ญาติผงะ ! ร้องทนายตั้ม รพ.ผ่าตัดพ่อ คืนชิ้นส่วนกะโหลกให้แช่ตู้เย็นเก็บไว้เอง

ญาติติดใจพ่อตาย ร้องทนายตั้ม รพ.ผ่าตัด คืนชิ้นส่วนกะโหลกให้แช่ตู้เย็นเก็บไว้เองแล้วต่อมาเอาไปคืน พ่อเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่สำนักงานษิทรา ลอว์เฟิร์ม ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ นายอภิชิต บุญเต่าน้อย และ น.ส.ภัทร์สุดา ธรรมวาจารย์ สามีภรรยา เดินทางเข้าพบ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เพื่อขอคำปรึกษา กรณีที่ นายอดุลย์ ธรรมวาจารย์ อายุ 52 ปี บิดาของ น.ส.ภัทร์สุดา ประสบอุบัติเหตุขี่รถจักรยานยนต์ชนท้ายรถกระบะ แล้วเข้ารับการรักษาโดยการผ่าตัดที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ใน จ.สมุทรปราการ ซึ่งหลังผ่าตัดแล้วเสร็จ พยาบาลได้นำชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะบรรจุในถุงพลาสติกรัดยางมาให้ญาตินำกลับไปเก็บรักษาเองที่บ้าน โดยไม่มีบรรจุภัณฑ์เก็บรักษาตามมาตรฐานให้มาด้วย สร้างความคาใจกับทางญาติว่า เหตุใดโรงพยาบาลจึงไม่เก็บรักษาอวัยวะของผู้ป่วยไว้ให้

น.ส.ภัทร์สุดา เปิดเผยว่า บิดาของตนประสบอุบัติเหตุจากการขี่จักรยานยนต์ไปทำงานแล้วถูกรถยนต์ชนท้ายบาดเจ็บ หมดสติกลางท้องถนน เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จากนั้นถูกส่งตัวเข้ารับการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ซึ่งแพทย์โรงพยาบาลดังกล่าวได้ทำการผ่าตัดบิดาหลังเกิดเหตุทันที เนื่องจากศีรษะได้รับความกระทบกระเทือน มีเลือดออกในกะโหลกศีรษะ หลังผ่าตัดแพทย์ได้แจ้งว่าอาการของบิดาพ้นขีดอันตรายแล้ว จากนั้นพยาบาลก็ได้นำชิ้นส่วนกะโหลกของบิดามาให้ โดยบอกแค่เพียงว่าเผื่อไว้ใช้งาน ตนจึงนำไปเก็บไว้ในช่องแช่แข็งในตู้เย็นที่บ้านรวมกับของสดอื่นๆ อยู่ถึง 2 วัน ทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ จึงไปสอบถามกับทางโรงพยาบาลเพื่อสอบถามว่าเหตุใดญาติต้องนำชิ้นส่วนอวัยวะของญาติไปเก็บไว้เอง และได้มีการโต้เถียงกับแพทย์ที่ดูแลอาการของบิดาในห้องไอซียู ก่อนที่แพทย์จะบอกว่าให้นำชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะกลับมาคืนเพื่อเก็บที่โรงพยาบาล

น.ส.ภัทร์สุดา กล่าวอีกว่า ต่อมาเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จึงได้นำกะโหลกศีรษะของบิดามาคืน แต่บิดากลับเสียชีวิตวันที่ 24 กุมภาพันธ์ บรรดาญาติจึงไม่พอใจว่าการที่ไปโต้เถียงกับแพทย์ผู้รักษาเป็นเหตุให้แพทย์ไม่ดูแลจนทำให้บิดาต้องเสียชีวิตหรือไม่ จึงมาปรึกษาทางกฎหมายกับนายษิทรา ว่ากรณีดังกล่าวเป็นวิธีการโดยทั่วไปของโรงพยาบาลเกี่ยวกับการเก็บรักษาชิ้นส่วนอวัยวะของผู้ป่วยหรือไม่ เพราะการเก็บชิ้นส่วนอวัยวะต้องอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม รวมทั้งบรรจุภัณฑ์และตู้แช่เย็นที่ปลอดเชื้อ ซึ่งทางโรงพยาบาลที่ทำการรักษาก็ไม่ได้บอกรายละเอียดวิธีการใดๆ เลย ทางญาติจึงอยากให้โรงพยาบาลชี้แจงว่า การให้ญาตินำชิ้นส่วนอวัยวะของผู้ป่วยไปเก็บเองนั้น มีนโยบายเช่นนี้จริงหรือไม่ เพราะคาใจว่าเหตุใดทางโรงพยาบาลจึงไม่เก็บรักษาไว้เองทั้งที่มีอุปกรณ์ที่พร้อมกว่า แต่ยังไม่มีความประสงค์ที่จะเอาผิดหรือฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับทางโรงพยาบาลแต่อย่างใด

ขณะที่ นายษิทรา กล่าวว่า จากการสอบถามแพทย์ จากโรงพยาบาลอื่น ทราบว่าการเก็บชิ้นส่วนอวัยวะของผู้ป่วยนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละโรงพยาบาล แต่ส่วนใหญ่ทางโรงพยาบาลจะเก็บไว้เอง เพราะรู้วิธีการและมีอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานกว่าให้ญาตินำไปเก็บไว้เองที่บ้าน

QR Code LINE @Matichon

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก

Line @Matichon ได้ที่นี่

LINE @Matichon