จะเรียกว่าเป็นงานดัดแปลงเพื่อคืนชีพรถเก่าที่เคยโด่งดังในอดีต ก็ไม่เชิงนัก เพราะเจ้า 1961 Honda C105T Trail 55 ถูกสร้างขึ้นมาใหม่แทบจะทุกส่วน โดยคนสร้างเพียงคนเดียวในโรงรถของ Perry Wilson แห่ง Studio 35ive ที่กลางวันรับงานเป็นช่างภาพ และใช้เวลาว่างจากงานมาสานต่อสิ่งที่ตัวเองหลงใหล
Perry Wilson แห่ง Studio 35ive ซึ่งอาศัยอยู่ในเมือง Fort Collins รัฐ Colorado ในสหรัสอเมริกา ได้เริ่มสร้างผลงานชิ้นนี้ด้วยการนำเงิน 100 ดอลล่าร์หรือประมาณ 3,400 บาท ไปซื้อซากของ 1961 Honda C105T Trail 55 จากลานทิ้งซากรถในเมือง และนำมาชำแหละเพื่อตรวจสอบสิ่งที่ยังใช้งานได้และสิ่งที่เสียหาย แต่ก็พบว่ามีหลายๆ อย่างไม่สามารถใช้งานได้ จึงตัดสินใจที่จะรักษาโครงสร้างของตัวรถ ซ่อมแซมขึ้นมาใหม่ และออกแบบส่วนประกอบต่างๆ ขึ้นมาด้วยตัวเอง ด้วยความรู้ทางโปรแกรม CAD และใช้เทคโนโลยีการผลิตด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติในการสร้างชิ้นงาน
“ผมต้องการรูปลักษณ์และความรู้สึกแบบคลาสสิก” Perry Wilson กล่าว “ด้วยแรงบันดาลใจจากมอเตอร์ไซค์ scrambler และรถในแนว Trail ในยุคนั้น ทุกตารางนิ้วของบนตัวรถได้รับการปรับแต่ง และไม่มีแม้แต่น็อตตัวเดียวจากโรงงานที่หลงเหลือบนชิ้นงานนี้”
งานออกแบบส่วนใหญ่จะสังเกตเห็นว่าการ์ดด้านหน้าที่โฉบเฉี่ยวและแฟริ่งถูกถอดออกแล้ว เนื่องจาก Perry ยึดติดอยู่กับวิธีการลดน้ำหนักที่ผ่านการทดลองและเป็นจริงเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน เขาก้าวไปไกลกว่านั้นด้วยการตัดแต่งโครงเหล็กและแม้กระทั่งการตัด การเชื่อม และการทำให้รอยการเชื่อมต่อต่างๆ นั้นเรียบเนียนให้ได้มากที่สุด บังโคลนหลังเป็นแบบกำหนดเอง ซึ่งทาง Perry ได้ใช้ไอเดียของรถในแนว Trail มาเป็นแกนหลักในการออกแบบ
จะเห็นได้ว่าชุดไฟหน้าถูกถอดออกและเปลี่ยนเป็นแร็คแบบกำหนดเองที่ Perry ออกแบบใน CAD แล้วพิมพ์ออกมาด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ซึ่งมันดูเข้ากับแร็คที่อยู่ด้านหลัง โดยทาง Perry ใช้วัสดุที่เรียกว่า PLA+ เป็นส่วนประกอบในการพิมพ์และพบว่าวัสดุนี้มีความทนทานและแข็งแรงเป็นอย่างมาก เหมาะสมกับการนำไปใช้ในการดัดแปลงเพื่อเป็นส่วนประกอบของตัวรถอย่างมาก
แฮนด์บาร์ใหม่นั้น ได้มาจากจักรยานเสือภูเขา ด้วยการดัดแปลงบางส่วน และหลังจากกระบวนการลองผิดลองถูกเป็นเวลานาน เขาก็ลงเอยด้วยการตั้งค่าที่ดูเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก้านมือเบรก มือคลัตซ์จะเป็นแบบสั้น และมือจับแบบใหม่และกระจกปลายแฮนด์ Perry เลือกที่จะตั้งค่าการควบคุมด้วยวิธีนี้เพื่อให้ใช้งานง่าย เพราะเครื่องยนต์นั้นมีการเปลี่ยนแปลง และชุดเกียร์ใหม่ก็เป็นแบบกึ่งอัตโนมัติ ที่จะใช้งานหรือไม่ใช้งานคลัตซ์ก็สามารถเข้าและถอนเกียร์ได้ตามปกติ
เครื่องยนต์เดิมที่ติดมากับตัวรถนั้น เมื่อทำการชำแหละออกมาตรวจสอบแล้ว Perry มองว่าไม่น่าคุ้ม เพราะหลังจากถูกจอดทิ้งไว้นานกว่า 50 ปี ตัวเครื่องยนต์ก็เกินจะเยียวยาให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ Perry จึงตัดสินใจสั่งเครื่องยนต์ใหม่มาจากประเทศจีน และได้เลือกเครื่องยนต์ขนาด 125 ซีซี และชุดเกียร์แบบกึ่งอัตโนมัติ 4 สปีด โดยมีเกียร์เดินหน้า 3 สปีดและมีเกียร์ถอยหลังอีก 1 เกียร์
ในส่วนของระบบช่วงล่างนั้น หากเรามองไปยังโมเดลในยุค 60’s หรือ 70’s จากทาง Honda จะรู้ว่าทางค่ายปีกนกนั้นจะใช้งานโช้คอัพที่เป็นเพียงแค่ตัวยึดสปริงชุบโครเมียมเท่านั้น แต่ทาง Perry กลับคิดนอกกรอบให้แตกต่าง ดังนั้นโช้คใหม่จึงถูกติดตั้งเพื่อทำให้การกระแทกบนเส้นทางราบรื่นขึ้น และช่วยทำให้ตัวรถนั้นมีประสิทธิภาพในการขับขี่ที่หลากหลายมากขึ้น ในขณะที่ดุมล้อนั้นจะเป็นของเดิมจากโรงงาน แต่ซี่ลวดที่ติดมาด้วยนั้นเป็นสนิมจนยากเกินจะซ่อมแซม จึงได้ทำการสั่งซี่ลวดใหม่และทำการติดตั้งบนดุมล้อเดิม และสวมด้วยยาง Shinko SR241 ในรูปแบบของยาง All-Terrain ที่พร้อมลุยในทุกสภาพพื้นผิว
ชุดสีแดงตัดด้วยครีมนั้นถูกพ่นโดย Jeff Painter จากเมือง Naples รัฐ Florida เช่นเดียวกับลวดลายบนตัวถังที่เป็นงานเขียนมือโดย Bryson Lunger และยังเป็นคนเย็บเบาะนั่งหนังสีน้ำตาลขึ้นมาด้วยมือและมีเพียงชิ้นเดียวในโลก ในส่วนของกระเป๋าข้างนั้น ได้มาจากร้านขายอุปกรณ์เดินป่า โดยทาง Perry ได้ทำการออกแบบตัวยึดและพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ให้สามารถติดตั้งบนตัวรถได้
Perry Wilson อธิบายส่งท้ายไว้ว่า ผมต้องการให้จักรยานยนต์คันนี้เป็นตัวอย่างของแนวคิดที่ว่าคุณไม่จำเป็นต้องเป็นร้านค้าขนาดใหญ่หรือนักออกแบบเพื่อสร้างสิ่งที่ไม่เหมือนใคร นี่คือรถมอเตอร์ไซค์ของทุกคน ราคาถูก สนุก เชื่อถือได้ และมันก็ถูกสร้างขึ้นโดยบุคคลธรรมดาๆ แบบผม ดังนั้นใครก็สามารถสร้างมันได้เอง ด้วยนวัตกรรมที่เข้าถึงได้ง่ายในปัจจุบัน
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.bikeexif.com
