จัดให้หนัก “เอ๋ มิรา” ฟ้อง “ครูไพบูลย์” แบ่งสินสมรส 20 ล้าน แจ้งความกระทำชำเราเด็กอายุ 14 – ผู้จัดการออนไลน์



“นายห้างประจักษ์ชัย” โดดช่วย “เอ๋ มิรา” ฟ้อง “ครูไพบูลย์” แบ่งสินสมรส 20 ล้าน เก็บความแค้นใจมา 3 ปี ประกาศฟ้องอดีตสามีกระทำชำเราเด็กอายุ 14 ปี ยันฟ้องได้ เหตุในขณะที่กระทำชำเรา เอ๋เป็นเมียที่ถูกต้องตามกฏหมาย มีสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเองเพราะสามีนอกใจไปมีอะไรกับเด็กอายุไม่ถึง 15 ปี ถึงแม่หรือเด็กจะยินยอมก็ตาม ลั่นคดีนี้โทษหนัก ถอนฟ้องไม่ได้

ซัดกันนัว หลัง “ครูไพบูลย์ แสงเดือน” ลุกขึ้นมายื่นฟ้องอดีตภรรยา “เอ๋ มิรา ชลวิรัลวานิศร์” ข้อหาหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 1 ล้าน กรณีเอ๋ไปออกรายการหนึ่งแล้วมีการพูดถึงอดีตสามีให้เสียหายเสื่อมเสีย ก่อนที่ล่าสุดเอ๋แหกกลับ ด้วยการฟ้องกลับครูไพบูลย์ ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งก็คือภรรยาคนปัจจุบันอย่างนักร้องสาว “กระต่าย พรรณนิภา” ต่างฝ่ายต่างฟาดกันเละ ดูแล้วคงไม่จบง่ายๆ

งานนี้อีรุงตุงนังเนื่องจากมีหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยทางด้านของ เอ๋ มิรา นั้น ได้รับการช่วยเหลือจาก “นายห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ” ที่ยื่นมือเข้ามาช่วยดูแลเรื่องคดีและหาทนายให้ จนโดนฝ่ายครูไพบูลย์โพสต์แซะว่า ที่เรื่องบานปลายเพราะมีบุคคลที่ 3 คอยปั่นกระแส ทำเอาลุกเป็นไฟสาดโคลนกันไปมา ซึ่งกับประเด็นดังกล่าว ทีมข่าวบันเทิงผู้จัดการออนไลน์ได้ต่อสายตรงสัมภาษณ์นายห้างประจักษ์ชัย เจ้าตัวก็เผยว่าไม่ใช่คนปั่น แต่ช่วยเอ๋เพราะเป็นเรื่องมนุษยธรรม งานนี้เอ๋จัดหนัก งัดหลักฐานฟ้องครูไพบูลย์แบ่งสินสมรส 20 ล้าน เอาซี้!

“ก็ตามที่เป็นข่าวครับ ผมเตรียมทนายให้เอ๋ ซึ่งได้แล้วครับ ชื่อทนายเก่ง(นฤบดินทรา ศรีศิวารา) เป็นคนขอนแก่น จริงๆ มีทนายดังๆ จะช่วยเยอะมากครับ แต่เรามีทนายในใจมาตั้งแต่แรกแล้วครับ ทนายคนนี้เก่งครับ จบเนติบัณฑิต มีประสบการณ์ ว่าความมาก็เก่ง อยู่ขอนแก่นด้วยสะดวกกว่าครับ”

“ขั้นตอนตอนนี้ วันที่ 29 ก.ย. จะไปกล่าวโทษที่สถานีตำรวจก่อนครับ ในคดีพรากเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นการกระทำชำเราเด็ก แม้ว่าเด็กจะยินยอมหรือมารดายินยอมก็แล้วแต่ ถือว่าเป็นการกระทำชำเราต่อเด็กที่อายุไม่เกิน 15 ปี ตอนนี้กำลังดูว่าจะไปสถานีตำรวจที่ขอนแก่นหรือจังหวัดเลย เพราะเป็นคดีอาญาที่สามารถฟ้องที่ไหนก็ได้ แต่น่าจะเป็นที่ขอนแก่น เดี๋ยวให้เอ๋มาที่ขอนแก่นครับ”

ยันฟ้องได้ ตนก็เรียนกฏหมายมา พร้อมแจงข้อกฏหมายละเอียดยิบ

“ฟ้องได้ครับ ผมก็เรียนกฏหมายมา มันไม่ใช่เรื่องพรากผู้เยาว์นะครับ ถ้าพรากผู้เยาว์คืออายุ 15 ปี หรืออายุ 16 ปี หรือ 17 ปี แต่กฏหมายนี้คือ ใครกระทำอนาจารหรือกระทำชำเราต่อเด็กที่อายุไม่ถึง 15 ปี ไม่ได้เป็นการพรากผู้เยาว์ครับ แต่เป็นการกระทำชำเราเด็กอายุไม่ถึง 15 ปี ในระหว่างนั้นคือ 14 ปีใช่มั้ยครับ ก็เป็นกฏหมายที่ผิดต่อแผ่นดิน ยอมความไม่ได้ครับ เป็นคดีอาญา ไม่ใช่คดียอมความเหมือนคดีหมิ่นประมาทนะครับ”

“เอ๋ มิรา เป็นคนฟ้อง เอ๋ มิรา เป็นเมียหลวงนะครับ เอ๋เป็นเมียที่ชอบโดยกฏหมายในขณะที่กระทำชำเรา เอ๋มีสิทธิ์ที่จะปกป้องว่าผัวตัวเองนอกใจไปมีอะไรกับเด็กคนนึง ถึงแม่จะยินยอม หรือเด็กจะยินยอม กฏหมายก็เอาผิดกับผู้กระทำความผิด ที่กระทำกับเด็กที่ไม่มีวุฒิภาวะในการตัดสินใจตอนนั้น ถ้าเลยอายุ 15 ปี ถึงอายุ 18 ปีที่เป็นผู้เยาว์ ถ้าแม่ยินยอมไม่เป็นอะไรครับ อันนี้แยกเป็น 2 เคสนะครับ”

“อันนี้ผมอ่านตามตัวบทเลยนะครับ 277 บอกว่า ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุก 5 ปี ถึง 20 ปี หรือปรับตั้งแต่ 1 แสน ถึง 4 แสนบาท หญิงอื่นที่มิใช่ภรรยาตนในขณะที่กระทำตอนนั้น เด็กคนนั้นยังไม่ได้เป็นภรรยาของคนกระทำผิดนะครับ คนกระทำผิดเพิ่งมาจดทะเบียนทีหลัง หลังจาก เอ๋ มิรา เซ็นหย่านะครับ จะมาบอกว่าวันนี้มันชอบธรรมแล้ว เป็นภรรยาแล้ว มันคนละเรื่องนะครับ เพราะเหตุเกิดตอนที่กระทำชำเราเด็กตอนอายุ 14 ปี มันไม่ได้เกี่ยวกับพรากผู้เยาว์ครับ”

คดีนี้ถอนฟ้องไม่ได้ แถมโทษหนัก

“ทนายบอกว่าต้องใช้ว่าเป็นความผิดที่กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี แล้วถอนฟ้งไม่ได้ด้วยครับ แล้วคดีนี้เป็นคดีที่โทษหนัก ไม่มีการระวางโทษนะครับ ถ้าตัดสินว่าเป็นความผิดคือจำคุกเลยนะครับ และอีกประเด็นนึง ถ้าพ่อแม่เขาไม่เอาผิด เขายินยอม แล้วเขาไม่ได้เป็นผู้เสียหายแล้วฟ้องเอง ทำไมเอ๋ต้องมาฟ้อง เอ๋โดนกระทำ เอ๋เป็นผู้เสียหายผัวไป พูดง่ายๆ เอ๋เสียหายสามีไป เอ๋เป็นเมียหลวงที่ชอบด้วยกฏหมายในขณะนั้น ก็ต้องมีสิทธิ์ในการฟ้องปกป้องตัวเอง หรือเรียกร้องผัวตัวเองกลับมา ถ้าจะเอาคืนนะ ถ้าจะให้กฏหมายสั่งให้คืน แต่มันไม่เอาคืนหรอก มันผ่านไปแล้ว มันคงไม่ได้คืน แก้วมันร้าวไปแล้ว”

“แต่สิทธิ์ในการฟ้องร้องคดีเหล่านี้ ต่อให้ไม่ใช่เอ๋ แต่เป็นนาย ก. นาย ข. ที่อยู่ในเหตุการณ์ หรือเป็นพลเมืองดีคนนึงเห็นการกระทำชำเราต่อเด็กคนนั้น หรือรู้หรือเห็น หรือได้รับฟังมาแล้วมีพยานหลักฐานชัดเจน มีคลิปมาให้ เขาอาจจะฟ้องเองก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเอ๋ก็ได้ อาจจะเป็นคนอื่นก็ได้เพราะมันเป็นอาญาแผ่นดิน”

“กฏหมายเขาคุ้มครองเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ม.1 ม.2 ถึงจะยินยอม เด็กอยากจะไปอะไรกับผู้ชายสักคนนึง หรือถึงแม่เขาจะยินยอมเพราะเห็นว่าเขาเป็นคนดี เป็นลูกกำนัน หรือเป็นลูกเสี่ยโรงสี แล้วแม่ยินยอม มายุ่งเกี่ยวกับลูกแม่ กฏหมายก็ไม่ให้อยู่ดีครับ แล้วในรายการก็ไปยอมรับว่ามีอะไรกันกับเด็กในอายุ 14 ปีด้วย มันก็ผูกมัดโดยหลักฐานในการตอบคำถามพิธีกรในวันนั้นอยู่แล้ว”

“เอ๋ มิรา” ยอมทนเจ็บมา 3 ปี แต่กลับโดนอดีตสามีฟ้อง ตอนนี้ถึงกับเครียด

“เอ๋เขาก็เครียดเป็นธรรมดาครับ เพราะการขึ้นโรงขึ้นศาลมันก็เครียดเป็นธรรมดา คนที่ถูกฟ้องกลับไปก็ต้องเครียดเป็นธรรมดา เอ๋เป็นคดีที่ยอมความได้ หรือถ้าเอ๋เพลี่ยงพล้ำในการที่ไปออกรายการ วันนั้นเขาถามมาแล้วตอบไปนะครับ เขาพูดความเป็นจริง เขาพูดที่พิธีกรในรายการถามว่า คุณได้รับความเสียหายยังไงในการที่ผัวนอกใจและใส่ร้าย เขาก็ต้องพูดว่าแฟนฉันนอกใจไปคบหญิงอื่น ฉะนั้นมันเป็นการกล่าวชี้แจงครับ ไม่ได้ไปพาดพิงให้เสียหายเสื่อมเสียชื่อเสียงอะไรเลยครับ เพราะว่ามันมีประเด็น มีผู้กระทำความผิดอยู่ตรงนั้น 3 คน เขาก็ต้องตอบไปตามนั้น”

“แต่ทำไมล่วงเลยมา ทำไมเอ๋ไม่ฟ้องตั้งแต่วันนั้น เอ๋เขาคิดว่าเป็นพ่อของลูกไงครับ ไม่อยากให้เป็นตราบาปให้กับลูกเวลามาดู YouTube ย้อนหลัง เอ๋มีมโนสำนึกมากกว่าเลยไม่ฟ้องเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เอ๋ยอมเจ็บ แล้วก็เดินออกมาอย่างเงียบๆ มีที่ไหนผัวตัวเองไปมีเด็กอื่น แล้ว 3 ปีผ่านไปมารวมหัวกันฟ้องเมียซึ่งเป็นแม่ของลูก และเป็นอดีตเมียหลวงด้วย”

“ผมเป็นคนนอกผมไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวเลยครับ เรื่องคดีครอบครัวไม่ใช่เรื่องที่เราจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวนะครับ มันไม่ถูกต้องอยู่แล้ว พูดง่ายๆ ก็ไม่ชอบครับ แต่ผมสงสาร เด็กพูดเสียงเบาๆ จะไปสู้รบตบมือกับคนที่มีอำนาจเงินมากกว่าได้ยังไงครับ ผมก็เลยต้องกระโดดเข้ามาช่วย ผมก็จะซวยไปด้วยแต่ไม่เป็นไรหรอก ผมยินดีอยู่ข้างความถูกต้องอีกสักครั้งนึงครับ บางทีผมก็เจ็บตัวด้วยนะ จะซวยไปด้วย”

“เอ๋ มิรา โดนฟ้องก่อนนะครับ เอ๋ชั่งใจมาตั้ง 3 ปี และไม่ฟ้องมาตั้ง 3 ปี แต่อยู่เมื่อ 2 วันที่แล้ว เอ๋โดนฟ้อง หมายศาลจังหวัดเลยส่งไปที่บ้านของคุณตา คุณยาย และคุณแม่ของเอ๋ คุณตาและคุณยายต้องขี่มอเตอร์ไซด์ข้ามทุ่งมา ข้ามป่าอ้อยเพื่อเอาหมายศาลมาส่งให้หลาน ถามว่ามันเจ็บปวดมั้ย คนที่เคยอยู่ด้วยกันมาฟ้อง กับผู้หญิงคนใหม่ที่เคยดูแล ชุบเลี้ยง ส่งเสริมให้มีวันนี้ด้วย และเป็นคนที่แย่งผัวตัวเองไป แล้วเป็นการร่วมกันฟ้องนะครับ”

