“ป้าทองหยด” ตระเวนขายขนมครก-ขนมเบื้องเลี้ยงครอบครัว ห่วงลูกป่วยติดเตียง ต้องพาติดตัว!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 30 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปรู้จัก “ป้าทองหยด” หญิงสู้ชีวิต ที่ไม่เพียงขายขนมครก-ขนมเบื้องเลี้ยงครอบครัว แต่เวลาขี่มอเตอร์ไซค์พ่วงข้างไปขายขนม ต้องพาลูกชายวัย 40 กว่าที่ป่วยติดเตียงไปด้วย

ป้าทองหยด ขวัญอ่อน แม่ค้าขายขนมครกและขนมเบื้องที่ จ.สุพรรณบุรี ไม่ใช่แค่เสาหลักทำงานหาเลี้ยงครอบครัว หลังสามีเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว แต่ยังมีลูกชายวัย 42 ที่สมองพิการป่วยติดเตียงให้ต้องดูแล



16 ปีแล้วที่ “ต้น” เวทิน ขวัญอ่อน ลูกชายคนโตของป้าทองหยด ต้องอยู่ในสภาพป่วยติดเตียง หลังถูกรุมทำร้ายผิดตัว

“เขาโดนตีที่กรุงเทพฯ แถวสาย 3 แต่ก่อนป้าอยู่สาย 3 คนน้องแข่งรถเขา ทีนี้เขาคงทะเลากับกลุ่มนั้น ทีนี้เจ้านี่เห็นน้องหายไปนาน ก็ขี่รถไปดู กลุ่มนั้นก็คิดว่า คนนี้คือคนน้อง หน้าคล้ายกัน ก็เลยตี สลบไปหลายวันเลย มานอนอยู่ห้องไอซียูร่วม 2 เดือน ถึงได้ออกมา ออกมาก็กินอาหารทางสาย”



“ทีนี้เลือดคั่งในสมอง เขาเลยผ่า ผ่าแล้วก็มาเจาะคอ เขาบอกว่า ถ้าไม่เจาะคอ พอนอนแล้ว หัวเขาจะใหญ่มาก ผ่าออก ถามว่า เขาจะใส่กะโหลกให้ไหม เขาบอกว่าใส่ไม่ได้ เพราะตอนนี้คนยังพูดไม่ได้ ถ้าใส่กะโหลกพลาสติก บางคนแพ้ แพ้แล้วก็ต้องทำใหม่ ก็เลยปล่อยเลย ไม่ต้องทำ ก็ถามเขาว่า แล้วจะพูดได้ไหม เขาบอกว่า บางคน 6 เดือน ก็พูดได้ เจาะคอเนี่ย ก็รอๆๆ ไม่เห็นจะพูดได้”



ป้าทองหยดมีลูกชาย 3 คน และหลานวัย 4 ขวบอีก 1 คน ป้าห่วง “ต้น” ลูกชายคนโตที่สุด เพราะป่วยติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ส่วนลูกอีก 2 คน(ต้อม-ตาล) แม้จะทำงานแล้ว แต่ยังเลี้ยงดูตัวเองไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะต้อมที่เคยประสบอุบัติเหตุ



“ต้อมประสบอุบัติเหตุรถชนเสาไฟฟ้า อุบัติเหตุที่หลังช่อง 3 คนนี้ก็สมองเหมือนกัน เส้นเลือดในสมองอะไรก็ไม่รู้ แต่ก็ยังดี ยังทำงานได้ ถ้าคนอยู่ด้วยกันจะรู้ว่า เขาพูดอะไรเดี๋ยวก็พูดซ้ำ แล้วก็ลืมง่าย ต้องกินยาทุกวัน”



ขณะที่ “สัมฤทธิ์ โพธิ์พันธ์” พี่สาวของป้าทองหยด เล่าถึงปัญหาสุขภาพของต้อมว่า“ไปทำงานก่อสร้าง ก็พอได้ พอเขามาโดนรถ เขาก็ไม่ค่อยจะดี ทำงานไม่ค่อยได้ ตะปูตอกไม่ได้ มือไม่มีแรง ตามัว เป็นคนหิ้วปูนบ้าง ผสมปูนบ้าง”



ทุกวัน ป้าทองหยดจะตื่นตั้งแต่ตีสาม ก่อนเตรียมวัตถุดิบ และขี่มอเตอร์ไซค์พ่วงข้างออกไปขายขนมครกตั้งแต่ตีห้า ช่วงกลางวันจะกลับเข้าบ้าน เพื่อเตรียมวัตถุดิบสำหรับออกไปขายขนมเบื้องช่วงบ่ายสามถึง 5 โมงเย็น เวลาไปขายขนม ป้าทองหยดต้องพา “ต้น” ลูกชายที่ติดเตียงไปด้วย



“ต้องไปด้วย (ถาม-เราทิ้งเขาไว้บ้านไม่ได้หรือ?) ไม่ได้ ถ้าเกิดชักไปไม่มีใครรู้ เขาไม่ได้มีอาการ เวลาจะชัก ชักเลย แต่ก่อนไม่ชัก เพิ่งมาชัก 2-3 ปีนี้ อยู่ๆ ก็เกร็ง อากาศหนาวก็เกร็ง ตาค้างแข็งไปเฉยๆ เราก็ต้องคอยเรียก และเขย่าให้รู้สึกตัว (ถาม-ถ้าไม่มีคนดูแล เขาจะเป็นยังไง?) ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าอยู่คนเดียว แล้วเป็น อาจจะสิ้นไปก็ได้นะ ไม่มีใครกระตุ้นให้เขาได้ยิน”



หากถามว่า ขายขนมรายได้ดีไหม?

