โจ๋ซิ่ง จยย.ชนท้ายรถเก๋งยับ ดับ 2 ศพ สาหัส 1 อ้างถูกเก๋งปาดหน้า – ไทยรัฐ

กลุ่มวัยรุ่นขี่รถ จยย. มุ่งหน้า อ.โพนทอง ก่อนชนท้ายรถเก๋งอย่างจัง จยย.พังเสียหายอย่างน้อย 2 คัน มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2 ศพ

เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 4 กันยายน 2564 ร.ต.อ.พรสวรรค์ ชมภูเขา รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถเก๋ง บนถนนสายร้อยเอ็ด-โพนทอง บ้านหนองพอก ตำบลหนองพอก อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสหลายราย จึงรุดออกตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครกู้ภัยอโสกธวัชบุรี กู้ชีพโรงพยาบาลธวัชบุรี

ถึงจุดเกิดเหตุเป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร ไม่มีเกาะกลางถนน ขาเข้าอำเภอโพนทอง พบรถยนต์เก๋งนั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีเทา ทะเบียน กน 4942 ร้อยเอ็ด สภาพด้านท้ายรถยุบพังเสียหายยับเยิน ทราบชื่อคนขับคือ นายสุทธิลักษณ์ หาญสุโพธิ์ อายุ 30 ปี ห่างกันประมาณ 30 เมตร พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ในสภาพพังเสียหายยับเยิน เบาะหลุด ชิ้นส่วนแตกกระจัดกระจายเต็มพื้นถนน นอกจากนี้ยังพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าคัพ สีชมพู ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สภาพด้านหน้ารถยุบพังเสียหายยับเยิน ในที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย อาการสาหัส 2 ราย คือเยาวชนชายวัย 16 ปี เป็นคนขับฮอนด้าเวฟสีแดง ขาผิดรูปทั้งสองข้าง หมดสติไม่รู้สึกตัว ไม่มีชีพจร ใกล้กันพบเยาวชนชายอายุ 17 ปี ขับฮอนด้าคัพสีชมพู กระดูกบริเวณหน้าอกยุบ หมดสติไม่รู้สึกตัว ไม่มีชีพจร และพบเยาวชนชายอายุ 14 ปี แผลฉีกขาดที่ข้อศอกและเข่าด้านซ้าย เจ้าหน้าที่เร่งทำการ CPR และปฐมพยาบาลเบื้องต้น เร่งนำส่งโรงพยาบาลธวัชบุรีและโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ทราบภายหลังผู้บาดเจ็บเสียชีวิต 2 ราย

สอบถามวัยรุ่นชายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมกันกับผู้ตาย เล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนพร้อมเพื่อนอีก 5 คันได้ขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้า อ.โพนทอง มาถึงจุดเกิดเหตุ จู่ๆ มีรถเก๋งเลี้ยวออกมาจากฝั่งตรงข้าม ทำให้รถของผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คันพุ่งชนท้ายรถเก๋งอย่างแรง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

สอบถามยายของผู้เสียชีวิต เยาวชนชาย 16 ปี (ขับฮอนด้าเวฟสีแดง) เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุหลานชายบอกกับตนว่าจะออกมาขี่รถเล่นที่ถนนหน้าสนามบิน ซึ่งตนก็ได้ตักเตือนว่าอย่าไปขับรถเร็วหรือแข่งกัน เพราะมีคนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตมาหลายรายแล้ว แต่ตนก็ไม่รู้ว่าหลานชายออกจากบ้านแล้วจะขับขี่อย่างไร จนมาทราบข่าวว่าประสบอุบัติเหตุ ตนแทบใจสลาย ได้แต่ก้มกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้คุ้มครองหลานชายให้ปลอดภัย

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐานและสอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ก่อนจะเชิญตัวคนขับรถเก๋งมาสอบปากคำเพิ่มเติม และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.