“ถ้าผมได้ยินมาแบบนี้แล้วผมไม่ทำอะไร ผมจะบาปมั้ย ผมจะปล่อยให้เขาไปแพ้ในศาล ต้องเสียเงิน 1 ล้าน แล้วเขาจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย (เรามองเห็นตรงนี้ก็เลยเข้ามาช่วย?) ใช่ ผมจะสะเออะเข้ามาทำไม ในเมื่อผมก็อยู่ดีๆ ของผมแล้วเนี่ย ค่ายผมก็โด่งดัง ผมจะเอาชื่อเสียงมาแค่นี้เหรอครับ ผมดังมาก่อนแล้วกับ ลำไย ไหทองคำ ผมออกทุกช่องแหละรายการ ผมดังกว่าด้วย”

ทนายช่วยฟรีๆ ไม่คิดค่าใช้จ่าย

“ไม่เครียดครับเพราะว่าพวกเราเป็นคนดูแลให้ครับ ผมคุยกับทนายให้ซึ่งทนายเป็นคนมีเมตตาก็ไม่เอาค่าใช้จ่ายอะไรตรงนี้ในการวางศาล ค่าใช้จ่ายผมไม่ได้ออกให้(เอ๋ มิรา)ครับ แต่ทนายเป็นคนที่มีน้ำใจ ทนายที่มาช่วยก็ไม่ใช่ก๊องแก๊งด้วยครับ ทนายรวยด้วยครับ ขับรถเบนซ์คันละ 5 ล้าน มีโรงงานมีเงินเป็นร้อยล้าน รอไปขึ้นศาลและไปไต่สวนวันที่ 18 พฤศจิกายน”

“เอ๋ มิรา” แหกกลับ ประกาศฟ้องแบ่งสินสมรส 20 ล้าน

“เราฟ้องสวนกลับไป เราไม่ได้แค่ฟ้องกระทำชำเรา แต่เอ๋ฟ้องแบ่งสินสมรส 20 ล้านด้วยครับ เอ๋ฟ้องในส่วนที่คู่สมรสหามาได้ด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะหย่ากันแล้ว แต่ก็เป็นการออกดอกผล เป็นกำไรที่เป็นสินสมรสที่มีดอกผล แต่ที่สำคัญคือเงินที่เอามาสร้างค่ายเพลง เป็นเงินส่วนหนึ่งของเอ๋ที่ไปกู้มา แล้วก็ไปยืมแม่มา เงินที่เอาไปซื้อเพลง ไปลงทุนทำเอ็มวี ก็เป็นเงินที่ร่วมกันหามาได้ ก็เลยต้องใช้สิทธิ์ตรงนั้นไป ซึ่งคดีนี้เราจะฟ้องที่ศาลวันที่ 29 ก.ย. ครับ (คดีฟ้องแบ่งสินสมรสมีโอกาสจะได้เงินจากคู่กรณีมั้ย?) มีครับ เพราะเป็นเงินของเอ๋ส่วนหนึ่งครับ”

“แล้ววันที่หย่ากับเอ๋ เอ๋ขอไป 3 แสน แต่ให้เอ๋มาแค่ 1 แสน แล้วก็ใช้วิธีการอะไรก็แล้วแต่เพื่อให้เอ๋ยกลูกให้ด้วย ตอนนี้ดีไม่ดีอาจต้องมีคดีคุ้มครองชั่วคราวด้วยเพื่อไม่ให้เอาลูกกลับไป ในบันทึกท้ายใบหย่า”

สวนกลับ “ครูไพบูลย์” หลังอีกฝ่ายโพสต์แซะ ขอให้บุคคลที่ 3 หยุดปั่นกระแสจนทำให้เรื่องราวบานปลาย

“ผมไม่ใช่บุคคลที่ 1 2 3 ผมเคยพูดแต่แรกแล้ว เคยยกมือไหว้ด้วยว่า ถ้าเป็นไปได้ครูก็อย่าถึงขึ้นโรงขึ้นศาลเลยครับ ถ้าพอที่คุยกันได้อย่างน้อยก็เป็นแม่ของลูก มันจะเป็นตราบาป ผมยังเคยบอกเลยครับ ผมเป็นพี่ด้วยครับ ผมรุ่นใหญ่กว่าเยอะ ผมมีคนนับหน้าถือตาก็พอสมควร แต่เขาไปฟ้องแล้ว จะไม่ให้พวกผมฟ้องกลับเหรอ จะมาหาว่าผมยุแยง ผมบอกแล้วว่าอย่าฟ้องๆ ต่างคนต่างอยู่ดีแล้ว พอเขาฟ้อง พวกผมก็ต้องสวนกลับ (ที่นายห้างฯมาช่วยเอ๋เพราะมองเป็นเรื่องของมนุษยธรรม?) ใช่ครับ”