“อนุทิน” ปูดพบคนสวมเสื้อวินเข้าคิวฉีดวัคซีน – Thai News Agency

สธ. 8 มิ.ย.-“อนุทิน” ปูดพบคนสวมเสื้อวินเข้าคิวฉีดวัคซีนที่ สถานีกลางบางซื่อ แม้เจ้าหน้าที่ไม่ฉีดให้แต่ต้องดำเนินคดี ย้ำไม่ต้องจำเป็นต้องซื้อขายวัคซีน คนไทยทุกคนมีสิทธิได้รับวัคซีนอยู่แล้ว วอนทุกฝ่ายเข้าใจวัคซีนโควิดทยอยเข้ามา ขณะที่ปลัด สธ.แจงวันนี้กระจายวัคซีนซิโนแวคไป 7.5 แสนโดส ไปในพื้นที่ เผย 10 มิ.ย. ซิโนแวคมา 1ล้านโดส และ14 มิ.ย.แอสตราฯ จะเข้ามาเพิ่ม

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวย้ำว่า ขณะนี้ทุกพื้นที่ มีความพร้อมในการฉีดวัคซีนได้และรับการกระจายวัคซีนไปในครบทุกจังหวัดแล้ว แต่จะเป็นลักษณะของวัคซีนที่ทยอยเข้ามา ดังนั้น ต้องมีการบริหารจัดการให้ดี จะฉีดครั้งเดียวหมดก็ไม่ได้ ต้องพิจารณาฉีดให้ต่อเนื่องและอำนาจของแพทย์ในพิจารณาว่าจะให้วัคซีนชนิดใดกับผู้มารับการฉีด ทั้งแอสตราเซเนกา หรือซิโนแวค แต่ยืนยันว่าวัคซีนที่รัฐบาลจัดหามาให้นั้น ทั้ง 2 ชนิดมีประสิทธิภาพเท่าเทียม ไม่อยากให้ประชาชนเข้าใจว่า อันไหนดีกว่ากัน ย้ำเรื่องการฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญ

นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณี รพ.ประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนโควิดนั้น ไม่เป็นความจริง เป็นแค่การสอบถามตามระบบบริหารงาน เป็นอำนาจของปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโดยการพิจารณาเลื่อนฉีดหรือยกเลิกต้องมีเหตุผลรองรับ ผ่านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดด้วย แต่ส่วนใหญ่ที่พบเป็นการเลื่อนในกลุ่มองค์กรมากกว่า

นอกจากนี้ยังย้ำว่าวัคซีนจะทยอยเข้ามาต่อเนื่อง ในเดือนมิถุนายน ยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด และจะเร่งทยอยฉีดเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด โดยประชาชนทุกคนที่อยู่บนผืนแผ่นดินไทย จะต้องได้รับวัคซีนแน่นอน จะต้องไม่มีการซื้อขาย มีเพียงพอ หลังจากเกิดกรณีพบที่ศูนย์การฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ มีบางคนนำเสื้อวินมอเตอร์ไซด์มาใส่ ที่อาจไม่เข้ากับบุคลิก ที่ดูคล้ายคนมีฐานะดี เพื่อรับวัคซีนซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ดำเนินการตรวจสอบ และไม่ได้ฉีดวัคซีนกับคนดังกล่าวและกำชับให้ดำเนินดี อย่างไรก็ตามกระทรวงคมนาคมต้องตรวจสอบว่าใช่กลุ่มคนขับขี่รถโดย สารสาธาณะตามโควต้ากระทรวงคมนาคมหรือไม่ เพราะไม่ใช่อำนาจของ สธ.

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันนี้กระจายวัคซีนซิโนแวคไปในพื้นที่อีก 7.5 แสนโดส ตามแผนที่ได้วางไว้กับทางศบค. และจากนั้นจะมีวัคซีนที่ผ่านการตรวจรับรองรุ่นการผลิตของซิโนแวคอีก 5 แสนโดสเข้ามาในระบบและทยอยส่งมอบในพื้นที่ จากนั้นวันที่10 มิ.ย.จะมีวัคซีนของซิโนแวคทยอยเข้ามาอีก 1 ล้านโดส และในวันที่ 14 มิ.ย. จะมีวัคซีนแอสตราเซเนกาทยอยเข้ามาอีก แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการวิชาการ ฯได้ให้คำแนะนำว่า วัคซีน 2 ชนิด ทั้งแอสตราฯ ซิโนแวค สามารถฉีดได้ครอบคลุมตั้งแต่ผู้อายุ18 ปี ขึ้นไป จนถึงผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป การพิจารณาฉีดวัคซีนชนิดไหนก็สามารถทำได้ไม่แตกต่างกัน แล้ว แต่ละพื้นที่พิจารณา เนื่องจากหากเป็นในพื้นที่ระบาด การฉีดแอสตราฯ เพียง 1เข็มสามารถชะลอและควบคุมโรคได้นาน ถึง 3 เดือนจากนั้นถึงเริ่มฉีดเข็ม 2ได้ แต่หากเป็นซิโนแวค ต้องฉีดต่อเนื่องถึง 2เข็ม ถึงจะสร้างภูมิ คุ้มกัน ทำให้บางพื้นที่ต้องพิจารณาฉีดวัคซีนแอสตราฯก่อน

ส่วนเรื่องของการผลศึกษาวิจัย วัคซีนซิโนแวค สามารถฉีดได้ในเด็ก 3 ปี ขึ้นไปนั้น ขณะนี้ยังต้องรอการศึกษาที่ชัดเจน แต่ก็ถือว่าเป็นข่าวดี พร้อมย้ำ วัคซีนที่ไทยจะได้รับ ยังคงเป็นตามเป้า เบื้องต้นใน 2 สัปดาห์แรก กระจายไป 3.5 ล้านโดส .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม