ดูเลย!! ปัง-ไม่ปัง ‘ของขวัญปีใหม่’ 2565 ที่รัฐบาลมอบให้คนไทยทั้งประเทศ – มติชน

ดูเลย!! ปัง-ไม่ปัง ‘ของขวัญปีใหม่’ 2565 ที่รัฐบาลมอบให้คนไทยทั้งประเทศ

จากกรณีที่ น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ว่า ครม.ได้รับทราบการดำเนินโครงการเพื่อมอบของขวัญปีใหม่ 2565 ให้แก่ประชาชน ของกระทรวง และส่วนราชการหลายหน่วยงาน ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานมอบของขวัญปีใหม่ เพื่อเป็นกำลังใจแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ และแบ่งเบาภาระในช่วงที่ยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นั้น

“มติชนออนไลน์” จึงได้รวบรวมของขวัญปีใหม่ของกระทรวง และส่วนราชการต่างๆ ที่น่าสนใจ มานำเสนอ

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ขยายเวลาการใช้สิทธิโครงการทัวร์เที่ยวไทย จากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 31 มกราคม 2565 เป็นวันที่ 30 เมษายน 2565 และเพิ่มจำนวนห้องพักโครงการเราเที่ยวด้วยกันอีก 2 ล้านห้อง กำหนดการสิ้นสุดโครงการวันที่ 30 เมษายน 2565 รวมถึง การจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2565 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ใน 5 ภูมิภาค ยกเว้นค่าธรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาติการประกอบธุรกิจนำเที่ยวจำนวน 2,000 บาท/ใบอนุญาต ให้กับผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวเป็นระยะเวลา 2 ปี และการต่ออายุใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ จำนวน 200 บาท/ใบอนุญาต ให้กับมัคคุเทศก์เป็นเวลา 2 ปี

กระทรวงการคลัง

กรมธนารักษ์

1. โครงการเที่ยวปีใหม่สุขใจไปกับพิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2565 สำหรับคนไทยทุกคน กรมธนารักษ์เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์ พิพิธบางลำพู พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ จังหวัดเชียงใหม่ พิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ จังหวัดสงขลา และพิพิธภัณฑ์ธนารักษ์ จังหวัดขอนแก่น โดยไม่เก็บค่าเข้าชม ระหว่างวันที่ 4 – 15 มกราคม 2565

2. มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้เช่าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ปี 2565 สำหรับประชาชน

กรมธนารักษ์ได้กำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้เช่าที่ราชพัสดุ ดังนี้

(1) ยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าปี พ.ศ. 2565 (ไม่รวมค่าเช่าช่วง) สำหรับผู้เช่าเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อประกอบการเกษตร โดยผู้เช่าที่ได้รับสิทธิยกเว้นดังกล่าว จะต้องเป็นผู้เช่าชั้นดี ไม่มีภาระค่าเช่าค้างกับกรมธนารักษ์ ทั้งนี้ หากผู้เช่าได้ชำระค่าเช่าปี พ.ศ. 2565 แล้ว ให้ผลักค่าเช่า ปี พ.ศ. 2565 ไปเป็นค่าเช่า ปี พ.ศ. 2566 แทน สำหรับผู้เช่าที่มีภาระค่าเช่าค้างชำระกับกรมธนารักษ์และมีความประสงค์จะเข้าร่วมมาตรการดังกล่าว ต้องดำเนินการชำระค่าเช่าค้างให้ครบถ้วน ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 โดยยกเว้นการเรียกเก็บเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของเงินที่ค้างชำระตามสัญญาที่กำหนดไว้

(2) ยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่า 3 เดือน (ไม่รวมค่าเช่าช่วง) ตั้งแต่เดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2565 สำหรับผู้เช่าอาคารราชพัสดุและเพื่อประโยชน์อย่างอื่น โดยให้ผู้เช่าที่ประสงค์จะเข้าร่วมมาตรการดังกล่าวยื่นคำร้อง

ต่อกองบริหารที่ราชพัสดุกรุงเทพมหานครและสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ 76 พื้นที่ เพื่อพิจารณาอนุมัติสำหรับผู้เช่าที่มีภาระค่าเช่าค้างชำระกับกรมธนารักษ์และมีความประสงค์จะเข้าร่วมมาตรการดังกล่าว ต้องดำเนินการชำระค่าเช่าค้างให้ครบถ้วนภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 โดยยกเว้นการเรียกเก็บเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของเงินที่ค้างชำระตามสัญญาที่กำหนดไว้

(3) สำหรับผู้เช่าประเภทอื่น นอกเหนือจากข้อ (1) และข้อ (2) หากประสงค์จะเข้าร่วมมาตรการขอให้ยื่นหนังสือและชี้แจงเหตุผลความจำเป็น พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง อาทิ รายละเอียดผลประกอบการย้อนหลัง (ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 – พ.ศ. 2564) และอื่น ๆ เพื่อประกอบการพิจารณาของกรมธนารักษ์เป็นรายกรณี ทั้งนี้ ผู้เช่าต้องแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการดังกล่าว ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ

3. การจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นส่งความสุข วงเงิน 30,000 ล้านบาท

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะจัดให้มีการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ รุ่นส่งความสุข วงเงิน 30,000 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 17 – 31 มกราคม 2565 เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ในช่วงต้นปี 2565 โดยจำหน่ายผ่านระบบอินเตอร์เน็ต Mobile Application และเคาน์เตอร์ทุกสาขาของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.)

4. โครงการ “คริปโทศาสตร์ รู้ได้ในคลิกเดียว”

สำนักงาน ก.ล.ต. มีความห่วงใยประชาชนและผู้ลงทุน จึงได้จัดทำศูนย์รวมข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล บนเว็บไซต์ www.smarttoinvest.com โดยเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนและประชาชนทั่วไป ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย

5. โครงการ “การระดมทุนของ SMEs/Startup ผ่อนคลาย ไม่มีค่าธรรมเนียม”

สำนักงาน ก.ล.ต. สนับสนุนการระดมทุนของ SMEs และ Startup โดยไม่ต้องยื่นคำขออนุญาต

ไม่ต้องมีที่ปรึกษาทางการเงิน รวมทั้งยกเว้นค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง

6. โครงการ “การยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อส่งเสริมการออกตราสารเพื่อความยั่งยืนในตลาดทุน”

สำนักงาน ก.ล.ต. สนับสนุน sustainable finance แก่ผู้ออกตราสารหนี้ในกลุ่มความยั่งยืนที่มีภาระและต้นทุนมากกว่าการออกตราสารหนี้ทั่วไป โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขออนุญาตและค่าธรรมเนียมในการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลสำหรับการเสนอขายตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ตราสารหนี้เพื่อพัฒนาสังคม (Social Bond) ตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) และตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability-linked Bond)

7. โครงการ “การสนับสนุนค่าใช้จ่ายการทวนสอบการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์”

สำนักงาน ก.ล.ต. สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการทวนสอบเพื่อสร้างแรงจูงใจและลดภาระให้แก่บริษัทจดทะเบียน และบริษัทที่เสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน (บริษัท IPO) โดยการลดหย่อนค่าธรรมเนียมสำหรับบริษัทที่เปิดเผยข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มีรายชื่อผู้ทวนสอบ/ผู้ให้การรับรองข้อมูลก๊าซเรือนกระจกในแบบ 56-1 One Report และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบ filing) สำหรับค่าทวนสอบตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท

8. โครงการ “การลดค่าธรรมเนียมคำขอความเห็นชอบเป็นผู้สอบบัญชีในตลาดทุนสำหรับผู้สอบบัญชีรายใหม่ที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุน”

สำนักงาน ก.ล.ต. ได้จัดทำโครงการดังกล่าว เพื่อปรับลดค่าธรรมเนียมคำขอความเห็นชอบสำหรับผู้สอบบัญชีที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุน ซึ่งยื่นคำขอความเห็นชอบเป็นครั้งแรก จากเดิมที่

คิดค่าธรรมเนียม 50,000 บาท เหลือ 10,000 บาท เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้สอบบัญชี ทั้งนี้ สำหรับคำขอความเห็นชอบที่ยื่นระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 – 30 มิถุนายน 2565

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.)

9. กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุปีใหม่อุ่นใจ (ไมโครอินชัวรันส์) สำหรับเทศกาลปีใหม่ 2565

สำนักงาน คปภ. ได้จัดทำกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุปีใหม่อุ่นใจ (ไมโครอินชัวรันส์) สำหรับเทศกาลปีใหม่ 2565 โดยมีเงื่อนไขการทำสัญญาประกันภัย ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2564 – 25 กุมภาพันธ์ 2565 ระยะเวลาคุ้มครอง 30 วัน เบี้ยประกันภัย 10 บาท ซึ่งมีข้อตกลงคุ้มครอง ดังนี้

(1) ผลประโยชน์การเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกายและ/หรือ อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท (2) ผลประโยชน์การเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จากการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรือ อุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ จำนวนเงินเอาประกันภัย 50,000 บาท (3) ผลประโยชน์การเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุสาธารณะ จำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท และ (4) ผลประโยชน์ค่าชดเชยรายได้ระหว่างการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน กรณีได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ (สูงสุดไม่เกิน 30 วัน) 200 บาทต่อวัน

10. โครงการ “พ.ร.บ. รุกทั่วไทย”

สำนักงาน คปภ. ปรารถนาที่จะส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถมอเตอร์ไซค์ จำนวน 10,000 ฉบับ เป็นของขวัญปีใหม่ แทนความห่วงใย จากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย สำนักงาน คปภ. ให้กับพี่น้องประชาชนผู้เป็นเจ้าของรถ โดยสามารถเข้าไปลงทะเบียนเพื่อรับประกันภัยกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ตามเงื่อนไขที่กำหนด

ที่ www.พรบรุกทั่วไทย.com

กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

11. กยศ. ได้จัดเตรียมมาตรการของขวัญปีใหม่ปี 2565 ให้กับผู้กู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา โดยจะพิจารณาขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้ จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ดังนี้

(1) ลดเบี้ยปรับ ร้อยละ 100 กรณีผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มชำระหนี้ปิดบัญชี (2) ลดเบี้ยปรับ ร้อยละ 80 กรณีผู้กู้ยืมเงินกลุ่มก่อนฟ้องคดีมาชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ) (3) ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือร้อยละ 0.5 ต่อปี กรณีผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด (4) ลดเงินต้น ร้อยละ 5 กรณีผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้และปิดบัญชีในคราวเดียว และ (5) ลดดอกเบี้ย จากเดิมร้อยละ 1 ต่อปี เป็นร้อยละ 0.01 ต่อปี ให้กับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้

กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)

12. กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (กรณีเสียชีวิต) จำนวน 15,000 กรมธรรม์

กอช. มอบกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (กรณีเสียชีวิต) ให้แก่สมาชิก กอช. โดยได้รับการสนับสนุน จากบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 5,000 กรมธรรม์ และบริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) จำนวน 10,000 กรมธรรม์ รวมทั้งสิ้น 15,000 กรมธรรม์ สำหรับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ดังกล่าว กอช. จะทำการติดต่อสมาชิกผู้ที่ได้รับของขวัญและจะเริ่มคุ้มครองตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 – มีนาคม 2566 โดยมีเงื่อนไขการมอบกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (กรณีเสียชีวิต) ดังกล่าวให้แก่สมาชิก กอช. ดังนี้ (1) สมัครสมาชิกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2564 – 31 มกราคม 2565 และ (2) มีการออมเงินขั้นต่ำ 1,200 บาท ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสมัครสมาชิกได้ที่หน่วยบริการ กอช. ทุกช่องทาง รวมถึงแอปพลิเคชัน

13. กระเป๋า shopping bag กอช. พับได้ ไม่จำกัดจำนวน

กอช. มอบกระเป๋า shopping bag กอช. พับได้ให้แก่สมาชิก กอช. โดยมีเงื่อนไข ดังนี้ (1) สมัครสมาชิกใหม่ ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม 2564 – 31 มกราคม 2565 และ (2) มีการออมเงินขั้นต่ำ 50 บาท สำหรับสมาชิกที่ได้รับกระเป๋าดังกล่าว กอช. จะทำการจัดส่งให้สมาชิกทางไปรษณีย์ภายในเดือนมีนาคม 2565 ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสมัครสมาชิกได้ที่หน่วยบริการ กอช. ทุกช่องทาง รวมถึงแอปพลิเคชัน กอช.

