ของแรงตัวเล็ก AUDI RS3 SPORTBACK QUATTRO ลุ้นเข้าไทยเอาใจคนชอบซิ่ง! – ไทยรัฐ

ข่าวใหญ่คือการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่สร้างความแตกต่างอย่างแท้จริง RS3 ทุกคันได้รับการปรับแต่งพิเศษเพื่อลดแรงสั่นสะเทือน บวกกับสิ่งที่ Audi เรียกว่า RS torque splitter เพื่อกระจายแรงบิดสูงสุด 50 เปอร์เซ็นต์ระหว่างล้อหลังทั้งสอง ระบบเบรกคาร์บอนเซรามิกเป็นอุปกรณ์เสริม (ซึ่งช่วยลดน้ำหนักได้มากถึง 10 กก.) ท่อร่วมไอเสีย RS เป็นอุปกรณ์เสริม – มาตรฐานสำหรับบางรุ่น – และ mVDC ใหม่ (ตัวควบคุมไดนามิกของรถยนต์) ซึ่งจะช่วยให้การควบรวมระบบแชสซีดีขึ้น/เร็วขึ้น พร้อมระบบไฟอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพ จากกำลังการส่องสว่างด้วยหลอด LED พร้อมซอฟต์แวร์ที่จะยก ลดไฟสูง หรือสาดไฟไปในบริเวณที่มืดมิด (ไฟ LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน) สัญลักษณ์ RS3 บ่งบอกการมาถึงของเครื่องยนต์ 5 สูบเทอร์โบ ที่เคยคว้ารางวัล Engine of The Year ถึง 6 ปีติดต่อกัน นั่นมันเจ๋งมากสำหรับเครื่องยนต์ที่มีพัฒนาการยาวนานกว่า 35 ปี 

Audi RS3 กับโหมดขับเคลื่อน Drive Select มีการตั้งค่าที่แตกต่างกันเจ็ดแบบ (Auto / Comfort / Dynamic / efficiency / RS individual / RS performance / RS torque rear ส่วนโหมดแยกย่อย ‘RS Individual ช่วยให้สามารถปรับระบบขับเคลื่อนได้สามระดับ ระบบกันสะเทือนไฟฟ้าแบบปรับตั้งได้  โดยที่ Comfort คือการตั้งค่าประสิทธิภาพของระบบรองรับที่แตกต่างจาก ความสบาย! การบังคับเลี้ยว เสียงเครื่องยนต์ และเกณฑ์การแทรกแซงของระบบควบคุมเสถียรภาพ แม้ว่า RS3 จะนำเสนอการปรับแต่งส่วนบุคคลหรือ RS individual ได้ดี แต่การปรับจูนอย่างล้วงลึกและละเอียดดูยุ่งยากเล็กน้อย คุณสามารถตั้งค่าโหมด individual ที่เกี่ยวข้องกับการตอบสนองตามความชอบส่วนตัวได้ เมื่อกดปุ่ม ‘RS’ ที่ด้านขวามือของพวงมาลัยสองครั้ง เพื่อเข้าถึงฟังก์ชันดังกล่าว (กดครั้งแรก ระบบจะเข้าสู่โหมด RS performance) หลังจากนั้นก็ซิ่งได้เร็วตามที่คุณต้องการ

เมื่อตั้งค่าได้ถูกต้องหรือถูกจริตในสไตล์การขับ RS3 จะแสดงออกอย่างน่าประทับใจ เครื่องยนต์สั่นสะท้านและเต็มไปด้วยพลังงานในรอบสูง การยึดเกาะที่มั่นคงและแข็งแกร่งของแชสซีใหม่ การควบคุมองคาพยพของรถ เพื่อบอกคุณว่าเกิดอะไรขึ้น ส่วนที่ดีที่สุดคือการเร่งความเร็วและการยึดเกาะในโค้ง  Audi Sport ปรับปรุงระบบควบคุมและสั่งการทั้งหมดและให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติอย่างน่าทึ่ง การบังคับเลี้ยวแม่นยำ ยางถูกช่วงล่างกดขึงให้สัมผัสกับพื้นอย่างแนบแน่น ทุกระบบจะทำงานอย่างหนักแน่นตรงไปตรงมา สำหรับ RS3 บนถนนที่ลื่นอาจรู้สึกว่าชุด Quattro เทแรงบิดไปที่ล้อหน้ามากเป็นพิเศษ ทำให้การขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าท่ามกลางสายฝน โดยมีแรงบิดลดลงที่ล้อหลังช่วยลดอาการลื่นไถลท้ายปัด ระบบรักษาเสถียรภาพและระบบขับเคลื่อน Quattro เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย เมื่อคุณเริ่มไว้วางใจรถและขับแบบก้าวร้าวมากขึ้น RS3 จะมีความเป็นกลางพอๆ กับ TT RS และ RS Q3 การควบคุม RS3 ตัวถัง Sportback นั้นให้ความรู้สึกที่เฉียบคม Audi แจ้งว่า RS3 ทำความเร็วได้สูสีกับรถคู่แข่ง พร้อมๆ กับให้ความเสถียรในระดับสูงสุดเท่าที่รถเล็กจะสามารถทำได้ 

RS3 ให้ความรู้สึกที่น่าประทับใจ ทุกระบบฝังอยู่ภายใต้การทำงานของซอฟต์แวร์รุ่นก้าวหน้า ที่ปรับการตอบสนองได้อย่างหลากหลายและรวดเร็ว ความสามารถในการเปลี่ยนทิศทาง ระบบช่วยทรงตัวและระบบกระจายแรงบิดจะแบ่งขั้นตอนการทำงาน ให้ความเป็นปัจเจก สำหรับทุกพื้นผิวถนน และความต้องการที่แตกต่างกัน และในขณะที่นักขับส่วนใหญ่ชอบที่จะค้นหาความสมบูรณ์แบบในรถยนต์สมรรถนะสูง สิ่งที่ RS3 ทำนั้นเป็นหน้าที่ของคนขับในการเลือกชุดค่าผสม หรือปรับแต่งโหมดขับเคลื่อนที่เหมาะสม เมื่อคุณทำได้ RS3 จะทำให้คุณลืมไม่ลงเหมือนกับพี่น้องของมันในตระกูล RS

คู่ต่อสู้หลักๆ คือ Mercedes-AMG A45 S ซึ่งเป็นรถแฮทช์แบค AWD 400 แรงม้าที่มีความเร็วใกล้เคียงกัน และมีราคาในเยอรมันเกือบจะเท่ากัน แต่จริงๆ แล้ว รถทั้งสองคันมีความแตกต่างกันมาก Merc AMG ตัวเล็ก  โกรธเกรี้ยว ห้าวหาญและเฉียบแหลมอย่างดุดัน Audi Sport นั้นได้รับการปรับแต่งมาอย่างดี ทนทานกว่าในระยะยาว และดุดันน้อยกว่ามาก แน่นอนว่ามันไม่ได้ช้ากว่า A45 Sโดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับผ่านผิวถนนที่ไม่เรียบ มันอาจจะเร็วพอๆ กัน แบบจุด A ไป B บนถนนที่ไม่คุ้นเคย Mercedes-AMG A45 S  แม้จะทรงพลังและใช้ระบบขับเคลื่อนทุกล้อ AWD เหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงที่ว่า RS3 เชื่องมือมากกว่า และทำให้รู้สึกได้ถึงความเร็วที่ใกล้เคียงกับรถคันเล็กของแบรนด์ตราดาว Audi Sport แจ้งว่า สิ่งที่แตกต่างก็คือ RS3 จะให้ความรู้สึกสบายตัว เป็นรถที่มั่นใจ คุ้มค่า มีความสามารถในการทำความเร็วพร้อมกับการทะยานออกจากส่วนปลายของโค้งมุมกว้างได้อย่างเฉียบคม เครื่องยนต์ 5 สูบเทอร์โบ ของ TT RS และ RS Q3 ดึงแรง มีแรงบิดมากมายที่จะทำให้รู้สึกหวาดเสียวในด้านอัตราที่น่าตกใจ ยิ่งไปกว่านั้น ยังให้ความรู้สึกน่าเชื่อถือและมั่นใจ การเบรกที่มีประสิทธิภาพ เป็นการผสมผสานการทำงานที่หนักหน่วง เบรกคาร์บอนเซรามิกอาจจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักขับที่ชอบอัดรถในสนามแข่ง เบรกมาตรฐานให้ความรู้สึกสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ และตอบสนองตามองศาของแป้นเบรก 

เครื่องยนต์และอัตราทดเกียร์ เป็นสาเหตุหลักประการหนึ่งที่ทำให้ RS3 ว่องไว โดยพื้นฐานแล้ว ตัวแยกแรงบิดระหว่างล้อหน้าและล้อหลังนั้นตรงตามที่ระบุไว้ในสเปก ชุด Quattro ใช้คลัตช์แยกกันในแต่ละด้านของเพลาขับด้านหลัง เพื่อให้สามารถดันแรงบิดแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ไปยังล้อใดก็ได้ที่ระบบต้องการ นั่นหมายถึง 50% ของเอาต์พุตทั้งหมด เนื่องจากล้อหน้าเป็นระบบขับเคลื่อนหลักเสมอแต่สามารถทดกำลังลงไปที่ล้อหลังได้ 100%  ดังนั้น มันไม่ใช่สวิตช์แยกระบบขับเคลื่อนเหมือนอย่าง M5 หรือ E63 เมื่อคุณขับเร็ว ตัวแยกสัญญาณจะสื่อสารกับชุดขับเคลื่อนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มแรงบิดไปยังล้อหลังด้านนอกที่รับน้ำหนักมากขึ้นเล็กน้อย เพื่อลดอาการอันเดอร์สเตียร์ของล้อหน้าและทำให้รถรู้สึกคล่องตัวมากขึ้น การทำงานของระบบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วจนแทบจะจับความรู้สึกไม่ได้ว่าล้อข้างไหนที่กำลังรับหน้าที่อย่างเต็มกำลังในการปั่นแรงบิดลงพื้น ในสภาวการณ์ปกติ ระบบจะจัดแรงบิดไปที่ล้อหน้า 70% และล้อหลัง 30% โดยสามารถผกผันจากหน้า 70 ไปที่หลัง 100% เพื่อดริฟต์รถเล่น หรือเทแรงบิดเท่ากันแบบ 50/50 เพื่อความเสถียรสูงสุดขณะทำความเร็วทางตรง 

RS3 มีการตกแต่งภายในที่ดี ระบบ MMI แบบใหม่ของ Audi ติดตั้งจอภาพมาตรวัด TFT ขนาด 12.3 นิ้ว ตรงหน้าคนขับที่สามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลตั้งแต่วิ่งจ่ายกับข้าวไปจนถึงอัดเต็มกำลังในสนามแข่ง ด้วยหน้าจอและการอ่านข้อมูลที่มีกราฟิกใหม่ทุกอย่างตั้งแต่การแบ่งแรงบิดไปจนถึง การแสดงผล g-meter นาฬิกาตัวจับเวลาต่อรอบเพื่อปรับให้การขับของคุณดีขึ้น คุณจะต้องการเปลี่ยนจากตัวเลือกหน้าปัด ‘RS runway’ แบบใหม่ทันที รถ RS3 เลือกใช้หนัง Nappa โดยมีเบาะนั่งด้านหน้าแบบมาตรฐานประทับตราสัญลักษณ์ตัวนูนด้วยอักษร RS วัสดุของเบาะ สามารถเลือกใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์หรือผ้าโพลีเอสเตอร์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของ Dinamica ผสมผสานกับหนังแท้ที่ตัดเย็บอย่างประณีต

แม้ตัวถังจะมีขนาดกะทัดรัด แต่พื้นที่ภายในกว้างและสะดวกสบายพอใช้สำหรับผู้โดยสารเบาะหน้า เบาะหลังมีพื้นที่วางเท้าน้อยกว่า แต่ไม่มีอะไรสุดโต่งเกินไป การโดยสารที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติในรถ RS ทุกรุ่น คือสิ่งที่คุณคาดหวังและ Audi Sport พยายามนำเสนอ ทุกอย่างถูกปรับแต่งให้เข้ากันได้ดี อย่างที่ควรจะเป็น และเหมือนกับห้องโดยสารของ RS Q3 แต่มีรูปแบบรายละเอียดบางจุดที่แตกต่างกัน 

การเพิ่มตัวแยกแรงบิดบนเพลาล้อหลัง หมายความว่าพื้นที่จัดเก็บสัมภาระจะลดลง 50 ลิตร เมื่อเทียบกับ RS3 Sportback รุ่นเก่า (แม้ว่ารุ่นซีดานจะมีพื้นที่เก็เพิ่มขึ้น 7 ลิตร) และใครก็ตามที่คิดว่าสีตัวถังจะแทรกในช่องระบายอากาศ ในห้องโดยสารดูพรีเมียม ภายในมีอุปกรณ์ของรถรุ่นพิเศษ เนื่องจากเป็นรถ RS พวงมาลัย Alcantara แบบก้นแบนหรือฐานตัดช่วยเปิดพื้นที่เข้าออกจากเบาะคนขับ ห้องโดยสารของ RS3 ยังดูเหมือน A3 หรือ S3 มากกว่าการเป็นรถของนักขับมืออาชีพ โดยทั่วไปแล้ว ถึงแม้ RS3 จะเป็นรถที่ขับสบาย และทำสิ่งต่างๆ ตามปกติได้ทั้งหมด หน้าจออินโฟเทนเมนท์กลาง สั่งงานด้วยระบบสัมผัสนั้นมีขนาด 10.1 นิ้ว เชื่อมต่อกับ Apple CarPlay/Android Auto อย่างที่คาดหวังได้สะดวกรวดเร็ว ปุ่มควบคุมสภาพอากาศภายในห้องโดยสารเต็มรูปแบบ

