แม่เหยื่อ 'แข่งรถมรณะ' ชนคนดูดับ ร้อง 2 ด. คดีเงียบ เชื่อทน.ตรังมีเอี่ยวจัดงาน จี้รับผิดชอบ

ลืมกันหรือยัง! ผ่านมาแล้ว 2 เดือนกว่าๆ จัดรถแข่งไร้มาตรฐานและอุปกรณ์ป้องกัน จนเกิดอุบัติเหตุรถแข่งชนคนดูตาย 1 เจ็บ 7 ราย ระยะเวลาผ่านมากว่า 2 เดือน แม่คนตายร้อง ผู้จัดยังไม่ได้เยียวยา เทศบาลนครตรังปัดความรับผิดชอบ เหมือนลูกต้องมาตายฟรี จี้! เอาผิดเทศบาลด้วย หลังเคยให้สัมภาษณ์นักข่าวว่ามีเจตนารมณ์ที่จะ ‘รื้อฟื้นการแข่งรถ’ ขณะที่กำนันชื่อดังและทนายอาสายื่นมือเข้าช่วยเหลือ มองเทศบาลเกี่ยวข้องโดยตรง แต่กลับเพิกเฉย ไม่สนใจ

เมื่อวันที่ 17 กันยายน น.ส.ลัดดาวัลย์ หรือแม่จุ้ม อายุ 46 ปี ชาว ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง จ.ตรัง มารดาของ นายมณฑล หรือลูกปลา อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนน้ำผุด (มัธยม) ประสบเหตุเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 ก.ค. จากเหตุการณ์รถแข่ง 150 ซีซี เสียหลักพุ่งชนน้องลูกปลา ซึ่งเป็นผู้เข้าชมการแข่งขันเสียชีวิตบริเวณขอบสนามชั่วคราวในการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ทางเรียบการกุศล “กะพังสุรินทร์โรดเรซซิ่ง” ภายในสวนสาธารณะสระกะพังสุรินทร์ ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าว พร้อมด้วย นายเจริญ ศรนารายณ์ กำนัน ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง นายไกรสร ชูเพชร ทนายความอาสา หลังระยะเวลาผ่านมาถึง 2 เดือนกว่าๆ แต่ทางผู้จัดงานยังคงนิ่งเฉยไม่ออกมารับผิดชอบและเยียวยา รวมทั้งทางเทศบาลยังคงปัดความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น

น.ส.ลัดดาวัลย์ กล่าวว่า วันนี้อยากจะเรียกร้องว่า ให้มีคนเข้ามารับผิดชอบ ตั้งแต่ที่น้องเสียชีวิตลง มีการนำเงินมาช่วยเหลืองานศพเพียงแค่ 1 แสนบาทเท่านั้น และเรื่องก็ได้เงียบหายไปเลย ไม่มีใครติดต่ออะไรเข้ามา ซึ่งทาง นายถนอมพงษ์ หลีกภัย รองนายกเทศมนตรีนครตรัง บอกตนว่าจะช่วยงานศพแค่ 1 แสนบาทนั้นไปก่อน และจะเยียวยาจำนวน 1.3 ล้านบาทอีกส่วนหนึ่ง ก็กลับเงียบหายไป การดำเนินการทุกอย่างล่าช้าที่สุด เหมือนจะปล่อยให้เรื่องค่อยๆ เงียบหายไปเอง รู้สึกว่าไม่มีใครมารับผิดชอบกับการตายของลูก และการกระทำดังกล่าวที่เกิดขึ้น

ส่วนเรื่องทางคดีของกฎหมาย เมื่อก่อนตนอาจมองว่าทำคดีด้วยความยุติธรรม แต่เมื่อเรื่องกลับล่าช้าแบบนี้ ความรับผิดชอบของทุกฝ่ายน้อยที่สุด และยังคงมองว่าการจัดแข่งรถดังกล่าวน่าจะเกี่ยวข้องกับเทศบาลนครตรังด้วย เพราะว่าตั้งแต่เริ่มต้นเปิดงานแข่งขัน ตลอดจนการแข่งขันทั้งหมด เทศบาลนครตรังมีส่วนร่วมทั้งหมด เช่น ใช้พนักงานเทศกิจของเทศบาลไปยืนคุมประตู อุปกรณ์ในหลายส่วนเป็นของเทศบาล เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน ตลอดจนถึงผู้บริหารและสมาชิกสภาเทศบาล เป็นผู้ควบคุมงานอยู่เกือบจะทั้งหมด แม้แต่วันเปิดงาน

ทาง ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีฯ ยังกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เป็นเจตนารมณ์ของเทศบาลที่จะจัดงานแข่งรถนี้ขึ้นมา จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานว่าเทศบาลมีส่วนกระทำความผิดและจัดงานด้วยจริงๆ หรือไม่อย่างไร และล่าสุดทางตำรวจแจ้งมาว่าจะยื่นสำนวนส่งฟ้องอัยการศาล จ.ตรัง วันที่ 20 ก.ย.ที่จะถึงนี้ แต่ยื่นฟ้องแค่กลุ่มเอกชนที่มีชื่อเป็นผู้จัด จึงอยากให้สืบพยานสาวถึงหน่วยงานราชการอื่นด้วย เพราะต่างคนก็ต่างรู้อยู่แก่ใจ

น.ส.ลัดดาวัลย์กล่าวปิดท้ายว่า ตอนนี้ครอบครัวยังทำใจกันไม่ได้ ตนไม่อยากให้ลูกต้องตายฟรี อยากให้ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามารับผิดทางกฎหมาย และเข้ามาเยียวยาในความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับลูกของตน ถ้าหากเกิดขึ้นกับครอบครัวเขา เขาจะรู้สึกยังไง ถ้าลูกของเขาเสียชีวิตลงแบบนี้ และไม่มีคนเข้ารับผิดชอบแบบนี้จะรู้สึกยังไง