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

14. โครงการ “สลาก 80”

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายที่จะดำเนินการขยายจุดจำหน่ายโครงการ “สลาก 80” ในปี 2565 และได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการไว้ 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ขยายในเชิงลึก

เขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดนนทบุรี เพิ่มเติม จำนวน 34 จุดจำหน่าย (จากบัญชีสำรอง ปี 2564) รวมกับของเดิมเป็น 74 จุดจำหน่าย โดยจะเริ่มจำหน่ายสลากงวดแรกในงวดวันที่ 17 มกราคม 2565 เป็นต้นไป

และระยะที่ 2 ขยายจุดจำหน่ายในเชิงกว้าง โดยเปิดรับสมัครตัวแทนจำหน่ายขยายทั่วประเทศ ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จำนวนไม่เกิน 1,000 จุดจำหน่าย สำหรับผู้ที่ผ่านหลักเกณฑ์แต่ไม่ได้รับการคัดเลือกให้กำหนดเป็นผู้ขึ้นบัญชีสำรองตัวแทนจำหน่ายโครงการ “สลาก 80” โดยมีระยะเวลาในการขึ้นบัญชีสำรอง 1 ปี นับตั้งแต่วันที่มีประกาศของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

ในกรณีที่ตัวแทนจำหน่ายโครงการ “สลาก 80” รายใดสละสิทธิ์ หรือกรณีถูกตรวจพบว่าไม่ปฏิบัติตามสัญญาและเงื่อนไขที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลกำหนด จะเรียกผู้ขึ้นบัญชีสำรองลำดับถัดไป

ของจังหวัดนั้นทดแทน เพื่อให้จำนวนของจุดจำหน่ายโครงการ “สลาก 80” ยังครบถ้วนตามจำนวนที่กำหนดต่อไป ซึ่งจะเปิดรับสมัครในวันที่ 24 ธันวาคม 2564 – 24 มกราคม 2565 โดยประชาชนจะสามารถหาซื้อสลากได้ในราคา 80 บาทจากจุดจำหน่ายสลาก 80 ได้ทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป

กระทรวงคมนาคม

มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนผ่านหลายโครงการ อาทิ 1.ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และหมายเลข 9 ทางพิเศษบูรพาวิถี ทางกาญจนาภิเษก ทางเฉลิมมหานคร ทางทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษอุรรัถยา ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2564 – 3 มกราคม 2565

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถให้บริการฟรีงานสวดมนต์ข้ามปีวันขึ้นปีใหม่ 2565, บริการที่จอดรถฟรี ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานภูเก็ต, ลดค่าผ่านทางทางพิเศษฉลองรัช 10 บาท ให้กับรถทุกประเภท ตลอดปี 2565, ลดค่าโดยสารรถ บขส. ร้อยละ 10 ทุกเส้นทาง สำหรับผู้ที่จองตั๋วผ่าน Application E-Ticket และทาง Website เพื่อใช้เดินทางตั้งแต่ 20 ธันวาคม 2564 – 20 มกราคม 2565, ขยายเวลาเปิดให้บริการข้ามปีสำหรับรถไฟฟ้า MRT สายเฉลิมรัชมงคล (สายสีน้ำเงิน) และสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) และรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง, ขายคูปองทางยกระดับดอนเมือง (ดอนเมืองโทลล์เวย์) ในราคาพิเศษ

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เปิดอ่าวมาหยา อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เพื่อบริการนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 มกราคม 2565 ยกเว้นค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ 133 แห่ง ระหว่าง 31 ธันวาคม 2564 – 1 มกราคม 2565 นอกจากนี้ ยังยกเว้นค่าบริการเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทั่วประเทศในวันสำคัญตลอดปี 2565 หน่วยงานของกระทรวงฯ ยังได้จัดสถานที่เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนบนถนนสายหลัก และสายรองตลอดเทศกาลปีใหม่ ตั้งจุดช่วยเหลืออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว เป็นต้น

