ลุ้นตั๋วเอเชีย

โดยจะมีคิวดวลความเร็วกันในระหว่างวันที่ 2-4 ก.ย.นี้ ที่ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เช่นเดิม

ไฮไลต์อยู่ที่รุ่นซูเปอร์ไบค์ 1,000 ซีซี ซึ่งรวมดาวบิดชั้นนำไว้มากมาย

คงต้องยกนิ้วให้ “ติ๊งโน๊ต” ฐิติพงศ์ วโรกร แชมป์หลายสมัยจากพีเอสจีเอ ดูคาติ พีทีที ลูบริแคนท์ นก จูนเนอร์ ติ๊งโน๊ต เรซซิ่ง ที่เป็นแชมป์มาแล้ว 2 สนาม แต่อย่างไรก็ตามเขามิอาจประมาทได้

เพราะสนามนี้ยังต้องต่อสู้กับคู่แข่งคนสำคัญอย่าง “ซุป” อนุชา นาคเจริญศรี จากยามาฮ่า บริดจสโตน อนุชา เรซซิ่ง ทีม, “ซีเค” ชัยวิชิต นิสกุล จากจอมไทย แฮปปี้ โฮม โมโตเร็กซ์ บริดจสโตน เรซซิ่ง ทีม และ “ปาร์ค” พาทิศ ชูประเทศ จากจัสต์คาร์ เรซซิ่ง ทีม

และอีกหนึ่งในรุ่นที่น่าสนใจ ซูเปอร์สปอร์ต 600 ซีซี

ที่มีทั้ง “ฟอง” คณาทัต ใจมั่น จากยามาฮ่า ไฮสปีด แชมป์สนามแรก, “ชิพ” นครินทร์ อธิรัฐภูวภัทร์ อดีตนักบิดโมโตทรีจากฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ แชมป์สนาม 2 พร้อมเพื่อนร่วมทีม “แชมป์” ภาสวิชญ์ ฐิติวรารักษ์ และ “นิว” กฤชพร แก้วสนธิ ยังคงต้องลุ้นแชมป์กันอย่างดุเดือด

แน่นอนว่ารายการนี้เป็นการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบรายการยิ่งใหญ่ที่สุดของบ้านเรา

ซึ่งบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR (โออาร์) และสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ร่วมมือกันจัดขึ้น

เป็นการต่อยอดความสำเร็จในปีที่ผ่านมากับจำนวนนักแข่งและทีมแข่งระดับประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 1,200 คนทั้งฤดูกาล โดยมียอดการเข้าชมผ่านทางระบบออนไลน์ ไลฟ์ สตรีมมิ่งทุกช่องทาง มากกว่า 2 ล้านการเข้าถึง ตลอดทั้งฤดูกาล

ในขณะเดียวกันยังมีมูลค่าสื่อประชาสัมพันธ์ 4 สนาม มากกว่า 349 ล้านบาท

มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ในประเทศ และต่างประเทศไปยังประเทศกลุ่ม AEC คือ ลาว เมียนมา กัมพูชา และล่าสุด Official YouTube ช่อง TVB Thailand ที่มีผู้ติดตามกว่า 1.3 ล้านคน

ข้อมูลเหล่านี้ย่อมการันตีความมันส์และความสำคัญของรายการนี้ได้แบบไม่มีใครกล้าเถียง

เมื่อปีนี้การชิงชัยเดินทางมาถึงสนามที่ 3 จึงมีความน่าสนใจอย่างยิ่ง

การลุ้นแย่งแชมป์น่าตื่นเต้นชนิดต้องลุ้นกัน แบบห้ามกะพริบตา

ถือเป็นการเข้าสู่ช่วงสำคัญในการลุ้นแชมป์ประจำปีของแต่ละรุ่น

สถานการณ์จะออกมาอย่างไร ใครกันที่จะเก็บคะแนนเพิ่ม เพื่อก้าวเป็นแชมป์ประเทศไทยต่อไป โปรดติดตาม

งานนี้มีตั๋วไวลด์การ์ดเอเชีย…เป็นเดิมพัน.

ยุบสภา