จับ224ชาวเมียนมา ลอบเข้าประจวบฯ สระแก้วรวบ35เขมร

วันเสาร์ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.

จับ224ชาวเมียนมา

ลอบเข้าประจวบฯ

สระแก้วรวบ35เขมร

ซุกเก๋ง4คันมุดเข้าไทย

กองกำลังสุรสีห์ ฝ่ายปกครอง ประจวบคีรีขันธ์ สกัดจับ 224 แรงงานเถื่อนชาวเมียนมา ลักลอบเข้าเมือง พร้อม ผู้ว่าฯประจวบฯผลักดันกลับทันที ทหาร-ตร.สงขลารวบ 20 เมียนมา ลอบเข้าไทยจะไปมาเลย์ ด้าน ภาคตะวันออก ตำรวจภาค 2 จับเก๋ง 4 คันลอบซุกแรงงานเขมรจากสระแก้ว เข้าไปส่ง กทม.

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2565 นายธนนท์ พรรณพีภาส นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน , เจ้าหน้าที่ ชรบ.ตำบลเกาะหลัก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ จับกุม แรงงานชาวเมียนมา พร้อมสัมภาระ ขณะเดินเท้าหลบหนีเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติจำนวน 224 คน เป็นชาย140 คน หญิง83 คนและเด็กหญิงอีก 1 คน โดยควบคุมตัวไว้ที่บริเวณชายป่าริมถนนสายทุ่งเคล็ด-ด่านสิงขร หมู่ 6 ต.เกาะหลัก เพื่อตรวจสอบประวัติ จากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารได้นำชาวเมียนมาทั้งหมดผลักดันออกนอกประเทศทันที


ด้านนายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้จัดโครงการเพิ่มศักยภาพกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และ ชรบ. เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในบทบทบาทและอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย พร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรคเพื่อปรับปรุงพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพ สำหรับผู้นำท้องที่เป็นกลไกสำคัญในการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ จึงขอให้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ เรียนรู้ที่จะปฏิบัติตามกรอบระเบียบวินัยอย่างเคร่งครัด ไม่แสวงหาผลประโยชน์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำผิดกฎหมายโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะขบวนการลักลอบนำพาคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง

วันเดียวกัน ทหารกองกำลังเทพสตรีโดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5ร่วมกับ กองร้อยทหารราบที่ 5021 รวมทั้งชุดเฝ้าตรวจชายแดน 4304 ร้อย ตชด.437 และตำรวจภูธรสะเดา ออกลาดตระเวนตามพื้นที่แนวรั้วชายแดนช่องทางธรรมชาติไทย-มาเลเซีย และพบกับกลุ่มบุคคลต้องสงสัยทั้งชายและหญิงอยู่ที่บริเวณสนามแข่งรถมอไซค์วิบาก ถนนเลียบชายแดนไทย-มาเลเซีย ใกล้กับหลักเขตแดนที่ 21/13 บ.ไทยจังโหลน ม.7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา จึงได้เข้าตรวจ และพบว่า กลุ่มบุคคลต้องสงสัยเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาจำนวน 20 คน เป็นชาย 18 คน และหญิง 2 คน จากการตรวจสอบเบื้องต้นปรากฏว่า ทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทาง หรือเอกสารการเดินทางแต่อย่างใด จึงควบคุมตัวเอาไว้

จากการสอบถามแรงงานชาวเมียนมาร์ ทราบว่าพวกตนทั้งหมดมาจากหลายรัฐของประเทศเมียนมา โดยเดินทางผ่านแดนทางช่องทางธรรมชาติ ด้าน จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.ระนอง และพักคอยในพื้นที่ของ จ.แม่ฮ่องสอน และ จ.ระนอง เพื่อรอให้รถมารับเมื่อวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยเดินทางมากับรถเก๋งแวน สีดำ ไม่ทราบทะเบียนและยี่ห้อและเดินทางมาถึงสนามแข่งรถมอเตอร์ไซค์วิบากชายแดนไทย-มาเลเซีย อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยมีจุดหมายปลายทางคอ การเดินทางเข้าไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้ติดต่อนายหน้าชาวเมียนมา(ไม่ทราบชื่อ)ในการนำพาข้ามเดน โดยจ่ายเงินที่ฝั่งประเทศเมียนมา จำนวน 2,000,000 จ๊าด/คน หรือประมาณ 37,000 บาทต่อคน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวแรงงานต่างด้าวทั้ง 20 คน ไปให้ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสะเดา ทำการตรวจคัดกรองโรคโควิด 19 ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา ดำเนินคดีในฐานความผิดลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และดำเนินการผลกดันกลับประเทศต่อไป

ขณะที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว นำกำลัง จนท.นปพ.สระแก้ว ,ตร.สภ.คลองหาด,จนท.ฝ่ายปกครองอำเภอคลองหาด ร่วมกับ จนท.ทหาร ฉก.ร.2 กกล.บูรพา สนธิกำลังร่วมกันออกสกัดจับขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อนชาวเขมรลอบเข้าไทย บริเวณพื้นที่ชายแดน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว หลังสืบทราบว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อน นำรถยนต์จำนวนหลายคันมาลักลอบขนแรงงานเถื่อนชาวเขมร จากชายแดนด้าน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ไปส่งขายแรงงานในพื้นที่ชั้นใน

ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมได้ตรวจพบรถยนต์เก๋งต้องสงสัยจำนวน4คัน ขับตามกันมาบนถนนสายรอง อ.คลองหาด-อ.วังน้ำเย็น จึงนำกำลังไปตั้งจุดสกัดบริเวณริมถนนบ้านตากฟ้า ม.10 ต.ซับมะกรูด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว และสามารถสกัดรถยนต์เก๋งทั้ง 4 คันไว้ได้ ตรวจสอบคันแรกเป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า คัมรี่ สีขาว ทะเบียน งพ 8648 ชลบุรี มีนายธนพร จอมขวัญ อายุ 33 ปี ชาว จ.ชลบุรี เป็นผู้ขับขี่ ภายในรถซุกซ่อนแรงงานชาวเขมรจำนวน 7 คน พร้อมเด็กผู้ติดตาม1คน

คันที่ 2 เป็นรถยนต์เก๋ง โตโยต้า อัลติส สีดำ ทะเบียน8กผ 6423 กรุงเทพมหานคร มีนายสุรเชษฐ์ โทแสง อายุ 37 ปี ชาว จ.ชลบุรี เป็นผู้ขับขี่ ภายในรถซุกซ่อนแรงงานเขมรจำนวน7คน

คันที่ 3 เป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า อัลตีส สีดำ ทะเบียน 8กผ 6423กรุงเทพมหานคร มีนายสุรเชษฐ์ โทแสง อายุ 37 ปี ชาว จ.ชลบุรี เป็นผู้ขับขี่ ภายในรถซุกซ่อนแรงงานเขมรจำนวน 9 คน

คันที่4 เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า โคโรล่า สีเทาทะเบียน วย 9685 กรุงเทพมหานคร มีนางดวงใจ หร่ายเจริญ อายุ 45 ปี ชาว จ.ฉะเชิงเทรา เป็นผู้ขับขี่ ภายในรถซุกซ่อนแรงงานเขมรจำนวน 9 คน และเด็กผู้ติดตามอีก 2 คน ตรวจสอบแรงงานเขมรรวมเด็กทั้งหมดรวม 35 คน ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตทำงานในประเทศไทย ทั้งหมดถูกดำเนินคดีหลบหนีเข้าเมือง

โดยผู้ขับชาวไทยทั้ง 4 คน รับสาภาพว่าได้ค่าจ้างขนแรงงานเถื่อนชาวเขมรจากชายแดน อ.คลองหาด ไปส่งในพื้นที่ กทม.ได้ค่าจ้างหัวละ 900 บาท