นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุม ก.ตร. เผยพอใจตำรวจเรื่อง การปราบปรามการแข่งรถในทาง จากเคยมีผู้ทำผิดเดือนละ 1 พันราย เหลือเดือนละ 400 รายทั่วประเทศ ส่วนตำรวจถูกลงโทษเดือนนี้มี 29 ราย เป็นไล่ออก 21 นาย ปลดออก 6 นาย ให้ออก 2 นาย รวมตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย. มีข้าราชการตำรวจถูกลงโทษทั้งสิ้น 222 นาย เป็นไล่ออก 166 นาย ปลดออก 47 นาย และให้ออกอีก 9 นาย ทั้งนี้ ยังคงเน้นกำชับเรื่องสถานบริการและสถานประกอบการที่ยังคงต้องปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ หากปล่อยปละละเลยจนเป็นแหล่งแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ผู้การที่ดูแลพื้นที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย
นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุม ก.ตร. พอใจเรื่องการปราบปรามการแข่งรถในทาง ส่วนตำรวจถูกลงโทษเดือนนี้มีทั้งสิ้น 29 นาย เป็นไล่ออก 21 นาย ปลดออก 6 นาย ให้ออก 2 นาย เปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 29 พ.ย.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุม ก.ตร. มีวาระสำคัญ เพื่อรับฟังรายงานผลการดำเนินการของคณะอนุ ก.ตร.ด้านต่างๆ ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า อนุ ก.ตร.ด้านวินัย ร้องทุกข์ และบริหารทรัพยากรบุคคล ได้รายงานข้อมูลการกระทำความผิดวินัยร้ายแรงของข้าราชการตำรวจเดือน พ.ย. มีข้าราชการตำรวจโดนลงโทษทั้งสิ้น 29 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการ 21 นาย ปลดออกจากราชการ 6 นาย และให้ออกจากราชการ 2 นาย ทั้งนี้ตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย. มีข้าราชการตำรวจถูกลงโทษทั้งสิ้น 222 นาย เป็นการไล่ออกจากราชการ 166 นาย ปลดออกจากราชการ 47 นาย และให้ออกจากราชการ 9 นาย
พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวต่อว่า ในที่ประชุมนายก รัฐมนตรีได้รับทราบถึงความก้าวหน้าการดำเนินการของศูนย์ปฏิบัติการจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การสร้างมาตรฐานการปฏิบัติงานของข้าราชการตำรวจที่ทำงานด้านการจราจร ให้มีการทำงานที่เป็นขั้นเป็นตอน เป็นมาตรฐานเดียวกันหมด รวมทั้งพัฒนาบุคลากรด้านการสอบวัดความรู้ เพื่อให้คนทำงานด้านการจราจร รู้ลึก รู้จริง สามารถบังคับใช้กฎหมายกับประชาชนที่ทำผิดกฎจราจรได้อย่างถูกต้อง และเรื่องการนำเทคโนโลยีมาใช้พัฒนาฐานข้อมูลเรื่องการจราจร ให้ฐานข้อมูลเชื่อมโยงกันว่าผู้กระทำผิดเคยทำผิดมาแล้วกี่ครั้ง สามารถตรวจสอบได้จากผู้บังคับบัญชา และมีมาตรการร่วมกับกรมการขนส่งทางบก พัฒนาระบบตัดคะแนนความประพฤติ และดำเนินการกับผู้ที่ทำผิดกฎจราจรแล้วไม่ไปชำระค่าปรับ เช่น ไม่ออกหลักฐานการเสียภาษีให้หากไม่มาชำระค่าปรับ สำหรับมาตรการป้องกันปราบปรามการแข่งรถในทาง นายกรัฐมนตรีพอใจผลการปฏิบัติของตำรวจสามารถลดปริมาณการแข่งรถในทางได้อย่างมีนัยสำคัญ ก่อนหน้านี้ตำรวจเคยรับแจ้งผู้กระทำผิด 1 พันรายต่อเดือน แต่ตอนนี้ลดเหลือประมาณ 400 ราย ทั่วประเทศ พร้อมกำชับให้จริงจังบังคับใช้กฎหมายกวดขันวินัยการจราจรของกลุ่มจักรยานยนต์ทั้งบุคคลทั่วไป ไรเดอร์ จักรยานยนต์รับจ้าง มีการดำเนินการอย่างจริงจัง เนื่องจากที่ผ่านมาการบังคับใช้กฎหมายค่อนข้างเบาไปบ้างช่วงโควิด-19
พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวต่ออีกว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงเรื่องการฝ่าฝืนกฎหมายสถานบริการ หรือสถานประกอบการต่างๆที่ยังคงต้องปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ได้กำชับว่า หากพื้นที่ใดปล่อยปละละเลยไม่เอาใจใส่ มีการฝ่าฝืนอย่างโจ๋งครึ่ม เสี่ยงเป็นแหล่งแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ผู้บังคับบัญชาโดยเฉพาะผู้บังคับการ ที่ดูแลพื้นที่ต้องมีส่วนรับผิดชอบ