ในประเทศ – ซุบซิบกทม. : 22 กุมภาพันธ์ 2565 – หนังสือพิมพ์แนวหน้า

วันอังคาร ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565, 06.00 น.

nn เหตุการณ์ “ชะตากรรมชะตาทราม” ที่ไม่น่าเกิดกรณีตำรวจหนุ่มคนหนึ่งขับขี่รถมอเตอร์ไซค์แล้วไปเฉี่ยวชนแพทย์สาวอนาคตไกลเสียชีวิต ขณะข้ามทางม้าลายบริเวณไม่ใกล้ไม่ไกลจากหน้าเขตราชเทวีเท่าไหร่นัก จนทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึงว่าเหตุวิปโยคดังกล่าวไม่น่าจะเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้ นี่มันในเมืองหลวง เมืองที่การจราจรหนาแน่น ซึ่งผู้ใช้รถใช้ถนนต้องระมัดระวังสูงยิ่ง แต่หลายเส้นทางหากสังเกตกันดีๆ จะพบว่าความผิดทั้งหมดอยู่ที่คนขับขี่ที่ขับด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังตามวิสัยของคนที่ขับรถพึงมี รู้ทั้งรู้สถานที่หรือเส้นทางถนนในเมืองแออัด และมีผู้คนสัญจรข้ามถนนอยู่ตลอดเวลา nn พอเกิดเรื่องคุณหมอถูกมอเตอร์ไซค์ “บิ๊กไบค์” เฉี่ยวชนเสียชีวิต ตำรวจน้อยใหญ่ตื่นตัวชวนกันลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมลองข้ามถนนดู ทำเหมือนครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุทรามๆ ดังกล่าว จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อื้อว่าเป็นภาพที่ไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่เลย เนื่องจากวิธีดังกล่าวแก้ปัญหาไม่ได้ เพราะสิ่งที่เกิดปัญหาหลักมาจากคนใช้รถใช้ถนนประมาทมักง่าย ต่อให้มีทางม้าลายเป็นเนินสูง หรือเส้นทางม้าลายจะใหญ่หนาทึบชัดเท่าไหร่แค่ไหน ถ้าไม่มีการกวดขันให้เคารพกฎจราจร ความเสียหายย่อมเกิดไม่จบสิ้น วันนี้มอเตอร์ไซค์ขับขี่กันตามสบายและบ้าคลั่ง แซงซ้ายแซงขวาเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาน่ารำคาญยิ่งไปไม่ได้ มันก็พยายามเบียดเสียดแทรกตัวขึ้นอยู่หน้า พฤติกรรมปีศาจทรามๆ แบบนี้มีให้แลเห็นเพียบบนถนนเกือบทุกแห่ง บางคันเฉี่ยวเขาแล้วพยักหน้าหนีหายสุดสามานย์ คนขับรถยนต์ส่วนใหญ่ขี้เกียจเอาเรื่องเอาราวปล่อยไป nn ที่จริงเรื่องนี้ถ้าตำรวจซึ่งรับผิดชอบการจราจรเล่นจริงเอาจริง เช่น รณรงค์บอกกล่าวสนับสนุนให้คนขับรถที่เคารพกฎจราจรดีมีมารยาท หากถูกกระทำละเมิดให้แจ้งความร้องทุกข์เอาเรื่อง โดยตำรวจพร้อมดำเนินคดีให้ทันทีที่สำคัญจุดไหนมีสัญญาณไฟ แต่ “ซาตาน” พวกนี้ไม่หยุด หรือหยุดทับทางม้าลาย ตำรวจก็ต้องตามจับตามกล้อง แล้วเปรียบเทียบปรับให้สูงสุด ขณะเดียวกันถ้าตำรวจจราจรคนไหนแหกคอกเป็นใจให้ “มอเตอร์ไซค์” มีอภิสิทธิ์ฝ่าไฟแดง ต้องถือว่าตำรวจจราจรคนนั้น สมคบเป็นใจสนับสนุนให้กระทำความผิดเท่ากับเป็นตัวการ ก็ต้องรับผิดด้วย ยกเว้นรถฉุกเฉินที่แสดงสัญลักษณ์ขอทาง หรือรถรับ-ส่งคนป่วยคนบาดเจ็บเท่านั้น ถ้าตำรวจจราจรทำได้แค่นี้สิ่ง “อุบาทว์สายตา” จะเบาและน้อยหรือหมดไป nn ประการต่อมาถึงเวลาหรือยังที่สภาผู้แทนราษฎรจะนำเรื่องนี้ไปถกกันเสียที เพื่อให้ตำรวจจราจรขึ้นกับ กทม. วันนี้พอเกิดเหตุสุกดิบบนถนน กทม.คือจำเลยทุกมิติของสังคม ทั้งๆ อำนาจ กทม. ด้านการจราจร “หางอึ่ง” ก็ยังมีมากกว่ายาวกว่า ปัจจุบันพอเกิดเรื่องเน่าขึ้น กทม. ถูกด่าเช็ด แถมไม่โต้ตอบเจียมตัวเจียมตนดุจลูกเมียน้อย พูดไปสองไพเบี้ย ถ้าฟ้องร้องเพราะบกพร่องเรื่องการตีเส้นทำได้ แต่ต้องดูเจตนาเป็นสำคัญ nn

ไผ่ฎำ