หลักฐานชัด! แจ้งความเอาผิดกลุ่มรถจักรยานยนต์วิบาก จี้ ตร.นำตัวดำเนินคดี



กระบี่ – หลักฐานชัด! เจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าแจ้งความเอาผิดกลุ่มนักแข่งวิบาก ที่ขับรถเข้าไปในถ้ำโต๊ะหลวงแล้ว กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ หลังพบหินงอกหินย้อยได้รับความเสียหายจากล้อรถ มอบหลักฐานให้ตำรวจ สภ.อ่าวลึก ติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี



จากกรณีมีการแชร์คลิปกลุ่มนักแข่งจักรยานยนต์วิบาก จำนวนกว่า 10 คัน นำรถจักรยายนต์เข้าไปขับภายในถ้ำโต๊ะหลวง หมู่ 2 ต.คลองหิน อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมากถึงความไม่เหมาะสมและก่อให้เกิดความเสียหาย โดยเฉพาะกลุ่มนักอนุรักษ์ออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ เนื่องจากถ้ำโต๊ะหลวงได้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งโบราณสถาน ซึ่งมีการค้นพบวัตถุโบราณ ภาพเขียนสีโบราณ โดยกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งโบราณสถานไว้เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2559 และ จัดอยู่ในลำดับที่ 35 ของโบราณสถาน ใน จ.กระบี่ ทางอำเภออ่าวลึก เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพบรอยล้อรถวิบากจำนวนมาก และพบหินงอกหินย้อยได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง

ล่าสุด นายวิรัช อยู่เป็นสุข หน.หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ กบ.5 (ปลายพระยา) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ อ.อ่าวลึก และ อ.ปลายพระยา เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่ถ้ำโต๊ะหลวง อยู่ในเขตป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 พบร่องรอยล้อรถวิบากภายในถ้ำจำนวนมาก ซึ่งมองเห็นได้ชัดเจน และสามารถเดินทะลุออกไปด้านหลังถ้ำได้ นอกจากนั้น ยังพบชิ้นส่วนหินงอกหินย้อย ภายในถ้ำแตกหักจำนวนหนึ่ง ซึ่งเกิดจากล้อรถของจักรยานยนต์วิบาก จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา



โดยแจ้งข้อหากระทำผิดต่อ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 กระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยได้นำหลักฐานแผ่นซีดีบันทึกวิดีโอพฤติกรรมของกลุ่มผู้กระทำผิด มอบให้พนักงานสอบสวน สภ.อ่าวลึก เพื่อสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนกรณีความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.โบราณสถาน โบราราณวัตถุนั้น เป็นหน้าที่ของกรมศิลปากรที่จะดำเนินการต่อไป

นายเดชชาติ ดำดี อดีตประธานจัดการแข่งขันจักรยายนต์โมโตครอส ใน จ.กระบี่ และภาคใต้ กล่าวว่า การแข่งขันรถจักรยานยนต์โมโตครอส หรือรถจักรยานยนต์วิบาก มีสถานที่ให้จัดแข่งขันหรือฝึกซ้อมมากมาย จึงเป็นการไม่เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะไปขับในถ้ำ หรือสถานที่ที่เป็นแหล่งโบราณคดี จึงอยากจะฝากไปยังนักแข่งวิบากว่า หากจะไปทดสอบรถ หรือจัดแข่งขันควรจะไปเล่นในที่ห่างไกลชุมชน หรือแหล่งที่มีความเจริญ

และที่สำคัญจะต้องขออนุญาตจากเจ้าของสถานที่นั้นๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อประมาณ 10 กว่าปีผ่านมา สมัยที่ตนเป็นประธานสมาพันธ์นักแข่งวิบากภาคใต้ เคยมีการร้องเรียน ว่ามีกลุ่มจักรยานยนต์วิบากไปขับแข่งกันในสวนยางของชาวบ้าน ได้รับความเสียหาย ได้มีการตักเตือนกันไปและไม่เกิดขึ้นอีก จนกระทั่งมาเกิดเหตุในครั้งนี้ ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควร