลิศจากสนามความเร็ว สู่รถในสายการผลิต ปกติได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าที่เคยมีมา

ศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 21.10 น.

ปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ สายเลือดรถสนามพันธุ์แท้

ปอร์เช่ เปิดตัว 911 จีที3 ใหม่ ใช้ระบบช่วงล่างด้านหน้าปีกนกคู่ double wishbone ผสานการออกแบบด้วย สุดยอดเทคโนโลยีด้านอากาศพลศาสตร์ ปีกหลังทรง swan neck และดิฟฟิวเซอร์ท้ายที่โดดเด่น เเบบเดียวกับรถแข่งจีที เจ้าสนามที่คว้าชัยมานับไม่ถ้วนอย่าง 911 อาร์เอสอาร์ รวมทั้งขุมพลังบ็อกเซอร์ 6 สูบนอน ขนาดความจุ 4.0 ลิตร ใช้พื้นฐานเดียวกันกับ 911 จีที อาร์ (911 GT3 R) ให้พละกำลังสูงสุดถึง 510 แรงม้า ผ่านการพิสูจน์ ความทนทาน จากสนามแข่งระยะยาวเสียงคำรามของเครื่องยนต์อันน่าเกรงขามก่อกำเนิด จากรอบการทำงานที่สูง เป็นพิเศษเช่นเดียวกับรถแข่ง 911 จีที3 คัพ ใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้คือจักรกลแห่งความเร็ว ที่ยอดเยี่ยมเหนือระดับเต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ สง่างาม เร้าอารมณ์ และทรงสมรรถนะสมบูรณ์เเบบทั้งในฐานะของรถสนามหรือการใช้งานในชีวิต ประจำวัน

This image is not belong to us

ความแข็งแกร่งที่สร้างจุดเด่นให้แก่ ปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ มาจากเอกลักษณ์เฉพาะตัวโดยแท้ ด้วยความเร็ว สูงสุดกว่า 320 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (318 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับเกียร์ PDK) สามารถวิ่งได้เร็วกว่าปอร์เช่ 911 จีที3 อาร์เอส รุ่นก่อนหน้า  นอกจากนี้ปอร์เช่ ยังนำเสนอระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เพื่อมอบ ประสบการณ์การขับขี่ในรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร โดยระบบอากาศพลศาตร์ที่เหนือชั้น คือสิ่งที่ถูกถ่ายทอดมาจากความเชี่ยวชาญบนสนามแข่งความเร็วที่สูงสะสมมายาวนานการสร้างแรงกดมหาศาลให้เกิดขึ้นกับตัวรถโดยไม่ส่งผลกระทบ กับค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน คืออัจฉริยภาพที่แท้จริงในตำแหน่งเพอร์ฟอร์มานซ์ โพสิชั่น ปีกหลังและดิฟฟิวเซอร์ ถูกปรับตั้งให้สามารถเพิ่มแรงกดจากอากาศพลศาสตร์เพื่อการเข้าโค้งความเร็วสูงอย่างมั่นใจสิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วน ถูกสงวนไว้อย่างเข้มงวดสำหรับการ ประลองกำลังบนสนาม แข่งเท่านั้น

This image is not belong to us

บนสนามระดับตำนานนูร์เบอร์กริง ซึ่งเปรียบเสมือนบรรทัดฐานในการวัดสมถรรนะของรถสปอร์ตทุกคัน ที่ถูกพัฒนาโดย ปอร์เช่ ระหว่างการทดสอบครั้งสุดท้าย , โดยปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ ได้สร้างสถิติอันน่าประทับใจ โดยทำเวลาได้เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 17 วินาที นักขับสังกัดทีม โรงงาน Lars Kern นำพารถผ่านเส้นชัยไปที่เวลา 6:59.927 นาที ตลอดระยะทางรอบสนาม 20.8 กิโลเมตร ส่วนของรอบสนามที่สั้นกว่า ในระยะทาง 20.6 กิโลเมตร ซึ่งใช้ในการบันทึกสถิติในอดีต 911 จีที3  สามารถทำเวลาได้ที่ 6:55.2 นาที ทั้งนี้ในการวิ่งทดสอบดังกล่าว มีเพียงยางรถยนต์ Michelin Pilot Sport Cup 2 R เท่านั้นที่เป็นอุปกรณ์พิเศษ ยนตรกรรมสปอร์ตรุ่นล่าสุดคันนี้ยังได้รับการยืนยันถึงสมรรถนะจากการขับขี่หลายรอบสนาม โดย Jörg Bergmeister ในฐานะ Porsche brand ambassador ทั้งนี้ Bergmeister นักขับมืออาชีพผู้มีประสบการณ์ในการขับบนสนาม ที่ได้รับสมญานามว่า “Green Hell” กล่าวว่า “นี่คือรถจากสายการผลิตปกติที่ยอดเยี่ยมที่สุด”

This image is not belong to us

This image is not belong to us

แม้ว่ารถคันนี้จะมาพร้อมตัวถังกว้างแบบ wide body ล้ออัลลอยขนาดใหญ่และอุปกรณ์ทางเทคนิคมากมาย แต่น้ำหนักตัวของปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ กลับแทบไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า ในรุ่นเกียร์ธรรมดามีน้ำหนักเพียง 1,418 กิโลกรัม และ1,435 กิโลกรัม เมื่อติดตั้งเกียร์ PDK ฝากระโปรงหน้าผลิตจากวัสดุ carbon fibre-reinforced plastic (CFRP) กระจกหน้าต่างน้ำหนักเบาจานเบรกและล้ออัลลอยแบบฟอร์จ ที่ผ่านการคัดสรร อย่างมั่นใจแล้วว่าจะไม่เพิ่มภาระในส่วนของน้ำหนักรวมเช่นเดียวกันกับพื้นที่ห้องโดยสารตอนหลัง ระบบระบายไอเสีย แบบสปอร์ตพร้อม exhaust flaps ปรับระดับด้วยไฟฟ้า สามารถลดน้ำหนักลงได้อีกไม่ต่ำกว่า 10 กิโลกรัม ทั้งยังคงให้สุ้มเสียงการทำงานที่เร้าใจ ไม่เปลี่ยนแปลง

This image is not belong to us

สายเลือดรถสนาม คือสิ่งที่ฝังแน่นในทุกรายละเอียดของปอร์เช่ 911 จีที3 ใหม่ มีห้องโดยสารที่ใช้งาน ออกแบบเดียวกันกับรถรุ่นปัจจุบันได้รับการเสริมอุปกรณ์เพิ่มเติมด้วยหน้าจอ track screen เพียงปลายนิ้วสัมผัสหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลวางตำแหน่งขนาบข้างซ้ายขวาของมาตรวัดรอบเครื่องยนต์ที่สามารถ วัดได้สูงสุดถึง 10,000 รอบต่อนาทีจะรับหน้าที่แสดงข้อมูลต่างๆ อาทิ แรงดันลมยาง แรงดันน้ำมันเครื่องอุณหภูมิ น้ำมันเครื่องระดับน้ำมัน เชื้อเพลิงในถังและอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่บนสนาม รวมทั้งแถบสี visual shift assistant บริเวณมุมซ้ายและขวาของมาตรวัดรอบทำหน้าที่เป็นสัญญาณไฟเตือน shift light ลักษณะเดียวกับที่ใช้ ในรถแข่ง ทั้งหมดนี้ราคาเริ่มต้น 17.9 ล้านบาท


 

คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่

  • เห็นด้วย

    0%

  • ไม่เห็นด้วย

    0%