กระทิงออฟโรด Lamborghini Urus Performante

Urus Performante เหนือชั้นกว่ารถคู่แข่งด้วยระบบอากาศพลศาสตร์แบบใหม่ การลดน้ำหนักให้เบาขึ้น บอดี้โหลดต่ำและกว้างขึ้น น้ำหนักถูกหั่นออกไป 47 กิโลกรัม ทำให้เพิ่มความปราดเปรียวมากกว่าเดิม กำลังเครื่องยนต์สูงสุดที่ 666 แรงม้า เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ของอัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังเครื่องยนต์ของซุปเปอร์เอสยูวี Urus Performante ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.3 วินาที ช้ากว่า Huracan Performante แค่ 0.3 วินาที โดยทำความเร็วสูงสุดที่ 306 กม./ชม. วิศวกรของลัมโบร์ ยังลงลึกไปถึงการปรับจูนโหมดการขับที่ลงตัว เสริมด้วยโหมด RALLY สำหรับเศรษฐีขาลุยที่ชอบขับแนวออฟโรด

Automobili Lamborghini แบรนด์ซุปเปอร์สปอร์ตคาร์สัญชาติอิตาลี ได้ทำการเปิดตัว Urus Performante รุ่นอัปเกรดสมรรถนะและปรับปรุงการขับขี่ของซุปเปอร์เอสยูวีให้ดีกว่าเดิม ภายใต้รูปลักษณ์ที่สะท้อนถึงความดิบของรูปลักษณ์และกำลังของเครื่องยนต์ทำให้ Urus Performante กลายเป็นมาตรฐานใหม่แห่งงานดีไซน์ ผสานระบบวิศวกรรมยานยนต์ซุปเปอร์สปอร์ตอย่างลงตัว

ก่อนการเปิดตัว เจ้ากระทิงออฟโรด Urus Performante ได้สร้างสถิติใหม่ในหมวดยานยนต์เอสยูวี จากการทดสอบวิ่งบนทางลาดชันสุดหฤโหดของ Pikes Peak International Hill Climb Road ที่มีระดับความสูงกว่า 4,302 เมตร (14,115 ฟุต) โดยสามารถทำเวลา 10:32.064 นาที ทุบสถิติเดิมที่เคยทำไว้ที่ 10:49.902 นาที เมื่อปี 2018

Urus Performante คือการยกระดับสมรรถนะการขับและรูปลักษณ์ที่หรูหราของยานยนต์เอสยูวีลัมโบร์ให้เหนือขึ้นไปอีกขั้น การรักษามาตรฐานการใช้งานแบบอเนกประสงค์ที่เน้นความหรูหราสะดวกสบาย ไม่เพียงเฉพาะการใช้งานบนท้องถนนในชีวิตประจำวัน แต่ยังให้ความโดดเด่นด้วยดีไซน์น่าประทับใจ เป็นกฎเกณฑ์ใหม่ของวงการยานยนต์ระดับโลกเลยทีเดียว” สเตฟาน วิงเคิลมันน์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Automobili Lamborghini กล่าว “รถยนต์ Urus รุ่นนี้สร้างมาตรฐานใหม่ทันทีที่เปิดตัว แสดงให้เห็นถึงความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีของ Lamborghini เพื่อการสร้างซุปเปอร์เอสยูวีรุ่นแรกของโลกสู่อุตสาหกรรมยานยนต์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน 

Urus Performante วางดีไซน์แนวอากาศยาน ตั้งแต่รูปลักษณ์ด้านหน้า งานออกแบบฝากระโปรงและแผงกันชนขนาดใหญ่โดยใช้รูปทรงที่เฉียบคม ใช้วัสดุคอมโพสิตในการผลิต ทำให้เป็นรถยนต์รุ่นที่ใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ในสัดส่วนสูงที่สุดในรถยนต์เซกเมนต์เดียวกัน “งานดีไซน์ที่ดุดันและโดดเด่นของ Urus Performante เข้ากับระบบอากาศพลศาสตร์ที่ปรับปรุงใหม่ได้ดี ทั้งสองด้าน ทำให้รถมีประสิทธิภาพสูงขึ้น เฉพาะม่านอากาศบนแผงกันชนหน้า กับงานออกแบบแนวใหม่ ฝากระโปรงคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบารุ่นใหม่ วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ในส่วนต่างๆ เกือบทั้งหมด เป็นแบบฉบับการสร้าง ยานยนต์ในโมเดล Performante ทำให้ Urus รุ่นพิเศษคันนี้คือซุปเปอร์เอสยูวีที่มีความเป็นหนึ่งเดียวกับนักขับได้อย่างสมบูรณ์” มิตจา โบร์เคิร์ต ผู้อำนวยการฝ่ายการออกแบบ Lamborghini กล่าว

Urus Performante ออกแบบเส้นสายบนฝากระโปรงให้ยาวต่อเนื่องลงมาถึงแผงกันชนหน้า ช่องระบายลมวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์สีเดียวกับตัวถัง ลูกค้าสามารถเลือกแบบโชว์วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ได้ สามารถเลือกหลังคาเป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ อย่าง Huracán Performante และ Super Trofeo ได้ตามต้องการ แผงกันชนหน้าและสปลิตเตอร์วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ออกแบบให้มีเส้นสายที่ดูดุดันกว่าเดิม ช่องดักอากาศสีดำด้านหน้า เสริมประสิทธิภาพการระบายความร้อนเครื่องยนต์และเพิ่มความดุดัน ม่านดักลมแบบใหม่ ทำให้อากาศไหลเข้าทางล้อหน้าได้มากขึ้น การออกแบบช่องระบายลมบนฝากระโปรง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ ทำให้อุณหภูมิในห้องเครื่องยนต์ลดลง สปอยเลอร์หลังแบบใหม่ เพิ่มแรงกดส่วนท้ายอีก 38% การออกแบบสปริงใหม่ทำให้โครงแชสซีของ Performante ลดระดับต่ำลงอีก 20 มิลลิเมตร เพิ่มความกว้างฐานล้อ อีก 16 มิลลิเมตร ซุ้มล้อวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ จับคู่กับล้อน้ำหนักเบาขอบ 23 นิ้ว หรือแบบมาตรฐานขอบ 22 นิ้ว นอตล้อทำจากโลหะน้ำหนักเบาไทเทเนียม ยาง Pirelli พัฒนาขึ้นเพื่อ Performante รุ่นนี้โดยเฉพาะ การลดความสูงหรือโหลดตัวรถให้ต่ำลง เข้ากับการออกแบบกันชนหน้าและหลังขนาดใหญ่ เพิ่มความยาวตัวรถอีก 25 มิลลิเมตร การออกแบบด้านหลังมีความสวยงาม สปอยเลอร์ขนาดใหญ่ ฟินสปอยเลอร์หลังที่ทำจาก คาร์บอนไฟเบอร์ ได้แรงบันดาลใจจาก Aventador SVJ 

กันชนหลังและดิฟฟิวเซอร์วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ มาพร้อมกับท่อไอเสียแบบ Akrapovic วัสดุไทเทเนียมน้ำหนักเบา เพิ่มพลังเสียงกระหึ่มทรงพลัง ระดับเสียงของท่อระบายท้ายจะแตกต่างกันออกไปตามโหมดการขับที่เลือก ธีมสีทูโทนของ Performante จากการทำชิ้นส่วนอื่นๆ ให้มีสีแตกต่างจากตัวรถ ทั้งมือจับประตูสีดำ ช่องระบายลมคาร์บอนไฟเบอร์เคฟลาร์บนฝากระโปรงและสปอยเลอร์ลิปคาร์บอนไฟเบอร์เคฟลาร์ 

ห้องโดยสารตกแต่งด้วยหนังกลับ Alcantara สีดำ Nero Cosmus งานเย็บเบาะนั่งหกเหลี่ยมในสไตล์ “Performante Trim” สามารถเลือกออปชันเสริมจากธีมการตกแต่งด้วยหนังทั้งคัน สำหรับโทนสีภายใน เลือกตามสไตล์ “Performante Trim” ครอบคลุมทั้งแผงประตู เส้นแนวหลังคา พนักพิง และผนังด้านหลังห้องโดยสาร โปรแกรมการตกแต่งเฉพาะแบบ Ad Personam ของ Lamborghini มีตัวเลือกวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ผิวด้าน มือจับประตูสีแดง ขอบประตูพร้อมโลโก้ Ad Personam พวงมาลัยหนังกลับ Alcantara แบบรถแข่งพร้อมหนังสีดำ ตกแต่งในโทนสีดำด้าน ธีมอะลูมิเนียมชุบดำ สำหรับออปชัน “Dark Package” ใช้การตกแต่งโทนสีดำด้านครอบคลุมรายละเอียดของห้องโดยสารส่วนอื่น รวมถึงส่วนก้านของแผงควบคุมกลาง TAMBURO ที่ควบคุมฟังก์ชันทั้งปุ่มสตาร์ต-ดับเครื่องยนต์ ปุ่มเลือกโหมดการขับ และการแสดงผลกราฟิก HMI แบบใหม่ สำหรับ Urus Performante โดยเฉพาะ