“บางทีก็ได้ 100-200 เต็มที่ ขนมครก อย่างดีสุดที่เราทำแป้งไปนะ เต็มที่เลยได้ 300 กำไร 100 กว่าบาท เราต้องไปซื้อของมาทำเอง ก็คือหมดไปวันๆ บางวันก็ไม่พอ ตอนเย็นก็ขายขนมเบื้อง ได้ประมาณ 200 100 กว่าบาท แค่ชั่วโมงเดียว วันหนึ่งได้ 300-400 เหมือนทุนอยู่ในนี้ด้วย ก็เหลือประมาณ 200 ได้ข้าวจากบัตรสวัสดิการรัฐ รายได้จากขายขนมก็ซื้อกับข้าว”



ลำพังรายได้จากการขายขนมครกขนมเบื้องก็ไม่พอใช้จ่ายอยู่แล้ว ลูกชายอีก 2 คนแม้ทำงาน ก็ยังแบ่งเบาภาระไม่ค่อยได้ บ่อยครั้งป้าทองหยดจึงค่อนข้างเครียดกับปัญหาเรื่องเงิน โดยเฉพาะหนี้ที่ยังต้องส่งเรื่องรถที่ลูกชายเคยประสบอุบัติเหตุ



“ป้ายังเครียดเรื่องหนี้อยู่นะ ลูกคนที่รถไปชนเขา แล้วมันส่งไม่หมด แล้วรถก็พัง อันนี้ป้าเหมือนกับค้ำ อันนี้เดือดร้อนหนัก เขาบอกว่า ทางศาลก็ประนอมหนี้ ถ้าไม่ส่งเขา เรามีที่เขาก็จะยึด มีทรัพย์สินเขายึดนะ แล้วนี่ก็ยังไม่มีส่ง ก็เครียดอยู่ทุกวัน เครียดเรื่องนี้ คือเยอะ ถ้าเขายึดที่ไป จะทำยังไง จะไปอยู่ที่ไหนกัน ที่ก็มีอยู่แค่นี้เอง ไม่ได้มีเยอะ แค่ปลูกบ้านแค่นี้เอง เมื่อวานเอาแหวนไปจำนำไว้ เมื่อวานไปเพิ่มอีก 500 ไม่พอให้ค่ารถเขา แหวนที่พ่อเคยทำไว้ให้ ไม่มีก็ต้องดิ้นสุด ไม่มีใครลำบากเท่าป้าแล้ว”



เรื่องเงินก็เครียดแล้ว ป้าทองหยดจึงไม่อยากเครียดเรื่องสุขภาพอีก แม้รู้ตัวเองว่าป่วย แต่เลือกที่จะไม่ไปหาหมอ

“เดี๋ยวนี้เป็นโรคเวียนหัวประจำ แต่ไม่หาหมอ ถ้าหาหมอ เจอแน่นอน เจอแล้วเดี๋ยวก็เครียดเปล่าๆ ที่แน่ๆ คอนี่เหมือนเป็นไทรอยด์นะ ตอนนั้นเป็นหนหนึ่ง น้ำท่วมปอด ไปนอน รพ.มาครึ่งเดือน แม่ไปนอน รพ. เขาก็ไม่กินข้าว เขาต้องเอาไอ้นี่ใส่รถไป ให้แม่ป้อน มันไม่ยอมกินข้าว ไม่ยอมเลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะดูแลลูกได้นานแค่ไหน เพราะอายุเราก็เยอะแล้ว 60 กว่า ยังทำงานไม่ได้หยุดเลยนะ”



“(ถาม-เคยบอกกับต้นไหม ถ้าวันไหนแม่ไม่มีแรง จะทำยังไง?) ก็บอก ถ้าแม่ไม่มีแรง จะทำยังไง เขาก็มอง พูดไม่ได้ ก็มองหน้า เขาก็รู้ มองสายตาดูแล้ว เขาก็รู้นะ บางทีนอนร้องไห้ เขาก็ทำท่าเหมือนร้องไห้ เห็นแม่ร้องไห้ นอนกลางคืน เขาพลิกตัวได้นะ มาเกาะเอวเราไว้”



จะดูแลลูก…จนกว่าจะหมดแรง!!

“(ถาม-คิดว่าจะดูแลเขาได้นานแค่ไหน?) คิดว่าจนกว่าจะหมดแรงของเรา หรือสิ้นชีวิตกันไปข้างหนึ่ง บางทีก็พูดว่า แม่กับต้น ใครจะไปก่อนกัน น่าจะเป็นแม่มากกว่า เพราะเขาเป็นแค่ร่างกาย แต่โรคอะไรเขาไม่ค่อยเป็น บางที ป้าว่าจะไปขายของ ก็กลัวเขาชักไง พี่บางคนก็บอกว่า ก็ปล่อยวางไว้บ้าง เหมือนให้มันหมดเวรหมดกรรม ใครจะไปปล่อยได้ไง เราก็ต้องสู้กันไปตลอดอย่างนี้ เต็มที่ก็ นึกว่าเมื่อไหร่ มันจะได้กลับมาเรียกแม่อีกสักครั้ง คงไม่มีวัน”



หากท่านใดต้องการช่วยเหลือครอบครัวป้าทองหยด สามารถโอนเงินไปได้ที่ธนาคารออมสิน สาขาสองพี่น้องชื่อบัญชี นางทองหยด ขวัญอ่อน เลขบัญชี 020-1-64538-165



คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “รักบริสุทธิ์”

https://www.youtube.com/watch?v=OLqKXtpdVl0



ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 09.00-09.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ( IPM ช่อง 64 / PSI ช่อง 211 )

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/

หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos