“บางกอก มอเตอร์โชว์” ขานรับนโยบายภาครัฐ กระตุ้นผู้บริโภคสนใจรถพลังงานไฟฟ้า ดันยอดจองรถภายในงานทะลุ 33,936 คัน

วันจันทร์ ที่ 04 เมษายน พ.ศ. 2565, 11.26 น.

“บางกอก มอเตอร์โชว์” ขานรับนโยบายภาครัฐ 

กระตุ้นผู้บริโภคสนใจรถพลังงานไฟฟ้า 

ดันยอดจองรถภายในงานทะลุ 33,936 คัน 

งาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43” ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม – 3 เมษายนที่ผ่านมา มียอดจองรถภายในงานรวมทั้งสิ้น 33,936 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 13.6 เปอร์เซ็นต์ จากปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการณ์ของภาครัฐที่ส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า โดยให้ส่วนลดมากถึง 150,000 บาท ประกอบกับรถยนต์และรถยนต์จักรยานยนต์รุ่นใหม่ ที่แนะนำในช่วงงานรวมถึงแคมเปญกระตุ้นยอดขายของค่ายรถขณะที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อมั่นในมาตราฐานด้านความปลอดภัยของการจัดงานทำให้มีตัวเลขผู้เข้าชมงานสูงถึง 1,578,898 คน  

นายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ในฐานะรองประธานจัดงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 43”  เปิดเผยว่า “จากการที่ค่ายรถยนต์เริ่มให้ความสำคัญกับรถในกลุ่มพลังงานไฟฟ้ามากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน ส่งผลให้ภายในงานครั้งนี้มีการนำเสนอรถพลังงานไฟฟ้ามากถึง 20 รุ่น ประกอบกับภาครัฐเริ่มมีนโยบายในการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการส่งเสริมผ่านการมอบส่วนลดกว่า 150,000 บาท ส่งผลให้ยอดจองรถยนต์ภายในงานมากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นยอดจองรถพลังงานไฟฟ้า” 

“สำหรับการออกนโยบายสนับสนุนของภาครัฐในครั้งนี้ ส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย อย่างชัดเจนใน 2 ด้าน  ด้านแรก คือ มีส่วนช่วยกระตุ้นผู้บริโภคให้มีความสนใจและมีความต้องการที่จะเป็นเจ้าของเนื่องราคาจำหน่ายที่ถูกลง เข้าถึงผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่อย่างรถไฟฟ้าได้ง่าย มีความมั่นใจที่อยากจะลองใช้รถประเภทนี้มากขึ้น ส่วนด้านของผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์การมีมาตรการสนับ สนุนจากภาครัฐที่ชัดเจน ส่งผลให้ค่ายรถยนต์มีความมั่นใจและกระตุ้นให้เกิดการลง ทุนในการทำตลาดรถไฟฟ้าในประเทศไทยมากขึ้น”  

ด้วยเหตุนี้ ทั้งการยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงการของภาครัฐจากค่ายรถยนต์ การปรับลดราคาจำหน่ายรถไฟฟ้า รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการผลิตรถไฟฟ้าในประเทศ นับเป็นความชัดเจนที่แสดงผ่านทุกฝ่ายว่าเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้เป็นศูนย์ กลางของรถไฟฟ้าในอาเซียนอีกด้วย  

ทั้งนี้รถรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากประชาชน คือ รถของ ค่ายเอ็มจี และ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่ได้ลงนามกับภาครัฐที่ส่งเสริมแคมเปญ และให้ส่วนลดมากถึง 150,000 บาท โดย ค่ายเอ็มจี มีรถอีวี 2 รุ่น คือ เอ็มจี อีพี และเอ็มจี แซดเอส อีวี และ รถจากเกรท วอลล์ มอเตอร์ แบรนด์ โอร่า กู๊ดแคท ที่ประกาศลดราคาขายปลีกลงไป 160,500-161,000 บาท ซึ่งทั้ง 2 ค่ายมียอดจองภายในงานรวมกันมากกว่า 2,000 คัน  

นอกจากนี้ ยังมีรถไฟฟ้าจากค่ายญี่ปุ่นและยุโรป ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า เมอร์เซเดส-เบนซ์ บีเอ็มดับเบิ้ลยู และวอลโว่ ที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมากเช่นกัน ทำให้ในปีนี้ยอดจองรถยนต์ไฟฟ้าภายในงานเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก  

ถึงแม้ว่า ที่ผ่านมาเราต้องเจอผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ยอดจองลดลงจากช่วงปรกติ แต่ด้วยตัวเลขยอดจองในปีนี้มีการเติบโตขึ้นจากปีก่อน จึงเชื่อว่ากำลังซื้อของคนไทยที่อยากได้รถยนต์คันใหม่ไม่ได้หายไป แต่รอเวลาที่เหมาะสม เมื่อมีแคมเปญและโปรโมชั่นของค่ายรถที่น่าสนใจและช่วยให้ทุกคนเป็นเจ้าของรถคันใหม่ได้ง่ายขึ้น ผู้บริโภคก็สามารถเลือกรถที่เหมาะสมกับความต้องการได้ 

โดยสิ่งที่ตอกย้ำพฤติกรรมของผู้บริโภคว่าให้การตอบรับกับรถ ยนต์รุ่นใหม่ที่เปิดตัวและรับจองภายในงานมอเตอร์โชว์เป็นครั้งแรกได้อย่างชัดเจน คือ  แบรนด์น้องใหม่อย่าง เกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งเข้าร่วมงานบางกอก มอเตอร์โชว์ เป็นปีที่ 2 และเริ่มเปิดรับจองรถยนต์ภายในงานเป็นครั้งแรก ก็สามารถสร้างยอดจองจากรถยนต์รถพลังงานไฟฟ้าทั้ง 3 รุ่น เฉพาะในงานได้มากถึง 1,520 คัน  

สำหรับปริมาณยอดจองรถใหม่ภายในงานมีปริมาณอยู่ที่ 31,896 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 14.4 เปอร์เซ็นต์  ซึ่งบริษัทที่ทำยอดจองสูงสุดภายในงาน ได้แก่    

อันดับ 1            โตโยต้า                         ยอดจองรวม 5,128  คัน  

อันดับ 2            ฮอนด้า                          ยอดจองรวม 3,019  คัน  

อันดับ 3            มาสด้า                          ยอดจองรวม 2,906  คัน  

อันดับ 4            อีซูซุ                              ยอดจองรวม 2,594  คัน  

อันดับ 5            มิตซูบิชิ                         ยอดจองรวม 2,553  คัน  

อันดับ 6            เอ็มจี                             ยอดจองรวม 2,324  คัน  

อันดับ 7            ซูซูกิ                              ยอดจองรวม 2,204  คัน  

อันดัน 8            เมอร์เซเดส-เบนซ์            ยอดจองรวม 2,102  คัน  

อันดับ 9            ฟอร์ด                            ยอดจองรวม 1,797   คัน  

อันดับ 10          นิสสัน                           ยอดจองรวม 1,620  คัน 

สำหรับปริมาณยอดจองรถจักรยานยนต์ภายในงานมีปริมาณอยู่ที่ 2,040 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์  ซึ่งบริษัทที่ทำยอดจองสูงสุดภายในงาน ได้แก่    

อันดับ 1            ยามาฮ่า                         ยอดจองรวม 939 คัน  

อันดับ 2            ฮาเลย์ เดวิดสัน              ยอดจองรวม 305 คัน  

อันดับ 3            คาวาซากิ                       ยอดจองรวม 252 คัน  

อันดับ 4            รอยัล เอนฟิลด์               ยอดจองรวม 193 คัน  

อันดับ 5            ซูซูกิ                              ยอดจองรวม 182 คัน 

สำหรับงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44” จะมีขึ้นระหว่างวันที่  22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 โดยวันที่ 20 มีนาคม เป็นรอบ VIP ส่วนวันสื่อมวลชน กำหนดจะมีขึ้นวันที่ 21  มีนาคม 2566 ณ อิมแพค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี 

หมายเหตุ : ทางบริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ไม่ประสงค์แจ้งยอดจองภายในงาน