คาดว่า Audi Thailand น่าจะนำเข้า RS3 Quattro ต่อยอดจาก Audi S3 ที่เพิ่งจะมีการแนะนำไปเมื่อเร็วๆ นี้ ถ้าเข้ามาจริง Audi Thailand จะเป็นแบรนด์เยอรมันที่มีรถแรงให้เลือกหลากหลายมากที่สุด อาจมากกว่า Mercedes-AMG ด้วยซ้ำ! 

Audi RS 3 Sportback (8Y) 2.5 TFSI (400 Hp) quattro S tronic 2021 Specs

General information

Brand Audi

Model RS 3

Generation RS 3 Sportback (8Y)

Modification (Engine) 2.5 TFSI (400 Hp) quattro S tronic

Start of production 2021 year

Powertrain Architecture Internal Combustion engine

Body type Hatchback

Seats 5

Doors 5

CO2 emissions 190-201 g/km

Fuel Type Petrol (Gasoline)

Acceleration 0 – 100 km/h 3.8 sec

Acceleration 0 – 62 mph 3.8 sec

Acceleration 0 – 60 mph (Calculated by Auto-Data.net) 3.6 sec

Maximum speed 250 km/h, Electronically limited

155.34 mph

Emission standard Euro 6 d-ISC-FCM

Weight-to-power ratio 3.9 kg/Hp, 254.8 Hp/tonne

Weight-to-torque ratio 3.1 kg/Nm, 318.5 Nm/tonne

Engine specs

Power 400 Hp @ 5,600-7,000 rpm.

Power per litre 161.3 Hp/l

Torque 500 Nm @ 2,250-5,600 rpm.

368.78 lb.-ft. @ 2,250-5,600 rpm.

Engine location Front, Transverse

Engine Model/Code DNW

Engine displacement 2,480 cm3

151.34 cu. in.

Number of cylinders 5

Position of cylinders Inline

Cylinder Bore 82.5 mm

3.25 in.

Piston Stroke 92.8 mm

3.65 in.

Compression ratio 10

Number of valves per cylinder 4

Fuel System Direct injection

Engine aspiration Turbocharger, Intercooler

Valvetrain DOHC

Engine oil capacity 7.1 l

7.5 US qt | 6.25 UK qt

Oil viscosity Log in to see.

Engine oil specification

Coolant 9.8 l

10.36 US qt | 8.62 UK qt

Engine systems Start & Stop System

Particulate filter

Space, Volume and weights

Kerb Weight 1,570 kg

3,461.26 lbs.

Max. weight 2,075 kg

4574.59 lbs.

Max load 505 kg

1,113.33 lbs.

Trunk (boot) space – minimum 282 l

9.96 cu. ft.

Trunk (boot) space – maximum 1,104 l

38.99 cu. ft.

Fuel tank capacity 55 l

14.53 US gal | 12.1 UK gal

Max. roof load 75 kg

165.35 lbs.

Dimensions

Length 4,389 mm 172.8 in.

Width 1,851 mm 72.87 in.

Width including mirrors 1,984 mm 78.11 in.

Height 1,436 mm 56.54 in.

Wheelbase 2,631 mm 103.58 in.

Front track 1,592 mm 62.68 in.

Rear (Back) track 1,524 mm 60 in.

Drag coefficient (Cd) 0.34

Minimum turning circle (turning diameter) 12 m 39.37 ft.

Drivetrain, brakes and suspension specs

Drivetrain Architecture The Internal combustion engine (ICE) permanently drives the four wheels of the vehicle.

Drive wheel All wheel drive (4×4)

Number of Gears (automatic transmission) 7 S tronic

Front suspension Independent type McPherson

Rear suspension Independent multi-link

Front brakes Ventilated discs, 375×36 mm

Rear brakes Ventilated discs, 310×22 mm

Assisting systems ABS (Anti-lock braking system)

Steering type Steering rack and pinion

Power steering Electric Steering

Tires size Front wheel tires: 245/35 R19

Rear wheel tires: 265/30 R19

Wheel rims size Front wheel rims: 8J x 19

Rear wheel rims: 9J x 19