ยามาฮ่าสานต่อปีที่7ปั้น”อาชีวะ”เข้าวงการมอเตอร์สปอร์ตดัน YZF-R15สู่สนามแข่ง

    “ไทยยามาฮ่า” สานต่อความสำเร็จโครงการปั้น “นักศึกษาอาชีวะ” สู่วงการมอเตอร์สปอร์ต เดินหน้าจัดการแข่งขัน Yamaha Moto Challenge Season 7 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร  ยามาฮ่า พร้อมยกระดับเกมความเร็วให้เข้มข้นด้วยรถแข่งสายพันธุ์สปอร์ตอย่าง R-Series Yamaha YZF-R15 ชิงชัย 4 สนาม บนสังเวียนความเร็วชั้นนำของไทย พร้อมส่ง “ตั้น” เดชา ไกรศาสตร์ อดีตแชมป์เอเชียและบุคลากรผู้เชี่ยวชาญจาก ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซซิ่ง ทีม ร่วมให้ความรู้ เทคนิคต่างๆ และเสริมทักษะให้แก่น้องๆ นักศึกษาอาชีวะอย่างใกล้ชิด 

    บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด โดยนายวีรพงษ์ ธนากิจจานนท์ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายกีฬายานยนต์ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ร่วมกับ สมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แถลงข่าวอย่างเป็นทางการเดินหน้าสานต่อวิชาชีพมอเตอร์สปอร์ต โครงการ Yamaha Moto Challenge Season 7 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร 

  ภายใต้แนวทางในการพัฒนาทักษะวิชาชีพรถจักรยานยนต์ให้กับนักศึกษาอาชีวะ โดยมีการยกระดับโครงการหลายอย่างเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้มากขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมาณ บูธ “YAMAHA-SMART CONNECTED LIFE” ชาเลนเจอร์ 1 เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา 

    สำหรับโครงการ Yamaha Moto Challenge Season 7 จะมีสถาบันการศึกษาในสังกัด สมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น จำนวน 15 สถาบัน จากทั่วประเทศ

    โดยในแต่ละสถาบันการศึกษาจะประกอบไปด้วย นักแข่ง, ทีมช่างแมคคานิคส์, ผู้จัดการทีมแข่ง และทุกทีมสถาบันฯ จะได้รับการอบรมสัมนาด้านเทคนิคอย่างละเอียดจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญของ ยามาฮ่า เพื่อสร้างองค์ความรู้ทุกด้านของการเป็น “ทีมแข่งรถจักรยานยนต์” ระดับอาชีพ 

    ขณะเดียวกัน “ทีมแข่งจากทุกสถาบัน” จะได้รับถ่ายทอดประสบการณ์ด้านมอเตอร์สปอร์ตอย่างใกล้ชิด จากยอดนักแข่งระดับอาชีพของไทย ที่ประสบความสำเร็จมากมายนำโดย “ตั้น” เดชา ไกรศาสตร์ อดีตแชมป์เอเชีย รวมถึงบุคลากรผู้เชี่ยวชาญของ ยามาฮ่า ไทยแลนด์ เรซซิ่งทีม ด้วย 

    ทั้งนี้ ทีมแข่งจาก 15 สถาบัน จะต้องเข้าอบรมภาคทฤษฎี จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญของ ยามาฮ่า ก่อนที่จะทำการลงแข่งขันในภาคปฎิบัติ จำนวน 4 สนาม ดังนี้ 

สนามที่ 1  วันที่ 29-30 พฤษภาคม 2564 สนามไทยแลนด์ เซอร์กิต นครชัยศรี

สนามที่ 2  วันที่ 21-22 สิงหาคม 2564 สนามพีระ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต พัทยา

สนามที่ 3-4  วันที่ 16 -17 ตุลาคม 2564 สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต บุรีรัมย์

    นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้เปิดเผยว่า “โครงการ Yamaha Moto Challenge ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ในการสร้างองค์ความรู้ในวิชาชีพมอเตอร์สปอร์ตให้กับเหล่านักศึกษาอาชีวะเอกชน และมีเยาวชนช่างไทยที่ผ่านการปฎิบัติการทั้งภาคทฤษฎีและภาคสนามมาแล้วมากมาย” 

    “เนื่องจากในปีนี้ นับเป็นวาระฉลองครบรอบ 60 ปี ที่ ยามาฮ่า มอเตอร์ เข้าร่วมการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก ซึ่งพิสูจน์ความสำเร็จของ ยามาฮ่า ว่าได้สร้างบุคลากรชั้นนำในวงการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกมาอย่างยาวนาน ผ่านความสำเร็จในการคว้าแชมป์โลกหลายสมัย รวมถึงการแข่งขันในระดับเอเชีย และในประเทศต่างๆ” 

    “และในปีที่ยิ่งใหญ่นี้ ยามาฮ่า ในฐานะองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญด้านมอเตอร์สปอร์ต ขอเดินหน้าสานต่อโครงการเพื่อสังคมในการผลักดันนักศึกษาอาชีวะให้ก้าวเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตอย่างแข็งแกร่ง ภายใต้โครงการ Yamaha Moto Challenge เพื่อมอบองค์ความรู้ในวิชาชีพมอเตอร์สปอร์ต ผ่านความร่วมมือกับ สมาคมวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสริมสร้างประสบการณ์เรียนรู้วิชาชีพนอกห้องเรียนให้กับเยาวชนช่างเทคนิคของประเทศไทย” 

    “โดยในปี 2021 ซึ่งเป็น Season 7 ของการแข่งขัน เราได้ทำการยกระดับโครงการนี้ ด้วยการเปลี่ยนแปลงรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการศึกษามาเป็น รถจักรยานยนต์ประเภทสปอร์ตรุ่น Yamaha YZF-R15 ซึ่งเป็นรถสปอร์ตสายพันธุ์ R-Series ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เพื่อให้นักศึกษาและคณาจารย์จากทุกสถาบันฯ ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับองค์ความรู้ในระดับที่สูงขึ้นกว่าเดิม อันจะเป็นประโยชน์เพิ่มพูนทักษะและฝีมือเชิงช่างให้กับเหล่านักศึกษาอาชีวะของประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอีกช่องทางหนึ่ง” นายพงศธร กล่าว 

    ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา Yamaha Moto Challenge ได้ใช้ Yamaha Exciter สุดยอดรถจักรยานยนต์อันเดอร์โบน เสริมสร้างความรู้ให้กับผู้เข้าร่วมโครงการมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ได้มีการยกระดับมาเป็น Yamaha YZF-R15 ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ประเภทสปอร์ต ที่มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย อาทิเช่นระบบวาล์วแปรผัน VVA, ระบบสลิปเปอร์คลัทช์, ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ Upside Down และเทคโนโลยีอื่นๆ มารองรับการเรียนรู้ให้เท่าทันกับเทคโนโลยีรถจักรยานยนต์ในปัจจุบัน