คืบหน้าค้นหาหนุ่มหนีช้างป่าต่อเนื่อง ยังไม่พบตัว เชื่อว่าเข้าเมืองลับแล – มติชน

คืบหน้าค้นหาหนุ่มหนีช้างป่าต่อเนื่อง ยังไม่พบตัว เชื่อว่าเข้าเมืองลับแล

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานจากกรณีญาติได้ออกค้นหาตัว นายทองสา วันทุมมา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 22 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่หายตัวระหว่างทางป่ายางพารากับสวนป่ายูคาลิปตัส เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ญาติติดตามแต่ไม่พบและได้แจ้งความคนหาย ทางผู้นำท้องถิ่น เพื่อนบ้าน ติดตามหาตลอดแต่ยังไม่พบตัว

ต่อมา เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2564 ญาติทราบจากตำรวจว่าพบรถจักรยานยนต์ของผู้สูญหายอยู่กลางป่ายางพาราตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2565 ได้ค้นหานายทองสาอีกครั้ง ทางญาติได้ให้หมอดู โดยหมอดูบอกว่ายังมีชีวิตอยู่ บริเวณดังกล่าวเป็นเมืองลับแล ญาติได้บนบานศาลกล่าวไม่ถูกต้องจึงยังไม่ปล่อยตัวนายทองสาออกมา

จุดที่นายทองสาหายตัวไปอยู่กึ่งกลางที่ทำงานและหมู่บ้านที่นายทองสามารับจ้างตัดไม้ยูคาลิปตัสกับญาติๆ ที่บ้านหินแร่ ต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา โดยใช้เส้นทางลัดผ่านไปป่ายาง หรือป่ายูคาลิปตัสของเอกชน ซึ่งมีเนื้อที่มากกว่า 1 หมื่นไร่ ทางผ่านดังกล่าวจะเป็นซอยเหมือนตาหมากฮอส หากใครไม่เคยผ่านก็จะวนอยู่ในนั้น หาทางออกไม่เจอ นายทองสาขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านหินแร่มาราว 10 กม. และมาส่งอาหารอยู่กลางป่ายางดังกล่าว ระยะทางจากจุดที่นายทองสาหายตัวไปห่างจากบ้านนายทองสา 8 กม.

หลายคนคิดตรงกันว่านายทองสาพบช้างระหว่างทาง ด้วยความตกใจกลัวเห็นฝูงช้างฝูงใหญ่จึงจอดรถมอเตอร์ไซค์ทิ้งไว้และวิ่งหนีไปซ่อนตัวในป่าใกล้กัน ฝูงช้างวิ่งไล่ต้อนจนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

หลังจากที่ค้นหานายทองสาในรัศมี 6 กม. รอบบริเวณไม่พบตัว จึงพากันมาค้นหาที่เถียงนาของนางทองสา ซึ่งคิดว่าหากนายทองสาวิ่งหนีช้างอาจจะวิ่งมาที่เถียงนาของตนเอง ซึ่งห่างจากหมู่บ้าน 2 กม. แต่ก็ไม่พบตัวมีเพียงร่องรอยของช้างหลายตัวเดินเหยียบย่ำและทำลายกระท่อมของนายทองสาพังเสียหาย รถจักรยานยนต์ของนายทองสาตำรวจได้นำไปไว้ที่ สภ.วังคู อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา

นางอำนวย เหลาเพียร หลานสาวนายทองสา กล่าวว่า หลังจากแจ้งตำรวจว่านายทองสาหายตัวไปญาติได้ช่วยกันออกตามหานานกว่า 10 วันแล้วแต่ก็ยังไม่พบตัว ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยนำสุนัขสงครามมาช่วยค้นหา หากว่าผู้สูญหายเสียชีวิตอยู่ ณ บริเวณในป่าก็จะรู้ว่าอยู่ที่ใด ไม่รู้จะมีหน่วยงานไหนสนับสนุน หรือให้คำแนะนำกับการร้องขอสุนัขสงครามมาช่วยค้นหาคนสูญหายในครั้งนี้ อาจจะปรึกษาหารือกันค้นหาต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง และค่อยคิดว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ขณะเดินค้นหาผู้สูญหายเห็นฝูงช้างป่าฝูงใหญ่เดินอยู่ในป่ายูคาลิปตัสอีกด้วย

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก

Line @Matichon ได้ที่นี่