ด้าน นายเจริญ ผู้นำชุมชนของผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้ประสานไปยังเทศบาลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยตลอดมา ในเบื้องต้นทางเทศบาลได้นำผู้จัดงานมาคารวะและขอขมาศพ และเคยรับปากจะดูแลในเรื่องค่าเยียวยาต่อ แต่จนถึงขณะนี้ระยะเวลากลับล่วงเลยผ่านมานานแล้วพอสมควร ก็ยังไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเข้ามาดูแล ทำให้ตนต้องไป สภ.เมืองตรัง 2 ครั้งเพื่อติดตามคดี ก็ได้คุยกับ พ.ต.อ.เชื้อชาติ เยาดำ ผกก. ทำให้ทราบว่าทางตำรวจจะดำเนินคดีเฉพาะแค่กับผู้จัดงานที่เป็นเอกชนเพียง 4 รายเท่านั้น แต่ในส่วนของทางเทศบาลนั้น ทางตำรวจบอกว่ากำลังดูเรื่องพยานหลักฐานอยู่ว่าจะเกี่ยวข้องแค่ไหนเพียงใด

นายเจริญกล่าวอีกว่า ส่วนผู้ที่ต้องเยียวยาโดยตรงนั้น ก็คือผู้ร่วมกันกระทำความผิด แน่นอนว่านอกเหนือจากเอกชนที่อ้างว่าเป็นผู้จัดแล้ว ก็มีข้อมูลอยู่หลายส่วน ที่ทางเทศบาลเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นในช่วงพิธีเปิดงาน หรือการให้สัมภาษณ์ของผู้บริหารเทศบาลก็ทำให้มองว่าเทศบาลน่าจะเกี่ยวข้องโดยตรงด้วย ในส่วนการดำเนินคดีนั้น ตนก็กำลังรวบรวมพยานหลักฐานให้ตำรวจอยู่ หากไม่คืบหน้าก็คงจะเป็นผู้นำพาผู้เสียหายไปร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ป.ป.ช.หรือส่วนราชการอื่น เพื่อที่จะหาตัวผู้ที่กระทำความผิด ผู้กระทำละเมิดมาเป็นผู้เยียวยา และรับโทษตามกฎหมาย

“ในฐานนะที่ตนก็เป็นทนายความและนักกฎหมายด้วยติดใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก 1.การเสียชีวิตเกิดขึ้นหลายเดือนแล้วความรับผิดชอบน่าจะคืบหน้ามากไปกว่านี้ 2.ทางเทศบาลคล้ายๆ กับเป็นแม่งานโดยตรงน่าจะมีส่วนรับผิดชอบมากกว่านี้ ไม่ใช่เพิกเฉย ละเลย และไม่ให้ความสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย” นายเจริญกล่าว

ขณะที่ นายไกรสร ชูเพชร ทนายความอาสายื่นมือเข้ามาช่วยผู้เสียหาย กล่าวว่า จะไปดูว่าคดีนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการอย่างไร ตำรวจได้ดำเนินการอะไรไปบ้างแล้ว มีบุคคลใดเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกระทำความผิดบ้าง หากพบว่ามีการร่วมของเทศบาล ก็จะยื่นร้องเรียนกับทาง ป.ป.ช. ตรวจสอบเกี่ยวกับการจัดงาน การขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ เช่น การขอใช้ถนนและการจัดงานมีความปลอดภัยหรือไม่ เนื่องจากการจัดงานแข่งรถย่อมมีความเสี่ยงอยู่แล้วที่จะเกิดอุบัติเหตุ และทางผู้จัดต้องดูว่าจัดในฐานะไหน ส่วนตัว หรือในฐานะตัวแทนของเทศบาล หากรู้ว่าตนเองกระทำความผิด ก็ควรออกมารับผิดชอบ ไม่สมควรนิ่งเฉย ความสูญเสียเกิดควรจะเยียวยาให้เร็วกว่านี้ ซึ่งจะรวบรวมหาพยานหลักฐานดำเนินการช่วยเหลือผู้เสียหายตามขั้นตอนต่อไป

ส่วนผู้สื่อข่าวรายงานย้อนถึงคลิปการให้สัมภาษณ์ของ ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศบาลนครตรัง ในวันเป็นประธานเปิดการแข่งขันเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ระบุว่า ตามนโยบายที่ตนต้องการจะรื้อฟื้นการแข่งขันกะพังโรดเรชซิ่ง ขึ้นมาใหม่ หลังจากที่หยุดไปประมาณ 40 กว่าปี ปกติสนามแข่งสระกะพังสุรินทร์ถือเป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศ การรื้อฟื้นครั้งนี้เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นใน จ.ตรัง ทำเงินสะพัดหลักล้านบาท ให้นักแข่งทั่วประเทศมารวมตัวกัน สามารถประชาสัมพันธ์ จ.ตรัง ให้คนได้รู้จักมากขึ้น ต่อไปในอนาคตอาจจะมีการจัดการแข่งขันเรือพาย ทำม่านน้ำเต้นระบำ กำลังจะดำเนินการเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยว รวมทั้งวัยรุ่นหรือผู้ที่ชื่นชอบในการแข่งรถ ก็จะได้มีพื้นที่ในการแข่งขัน โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น

QR Code LINE @Matichon

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก

Line @Matichon ได้ที่นี่

LINE @Matichon