Urus Performante มีเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น 16 แรงม้า โดยมีกำลังสูงสุดที่ 666 แรงม้า และลดน้ำหนักลงถึง 47 กก. ทำให้มีอัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังเครื่องยนต์ดีที่สุดในคลาสที่ 3.2 กิโลกรัมต่อ 1 แรงม้า ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.3 วินาที และเบรกจากความเร็ว 100 กม./ชม. จนรถหยุดนิ่งได้ในระยะทาง 32.9 เมตร Urus Performante มีแรงบิดสูงสุด 850Nm ที่ความเร็วรอบ 2,300 – 2,400 รอบต่อนาที ความสามารถที่เหนือกว่ารถยนต์ในเซกเมนต์เดียว รวมถึงความเร็วสูงสุดที่ 306 กม./ชม. พร้อมประสิทธิภาพการตอบสนอง การควบคุม และความเสถียร การปรับปรุงประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ สามารถเพิ่มแรงกดมวลรวมได้ 8% มีการเสริมแรงบิดด้วยการใช้เฟืองท้ายแบบใหม่ เพิ่มอัตราส่วนจาก 3.16 เป็น 3.4 ในระหว่างการขับขี่ และ 3.02 เป็น 3.33 เมื่อวิ่งลงทางลาดชันด้วยแรงเฉื่อย ยาง Pirelli P Zero (ขนาด 258/40 R22 และ 325/35 R22) เป็นรุ่นพัฒนาต่อยอดของยางรุ่น Pirelli P Zero Trofeo R ตระกูล Urus เป็นครั้งแรกที่มีการผลิตยาง Pirelli แบบกึ่งสลิค เพื่อให้สอดคล้องกับคาแรกเตอร์ของรถเอสยูวี เกิดจากการร่วมมือพัฒนากับ Pirelli ทำให้ได้ยางที่ใช้งานได้แบบกึ่งอเนกประสงค์ดีขึ้น ให้ประสิทธิภาพที่ดีทั้งบนพื้นผิวแห้งที่มีอุณหภูมิสูง และบนพื้นผิวเปียกที่มีอุณหภูมิต่ำ

ระบบบังคับเลี้ยวของ Urus Performante ให้การควบคุมที่ตอบสนองฉับไว ฟีลลิ่งแบบสปอร์ตที่เร้าใจในทุกจังหวะการควบคุม การคาลิเบรตระบบควบคุมการเลี้ยวล้อหน้าแบบใหม่ ช่วยเพิ่มสัมผัสเชื่อมโยงกับพื้นถนน ส่งผลให้การควบคุมแม่นยำและตอบสนองได้เร็วขึ้น ระบบเลี้ยวล้อหลังที่ตอบสนองเร็วขึ้นยังช่วยเพิ่มความฉับไวในการเลี้ยวกลับลำ ซึ่งเสริมกำลังจากเวกเตอร์แรงบิดของเฟืองท้าย ไม่ว่าจะใช้โหมดการขับขี่บนถนนหรือโหมดออฟโรด โหมดการขับขี่ที่ถูกออกแบบใหม่ทำให้ผู้ขับขี่ Urus Performante เลือกการตั้งค่าที่เหมาะสมกับสภาพการขับขี่ที่แตกต่างกัน โหมด STRADA เน้นความสบายด้วยการดูดซับแรงที่นุ่มนวล โหมด SPORT เปิดรับการตอบสนองที่ดุดัน ระบบเลี้ยวล้อหลังจะเพิ่มความคล่องตัวในความเร็วต่ำ เพิ่มความเสถียรเมื่อใช้ความเร็วสูงด้วยระบบรักษาเสถียรภาพที่มีการปรับปรุงซอฟต์แวร์ การปรับช่วงล่างใหม่ เพิ่มความสนุกระหว่างการขับและในทุกจังหวะของการเปลี่ยนเกียร์ การตั้งค่าแชสซี เสริมฟีลการขับขี่แบบสปอร์ต ครอบคลุมถึงการใช้สปริงเหล็กกล้าที่แข็งขึ้น ปรับแต่งแดมเปอร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองให้รู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถ

โหมด CORSA ของ Urus Performante ตอบโจทย์การแข่งขันอันดุเดือด ด้วยประสิทธิภาพการควบคุมขั้นสูงสุด ทั้งเสถียรภาพการทรงตัวเมื่อขับด้วยความเร็วสูง การเลี้ยวที่แน่นหนึบไม่มีอาการโคลงตัวด้วยเหล็กกันโคลงแบบแอ็กทีฟ พลังเสียงจากท่อไอเสียแบบสปอร์ตทำให้รับรู้ถึงความเป็นยานยนต์ซุปเปอร์สปอร์ตของ Lamborghini นอกจากโหมดการขับขี่มาตรฐาน Urus Performante ยังมาพร้อมโหมดใหม่อย่าง RALLY MODE เพื่อยกระดับการขับแนวสปอร์ตในแบบฉบับเอสยูวี สร้างความเร้าใจในการวิ่งบนทางดิน โดยมีการเสริมสมรรถนะด้วยเหล็กกันโคลงและตัวซับแรงกระแทก ซึ่งปรับปรุงให้สอดรับกับการทำงานของสปริง แม้วิ่งบนพื้นผิวขรุขระและหฤโหดบนเส้นทางออฟโรด 

สำหรับตลาดจีนจะได้รับการอัปเกรดเชิงเทคนิคใน Urus Performante รุ่นใหม่ โดยจะถูกตั้งค่ากำลังเครื่องยนต์ไว้ที่ 640CV ตามข้อกำหนด.


Technical Data

CHASSIS AND BODY

Chassis

Integral lightweight body in aluminum composite design

Body shell

Outer skin made from aluminum and composite material

Suspension

Multi-link front and rear

Springs and dampers

Steel springs and dampers, electromechanical active roll stabilization, electronic damper control

Electronic Stability Control (ESC)

ESC/ABS characteristics can be adjusted via TAMBURO,

ESC can be deactivated

Steering

Electromechanical power steering, steering gear with different servotronic characteristics and Lamborghini Rear-wheel Steering (LRS), managed by the Tamburo drive modes

Steering wheel ratio

13.3:1

Brakes

Front and Rear carbon-ceramic brakes discs with front monoblock aluminum 10 piston brake calipers and rear cast iron floating 1 piston brake calipers with integrated electric parking brake

Brake discs

Carbon ceramic discs, ventilated Ø 440 x 40 mm front Ø 370 x 30 mm rear

Tires (standard)

PIRELLI PZERO 285/40 ZR22 (front) – 325/35 ZR22 (rear)

Wheels (standard)

10Jx22″ ET20 (front) 11,5Jx22″ ET14 (rear)

Mirrors

Electrically controlled exterior mirrors

Airbags

Up to 8 Airbags: front driver and passengers airbag, front and rear side airbags, curtain airbag for head protection

ENGINE

Eight -cylinder V, 90°

Displacement

3.996 cm3

Bore / stroke

Ø 86 mm x 86 mm

Valve control

Intake and exhaust camshafts with continually variable adjustment

Turbocharger

Bi-turbo twin-scroll

Compression

9.7: 1

Max. power

490 kW / 666 CV at 6,000 rpm

Max. torque

850 Nm at 2,300-4,500 rpm

Emissions class

EURO 6

Exhaust treatment

4 catalyst with lambda regulation

Cooling system

Water cross flow cooling

Engine Management

Bosch

DRIVETRAIN

Type

4WD with integrated front differential, central differential (Torsen) and active torque vectoring rear differential

Transmission

8-speed automatic gearbox, characteristic depending on TAMBURO drive mode

PERFORMANCE

Top Speed

306 km/h

0–100 km/h

3.3 s

0–200 km/h

11.5 s

Braking (100-0 km/h) 32.9 m

DIMENSIONS

Wheelbase 3,006 mm

Length 5,137 mm

Width 2,026 mm

Width (incl. ext. mirrors) 2,181 mm

Height 1,618 mm.

Track front 1,711 mm

Track rear 1,718 mm

Kerb-to-kerb turning circle

11.8 m – average value, variable due to dynamic condition, thanks to Lamborghini Rear-wheel Steering (LRS)

Weight (DIN) 2,150 kg

Weight/power 3.23 kg/CV

Weight Distribution 58% (front) – 42% (rear)

CAPACITIES

Fuel 85 liters

Trunk 616 liters