ฉลอง 50 ปี BMW M สุดยิ่งใหญ่ ในงาน Goodwood Festival Of Speed กับ 5 สุดยอดรถ BMW M ที่ถูกจารึกในหน้าประวัติศาสตร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ที่งานเทศกาลแห่งความเร็ว “Goodwood Festival Of Speed” จะมีธรรมเนียมปฏิบัติอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือการจัดแสดงงานประติมากรรมโดยศิลปินชื่อดังชาวอังกฤษ เจอร์รี่ ยูดาห์ (Gerry Judah) ณ บริเวณลาน Central Feature และในปี 2022 นี้ BMW M ได้รับเกียรติให้เป็นธีมหลัก ซึ่งถือเป็นการฉลอง 50 ปี BMW M ไปในตัว โดยรถแข่งที่ถูกนำมาจัดแสดงมีอยู่ด้วยกัน 5 รุ่น ได้แก่ BMW 3.0 CSL , BMW M1 Procar , BMW V12 LMR , BMW E90 320i และ BMW M Hybrid V8 ซึ่งสื่อถึง 5 ทศวรรษแห่งประวัติศาสตร์สำคัญของ BMW M



“Goodwood Festival Of Speed” เป็นเทศกาลแห่งความเร็วที่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1993 หรือเมื่อเกือบ 30 ปีมาแล้วที่ประเทศอังกฤษ เป็นงานที่คนรักความเร็วทุกคนตั้งตารอคอย เพราะนี่คืองานที่รวมสุดยอดยานยนต์ระดับโลกทุกรูปแบบเอาไว้ โดยเฉพาะรถแข่งและรถแรงจากอดีตถึงปัจจุบัน และก็ถือเป็นธรรมเนียม ที่จะต้องมีการจัดแสดงประติมากรรมขนาดใหญ่บริเวณลาน Central Feature



แม้ว่าธีมแต่ละปีจะสลับสับเปลี่ยนกันไป แต่คอนเซ็ปต์หลักคือ การฉลองความเป็นเลิศทางเทคโนโลยีของผู้ผลิตรถยนต์ในรูปแบบของศิลปะ ผ่านการออกแบบของ เจอร์รี่ ยูดาห์ (Gerry Judah) ศิลปินชาวอังกฤษชื่อดัง ที่รับหน้าที่ประติมากรประจำ ที่ทำให้คน “ว้าว” ได้ทุกปีมาตั้งแต่ปี 1997



ปีนี้เป็นคิวของ BMW ซึ่งกำลังฉลอง 50 ปี BMW M อยู่พอดี เจอร์รี่จึงเลือกรถแข่ง BMW M ระดับตำนานจำนวน 5 คัน มาเป็นส่วนหนึ่งของงานประติมากรรมอันน่าทึ่ง ได้แก่

1. BMW 3.0 CSL



BMW 3.0 CSL เป็นรถคันแรกที่ถูกผลิตขึ้นภายใต้โครงการ BMW Motorsport โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการแข่งขันโดยเฉพาะ เข้าร่วมแข่ง European Touring Car Championship (ETCC) เป็นครั้งแรกในปี 1972 และสามารถคว้าแชมป์มาได้ 6 รายการตลอดช่วงทศวรรษ 1970

BMW 3.0 CSL เป็นรถสปรอ์ตคูเป้น้ำหนักเบา มีการใช้เหล็กบางมาทำเป็นบอดี้ เพื่อลดน้ำหนักให้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ด้านการแข่งขัน ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบ 3.2 ลิตร 750 แรงม้า และผลิตขึ้นเพียง 1,265 คันเท่านั้น

2. BMW M1 Procar



BMW M1 Procar เป็นรถรุ่นแรกที่ใช้สัญลักษณ์ M ติดบนฝากระโปรง เปิดตัวครั้งแรกในปี 1978 ใช้เครื่องยนต์หัวฉีด 6 สูบ 24 วาล์ว 3.5 ลิตร 273 แรงม้า ถูกส่งเข้าร่วมการแข่งขันวันเมคเรซรายการ BMW M1 Procar Championship ในช่วงปี 1979 – 1980

3. BMW V12 LMR



นี่คือแชมป์ Le Mans ปี 1999 เป็นความสำเร็จสุดยิ่งใหญ่ของ BMW Motorsport และพันธมิตรอย่าง Schnitzer เครื่องยนต์ที่ใช้เป็นเครื่อง V12 รหัส S70 ซึ่งเป็นบล็อกที่ถูกใช้ในรถ McLaren F1 GTR แชมป์ Le Mans ปี 1995 ด้วย เครื่องยนต์ BMW S70 เป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ายอดเยี่ยมที่สุดแห่งยุค ทั้งแรง ทั้งแกร่ง แถมยังยืดหยุ่น ใช้บนถนนก็ได้ จะใช้แข่งก็ดี เอาชนะคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง Mercedes-Benz และ Toyota ไปได้สบาย ๆ

4. BMW 320i E90



จริง ๆ แล้ว จะบอกว่า BMW M มีต้นกำเนิดจากการแข่งทัวริ่งคาร์ก็ว่าได้ BMW 3.0 CSL เป็นแชมป์ ETCC 6 สมัย ขณะที่ BMW M3 E30 คว้าแชมป์ DTM และ TCC อีกหลายสมัยในยุคของตน ดีกรีแชมป์ตกทอดมาสู่ BMW 320i E90 ที่คว้าแชมป์ World Touring Car Championship (WTCC) มาได้อีก 2 สมัยในปี 2006 และ 2007

5. BMW M Hybrid V8



ตัวแข่ง Endurance รุ่นล่าสุด ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ดังนั้นชื่อ BMW M Hybrid V8 จึงยังเป็นเพียงชื่อชั่วคราว แต่ที่แน่ ๆ คือ นี่คือที่สุดของ BMW Motorsport หลังจากที่ LMR ทำไว้ในปี 1999 มีกำหนดลงแข่งครั้งแรกในรายการ Daytona 24 Hours และ IMSA series ในปีหน้า



ยังมีเรื่องราวดี ๆ อีกมากมายเกี่ยวกับ BMW ติดตามได้ที่เว็บไซต์ BMW Thailand , Facebook : BMW Thailand และ Youtube : BMW Thailand

#BMW #BMWTH #50JahreBMWM #BMWM #BMWMMotorsport #BMWM4GT4 #FOS #Goodwood #GoodwoodEngland #DrivewithJOY #JOYisBMW #สุนทรียภาพแห่งการขับขี่