จากกรณี เพื่อนสนิทสุดโหดรุมซ้อมเพื่อนสนิทตัวเองสาหัสจนหมดสติ และนำไปทิ้งบนภูเขา ขณะที่เพื่อนเห็นคลิป จึงขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามไปพบ และนำส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
เหตุเกิดช่วงบ่ายวันที่ 30 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายกันต์รัตน์ บางแก้ว หรือ เกมส์ อายุ 21 ปี
วันที่ 3 พ.ค. 65 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยัง สภ.บ้านฉาง เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 13 คน เข้าสอบปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยมี 3 คนในก๊วน ตำรวจดึงไว้เป็นพยาน เนื่องจากมีการช่วยเหลือผู้เสียชีวิตนำส่งโรงพยาบาล
ในระหว่างที่เจ้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพาตัวผู้ต้องหาไปสอบปากคำ ทีมข่าวได้มีโอกาสสอบถามผู้ก่อเหตุ ถึงปมปัญหาการก่อเหตุว่ามีเรื่องของการขโมยพระเครื่อง หรือทรัพย์สินอย่างอื่นหรือไม่ แต่ผู้ต้องหาไม่ตอบคำถาม และไม่ชี้แจงกับสื่อมวลชน
นายเฟิร์ส อายุ 16 ปี หนึ่งในผู้ก่อเหตุ เปิดใจว่า นายกันต์รัตน์ เป็นเพื่อนในกลุ่ม ตนก็เพิ่งรู้จักได้ไม่นาน โดยมีพฤติกรรมชอบลักเล็กขโมยน้อย เพื่อนในกลุ่มถูกนายกันต์รัตน์ ผู้เสียชีวิตขโมยพระเครื่องไปหลายครั้ง แต่ไม่สามารถจับได้ เพราะไม่มีหลักฐาน
วันเกิดเหตุ 30 เม.ย. 65 ตนเดินทางไปบ้านของนายดิว ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ มีการรวมกลุ่มกันต้มน้ำกระท่อมดื่มตามปกติ ซึ่งนายกันต์รัตน์ก็เดินทางมาด้วย และถูกจับได้ในช่วงเย็นว่ามีการนำพระเครื่องแอบยัดใส่กระเป๋าส่วนตัว มีหลักฐานที่จับได้คามือ แต่นายกันต์รัตน์ไม่ยอมรับสารภาพ เพื่อนแต่ละคนจึงเกิดความโมโห เพราะบางคนโดนทั้งขโมยเงิน ขโมยพระเอาไปขาย จึงมีการทำร้ายร่างกายตามคลิป ตนก็เป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุที่ทำร้ายร่างกายด้วย
หลังจากนั้น กลุ่มเพื่อนก็ได้มีการพาตัวนายกันต์รัตน์ขึ้นรถกระบะไปยังแถวเขาภูดร ในพื้นที่ ตำบลสำนักท้อน อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โดยตนขับรถมอเตอร์ไซค์ตามไป 2 คัน 3 คน จะลงโทษให้นายกันต์รัตน์กลับบ้านเอง แต่ก็ด้วยความโมโหและอารมณ์ก็ยังมีการรุมทำร้ายทั้งเตะต่อย จนกระทั่งกลุ่มเพื่อนส่วนใหญ่ขึ้นรถกระบะกลับไปแล้ว เหลือแค่ตนกับเพื่อนอีก 2 คน ที่ยังอยู่ด้วยกัน เห็นสภาพนายกันต์รัตน์นอนอิดโรย ดูท่าจะไม่ไหว จึงพาตัวนายกันต์รัตน์ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์พาไปส่งที่โรงพยาบาลบ้านฉาง
ส่วนตัวรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยากขอโทษทางญาติผู้เสียชีวิต ตนเป็นส่วนหนึ่งในการก่อเหตุ ตนก็ได้มีการช่วยเหลือ อย่างเต็มที่แล้ว ไม่คิดว่านายกันต์รัตน์จะเสียชีวิต และเชื่อว่ากลุ่มคนก่อเหตุก็ไม่น่าจะหมายเอาให้ตาย แต่แค่จะสั่งสอน พอมาตอนนี้มีสติแล้ว ก็ยอมรับว่าสิ่งที่ทำลงไปเกินกว่าเหตุมาก และไม่เหมาะสม
สภาพจิตใจตอนนี้อยู่ในความเครียด เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะตนถูกนำตัวให้การเป็นพยาน กลัวว่าข้อมูลที่ให้ตำรวจไปอาจจะทำให้ใครไม่พอใจ ตอนนี้ไปไหนไม่ได้ เพราะกลัวว่าจะถูกเล่นงาน จึงอยากขอความยุติธรรมให้กับตนด้วย
นางจำเนียร (นามสมมติ) แม่ของหนึ่งในผู้ก่อเหตุ บอกว่า ลูกชายของตน อายุ 16 ปี ซึ่งก็ได้มีการรู้จักกับกลุ่มเพื่อนผู้ก่อเหตุ ได้ประมาณ 3 เดือน ตนก็ไม่รู้ว่าเพื่อนที่ลูกชายคบอยู่นั้นนิสัยใจคอเป็นอย่างไร และมีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ ซึ่งก็เคยเตือนลูกชายแล้วว่าให้ระมัดระวังในการคบหาเพื่อน ถ้ารู้ว่ามีเรื่องของยาเสพติดก็คงห้ามไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยว
ตนได้สอบถามจากทางลูกชาย บอกว่าวันเกิดเหตุมีการนัดให้ไปเจอกันที่บ้านของนายดิว ผู้เสียชีวิตมีการขโมยพระเครื่องของเพื่อนในกลุ่ม แต่ไม่ยอมรับสารภาพ จากนั้นจึงมีการทะเลาะวิวาทกันและทำร้ายร่างกายกันตามคลิป ซึ่งตนก็ได้เห็นคลิปดังกล่าวแล้ว ก็มองว่าทำเกินกว่าเหตุ และลูกชายของตนก็กลายเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุในคลิปนั้นด้วย อยากให้เห็นใจว่าลูกชายของตนยังขาดการคิดไตร่ตรอง และอาจจะกระทำการที่ขาดสติ
ตอนนี้มีความกังวลใจในเรื่องของคดีความว่าลูกชายจะถูกติดคุกหรือไม่ เนื่องจากตนก็ไม่มีเงินประกัน แม้ว่าตอนนี้ตำรวจจะดึงตัวไว้เป็นพยานในคดี แต่ก็ยังคงมีความกังวลใจในเรื่องของความปลอดภัย เนื่องจากหนึ่งในผู้ก่อเหตุก็เป็นคนที่มีอิทธิพลในพื้นที่ จึงอยากให้ทางเจ้าที่ตำรวจคุ้มกันความปลอดภัยให้ลูกชาย อยากจะขอโทษญาติผู้เสียชีวิต อยากพาลูกชายไปขอขมาศพ แต่ก็กลัวว่าทางครอบครัวผู้เสียชีวิตจะไม่พอใจ
ขณะเดียวกันทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายดิว หนึ่งในผู้ก่อเหตุ เป็นสถานที่ที่เกิดเหตุทำร้ายร่างกายกัน เป็นลักษณะบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ภายในซอยเทศบาล 34 ตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ซึ่งบ้านถูกปิดล็อกไม่มีคนอยู่
นายกล้า (นามสมมติ) เพื่อนบ้านผู้ก่อเหตุ บอกว่า บ้านหลังเกิดเหตุเป็นศูนย์รวมกลุ่มวัยรุ่นเป็นประจำ ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่ามารวมกลุ่มทำอะไรกัน แต่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ในเรื่องของเสียง เพราะด้วยความที่คนเยอะ ก็จะได้ยินเสียงพูดคุยกันเสียงดังในยามค่ำคืน โดยเจ้าของบ้านเอง ก็ไม่แน่ใจว่ามีการตักเตือนบุตรหลานตัวเองหรือไม่
วันเกิดเหตุ ตนเห็นว่ามีรถกระบะมาจอดที่บริเวณหน้าบ้าน และรู้สึกว่าจะมีกลุ่มวัยรุ่นเดินทางมาที่บ้านหลังเกิดเหตุมากกว่าปกติ ซึ่งหลังจากนั้นได้ยินเสียงคนทะเลาะวิวาทกัน โดยจับใจความได้ว่ามีเรื่องของการขโมยพระเครื่องและเงิน และได้ยินเสียงคนทำร้ายร่างกายกันภายในบ้าน โดยไม่ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือจากผู้เสียชีวิต
หลังจากนั้นตนเห็นว่ากลุ่มคนก่อเหตุได้มีการพาผู้เสียชีวิตขึ้นรถกระบะสีขาว ตนเข้าใจว่าเป็นการพาผู้เสียชีวิตไปส่งโรงพยาบาล แต่ไม่คาดคิดว่าจะมีการพาไปโยนทิ้งไว้กลางป่า และเสียชีวิตในภายหลัง ตนมองว่าทำเกินเหตุ
ที่วัดคลองทราย ตำบลบ้านฉาง อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ภายในศาลาวัด ถูกจัดตั้งงานศพของนายกันต์รัตน์ บางแก้ว หรือ เกมส์ อายุ 21 ปี ผู้เสียชีวิต มีการสวดศพมาแล้ว 2 วัน บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
นายสมบูรณ์ อ่อนระเบียบ อายุ 32 ปี ญาติผู้เสียชีวิต บอกว่า นายกันต์รัตน์ ผู้เสียชีวิต เป็นคนที่มีอุปนิสัยดี ไม่ใช่เด็กเกเร เท่าที่สัมผัส ก็ไม่เคยมีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย แต่ถ้าอยู่นอกบ้านตนก็ไม่แน่ใจ และก็ไม่รู้ว่ามีเรื่องของยาเสพติดหรือไม่ เพราะว่านายกันต์รัตน์ยอมรับว่ามีแค่การดื่มน้ำกระท่อม ซึ่งสาเหตุของการก่อเหตุ ตนไม่อยากเชื่อว่าจะมีแค่เรื่องของพระเครื่องอย่างเดียว แต่เชื่อว่า ผู้ก่อเหตุต้องมีเรื่องของยาเสพติดมาเกี่ยวข้อง เพราะดูจากการกระทำ ค่อนข้างที่จะใช้ความรุนแรงและอารมณ์ ตนมองว่าทำเกินกว่าเหตุอย่างมาก ถ้าเป็นเพื่อนกันก็ควรจะเตือนกัน หรือถ้าจะลงโทษ หากมีการขโมยพระเครื่องและเงินสดจริง ก็ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการทำโทษ ไม่ควรตั้งตนเป็นศาลเตี้ยแบบนี้
วันเกิดเหตุนายกันต์รัตน์เดินทางออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงเวลา 13.00 น. แต่ไม่ได้บอกกับใครว่าจะไปไหน ซึ่งมาขัดกับทางผู้ก่อเหตุ ที่ให้การกับทางเจ้าที่ตำรวจว่าพบนายกันต์รัตน์ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. แต่ความจริงช่วงเวลา 21.00 น. ตนได้รับสายจากโรงพยาบาลแล้วว่านายกันต์รัตน์เสียชีวิต
สิ่งที่คาใจมากที่สุดเป็นเรื่องของเพื่อนสนิทของนายกันต์รัตน์ว่าทำไมถึงไม่ช่วยเพื่อน ถ้ากลัวมีปัญหาก็น่าจะแจ้งญาติให้ทราบก็ได้ แต่นี่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่นายกันต์รัตน์ก็รักเพื่อนทุกคน ส่วนเรื่องคดีความ ยิ่งมีความกังวลไปใหญ่ เนื่องจากเมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาไปยังผู้ก่อเหตุว่าร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งปล่อยตัวชั่วคราว และก็มีภาพหลุดออกมาว่าผู้ก่อเหตุได้มีการออกไปนั่งกินข้าวอย่างสบายใจ จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ลงมาตรวจสอบคดีนี้ให้เกิดความยุติธรรมกับน้องชายตนด้วย