กระทรวงพาณิชย์

มีหลายมาตรการ อาทิ โครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน “New Year Grand Sale 2022” โดยร่วมกับเอกชนห้างค้าปลีก ค้าส่ง ห้างท้องถิ่น ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ธนาคาร สมาคมโรงพยาบาล โรงแรม ศูนย์บริการรถยนต์ ปั๊มน้ำมัน และแพลตฟอร์ม ทั่วประเทศ 30,575 แห่ง สินค้า 25,000 รายการ บริการ 500 รายการ และแพลตฟอร์มมากกว่า 11 ล้านรายการ ในการลดราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคสูงสุดร้อยละ 86 ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2564-31 มกราคม 2565 นอกจากนี้ ยังมอบของขวัญปีใหม่ผ่านบริการอื่นๆ เช่น การเพิ่มบริการออนไลน์ การขยายระยะเวลาการให้บริการนอกเวลาทำการ การลดค่าธรรมเนียม และส่วนลดแก่ผู้ประกอบการและประชาชนในรายการอนุญาตต่างๆ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

จัดกิจกรรม เพิ่มสุขปีใหม่ เที่ยวทั่วไทย สุขใจไปกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยได้เปิดสถานที่ท่องเที่ยว และแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรให้ประชาชนเข้าชมฟรี หรือลดค่าบริการในช่วงเทศกาล คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม 56,666 คน เช่น เปิดศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต้อนรับนักท่องเที่ยว เปิดสถานที่ศูนย์วิจัยการเกษตรให้เที่ยวชม 12 แห่ง เป็นต้น และเปิดสถานที่ราชการ ปรับภูมิทัศน์รองรับนักท่องเที่ยวเข้าชมช่วงเทศกาล และแจกพันธุ์ไม้ คาดว่าจะมีประชาชน และเกษตรกร ได้รับประโยชน์ 116,450 คน ตัวอย่างจุดบริการ เช่น ศูนย์วิจัยข้าว 3 แห่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด 39 แห่ง เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม เสริมพลังปีใหม่ จำหน่ายสินค้าราคาพิเศษ สินค้าเกษตรคุณภาพ มีเกษตรกร และประชาชนได้รับประโยชน์ 1,445,969 คน โดยจัดหาสินค้าดีมีคุณภาพเพื่อจำหน่ายให้แก่ประชาชน และเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าเกษตรให้แก่เกษตรกรผ่านช่องทางต่างๆ รวมทั้ง จำหน่ายผ่านตลาดออนไลน์ เช่น www.ตลาดเกษตรกรออนไลน์.com เป็นต้น ระยะเวลาดำเนินการระหว่างเดือนธันวาคม 2564 – มกราคม 2565

กระทรวงศึกษาธิการ

เตรียม 6 โครงการ มอบของขวัญให้ประชาชน ดังนี้ โครงการที่ 1 Chance – พาน้องกลับห้องเรียน ค้นหาและติดตามเด็กตกหล่นและออกกลางคันกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ภายใต้แนวคิดการศึกษาไทยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ห่วงใย ปักหมุด นำนักเรียนไทย กลับสู่ห้องเรียน ค้นหาและติดตามเด็กตกหล่นและออกกลางคันกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ให้ได้รับการศึกษาอย่างมีคุณภาพ และได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ปักหมุด เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาสำหรับคนพิการและผู้ด้อยโอกาส ปักหมุดบ้านคนพิการและผู้ด้อยโอกาส อายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 12,649 คน ได้เข้าสู่ระบบการศึกษา

โครงการที่ 2 ศ.ค.ส. ศึกษาธิการ ส่งความสุขให้น้องปีที่ 3 สำนักงาน กศน.จังหวัดทุกแห่ง/กทม. และ กศน.อำเภอ/เขต ส่งมอบความสุขให้กับน้องๆ เด็กด้อยโอกาส และผู้สูงอายุ ในพื้นที่ห่างไกล ทุรกันดาร และชายแดน 46,400 คน

โครงการที่ 3 อาชีวะสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชนเพื่อผลิตกำลังคนของประเทศ “อาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ” มอบทุนเรียนฟรีต่อเนื่อง 3 ปี มีหอพัก อาหาร 3 มื้อ ให้นักเรียนจบ ม.3 ได้เรียนต่อ 100% ในสถานศึกษา ม.ปลาย และ ปวช.จำนวน 5,000 คน

โครงการที่ 4 ฝึกอบรมอาชีพระยะสั้น Re – Skill, Up Skill และ New – Skill แก่นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครองและประชาชน ภายใต้ศูนย์พัฒนาอาชีพและการเป็นผู้ประกอบการ กระทรวงศึกษาธิการ ประจำจังหวัด แก่นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชน 38,500 คน ไม่น้อยกว่า 77 หลักสูตร ดำเนินการใน 77 ศูนย์ทั่วประเทศ วันที่ 27 ธันวาคม 2564 – 31 มกราคม 2565 กศน.ฝึกอบรมอาชีพ ฟรี 1 สัปดาห์ 1 อำเภอ 1 อาชีพ โดยศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน 928 กลุ่ม ดำเนินการวันที่ 4-10 มกราคม 2565 โดยฝึกอบรมอาชีพระยะสั้น และการเป็นผู้ประกอบการให้กับประชาชน 150,000 คน และสถานศึกษา 1 อาชีพ สร้างรายได้ ต่อยอดสู่วิสาหกิจชุมชน เป้าหมาย 928 กลุ่ม 10,208 คน

โครงการที่ 5 อาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชน เทศกาลปีใหม่ ปี พ.ศ. 2565 ออกบริการประชาชนช่วงเทศกาลปีใหม่ตลอด 24 ชั่วโมง วันที่ 29 ธันวาคม 2564 – 4 มกราคม 2565 โดยให้บริการจุดพักรถ-พักคน บนถนนสายหลักและสายรอง 242 ศูนย์ ทั่วประเทศ กิจกรรม พักรถ ได้แก่ บริการตรวจสภาพรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และกิจกรรมพักคน ได้แก่ บริการสอบถามข้อมูลเส้นทาง/สถานที่ท่องเที่ยว /ที่พัก /ร้านอาหาร และอื่นๆ รวมทั้ง ให้บริการที่นั่งพักผ่อน /บริการน้ำดื่ม กาแฟ ผ้าเย็น เป็นต้น

และโครงการที่ 6 ศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน เพื่อลดรายจ่ายให้แก่ประชาชน ผ่านแอพพลิเคชั่น “ช่างพันธุ์ R อาชีวะซ่อมทั่วไทย” ทีมช่างพันธุ์ R อาชีวะจิตอาสา จาก 100 ศูนย์ Fix it Center ทั่วไทย ออกให้บริการซ่อมถึงบ้านฟรี โดยประชาชนสามารถใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น

กระทรวงวัฒนธรรม

จัดโครงการ “ส่งสุขวิถีใหม่ สืบสานวิถีไทย ปลอดภัยสร้างสรรค์” ประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่ 1.กิจกรรมทางศาสนาเสริมสร้างความเป็นสิริมงคล จัดกิจกรรม “สวดมนต์ข้ามปี เสริมสิริมงคลทั่วไทย ส่งท้ายปีเก่าวิถีใหม่ พุทธศักราช 2564” วันที่ 31 ธันวาคม 2564 – 1 มกราคม 2565 ส่วนกลางจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี และพิธีตักบาตรต้อนรับปีใหม่ ณ วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพฯ และจังหวัดตัวแทนแต่ละภาคโดยภาคเหนือ ณ วัดพระธาตุดอยตุง จ.เชียงราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ วัดโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี และภาคใต้ ณ วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และส่วนภูมิภาคจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีตามความพร้อม และขอความร่วมมือวัดไทย และวัดต่างๆ ทั่วโลก จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี โดยถ่ายทอดสัญญาณภาพกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีจากส่วนกลางเชื่อมโยงกับการจัดกิจกรรมดังกล่าวในส่วนภูมิภาค และต่างประเทศผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์ และช่องทางอื่นๆ

2.กิจกรรมเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ทางศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ โดยจัดงาน “ของขวัญปีใหม่ จากใจกระทรวงวัฒนธรรม” วันที่ 25 ธันวาคม 2564 – 3 มกราคม 2565 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ประกอบด้วย กิจกรรมสักการะพระพุทธรูปวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน “นบพระนำพร บวรสถานพุทธปฏิมามงคล 2565” อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญ 10 องค์ ให้ประชาชนได้กราบสักการะ วันที่ 25 ธันวาคม 2564 – 9 มกราคม 2565 ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ และกิจกรรม“เหมันต์บันเทิง รื่นเริงสังคีต” วันที่ 25- 26 ธันวาคม 2564 เวลา 17.30-19.30 น. ณ สนามสังคีตศาลา เปิดให้เข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ฟรี วันที่ 25 ธันวาคม 2564 – 3 มกราคม 2565 และเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศฟรี วันที่ 31 ธันวาคม 2564 – 3 มกราคม 2565

3.กิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรม ส่งความสุขแบบไทย อาทิ การแสดงศิลปกรรมร่วมสมัยนานาชาติ ครั้งที่ 2 Thailand Biennale,Korat 2021 “เซิ้ง…สิน ถิ่นย่าโม” วันที่ 18 ธันวาคม 2564 – 31 มีนาคม 2565 ณ อ.เมืองนครราชสีมา หอศิลป์พิมานทิพย์ใน อ.ปากช่อง และบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติใน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา นอกจากนี้ จัดโครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมทั่วทิศแผ่นดินไทย การแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุด ลักษมีสีดา ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 – กันยายน 2565 จำนวน 14 ครั้งใน 4 ภูมิภาค

และ 4.กิจกรรมท่องเที่ยววัฒนธรรม ท่องเที่ยววิถีใหม่ เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชน อัตลักษณ์ไทยสู่เส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในงาน “เที่ยวทั่วไทย สไตล์พรีเมี่ยม” ครั้งที่ 27 วันที่ 23-26 ธันวาคม ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ของขวัญปีใหม่ ประกอบด้วย 1.กิจกรรม การสร้างอาชีพใหม่หลังโควิด เช่น พี่สอนน้องคล่องธุรกิจ พิชิตฝัน, ปัญญาภิวัฒน์ สานฝันสู่อาชีพ, “Stronger (Teen) Mom”, การประกอบอาชีพเป็นเชฟ และการประกอบอาชีพช่างต่างๆ, การขายของออนไลน์, สร้างคนพิการนักออกแบบ และสร้างอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้น และ 2.กิจกรรม “Big Smile เพื่อรอยยิ้ม” ได้แก่ “Sharing for bigger smile แบ่งปันเพื่อรอยยิ้มของเด็ก”, Little Big Smile รอยยิ้มในครอบครัวอบอุ่น 3.ระบบรับแจ้งเหตุด่วน เหตุร้าย แจ้งปัญหาสังคมและขอรับบริการ(E – Service) ผ่านช่องทาง เว็บไซต์ศูนย์ช่วยเหลือสังคม,Line OA พม. เป็นต้น

สำนักนายกรัฐมนตรี

มีแผนงานโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ ได้แก่ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มอบบริการพิเศษเพิ่มความสุข และรอยยิ้มให้ประชาชนในการรับแจ้งเหตุ แจ้งเบาะแส เรื่องร้องทุกข์ทั่วไป ผ่านช่องทางสายด่วนของรัฐบาล 1111, www.1111.go.th และ Application PSC 1111 ตลอด 24 ชั่วโมง

กรมประชาสัมพันธ์

มอบบริการข้อมูลออนไลน์เกี่ยวกับมาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 พร้อมทั้งข่าวสารเกี่ยวกับของขวัญปีใหม่ ของส่วนราชการ ทางสถานีโทรทัศน์วิทยุแห่งประเทศไทย และมอบความสุขแก่ประชาชนผ่านรายการพิเศษ เทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกับผู้ประกอบการออนไลน์ ลดค่าครองชีพของประชาชน โดยจะมอบคูปองส่วนลดในการซื้อสินค้าออนไลน์ของผู้ประกอบการรายใหญ่ให้แก่ประชาชนในวันที่ 1-31 มกราคม 2565