รถ 6 ล้อการไฟฟ้า ทับตายชายพิการ (คลิป)


This image is not belong to us

อ้างว่า3ล้อโยก โดนรถอื่นบัง! จึงมองไม่เห็น

รถส้ม 6 ล้อการไฟฟ้านครหลวงทับชายวัย 65 พิการขี่จักรยาน 3 ล้อโยกเละคาล้อบริเวณห้าแยก ณ ระนอง เผยผู้ตายกำลังโยกจักรยานข้ามทางม้าลายในช่วงสัญญาณไฟแดง แต่พอกำลังข้ามสัญญาณเปลี่ยนเป็นไฟเขียว เป็นจังหวะรถการไฟฟ้าออกตัวพอดี ตำรวจคาดคนขับมองไม่เห็นเนื่องจากรถมีความสูง และยังมีรถเก๋งบังอยู่เลนซ้ายเลยทับร่างจนเสียชีวิต

อุบัติเหตุรถการไฟฟ้านครหลวงทับจักรยาน 3 ล้อโยกคนพิการเสียชีวิตคาล้อครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 15 ธ.ค. ร.ต.อ.ธนเดช จันทร์มาลา รอง สว. (สอบสวน) สน.ท่าเรือ รับแจ้งมี คนพิการถูกรถชนเสียชีวิตบริเวณห้าแยก ณ ระนอง ถนนสุนทรโกษา แขวงและเขตคลองเตย กทม. ไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนสุนทรโกษาขาเข้า มี 3 เลน เลนกลางพบรถบรรทุก 6 ล้อของการไฟฟ้านครหลวง ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นฟูโซ่ สีส้ม ทะเบียน 50-1103 กรุงเทพมหานคร มีนายวิโรจน์ พลอยพลายแก้ว อายุ 50 ปี คนขับยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บริเวณใต้ท้องรถพบศพนายสุพจน์ แดงอาสา อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5/118 ซอยดำรงลัทธพิพัฒน์ 5 แขวงและเขตคลองเตย กทม. สภาพสวมเสื้อยืดสีเขียว กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน นอนติดอยู่กับรถโยกคนพิการสามล้อสีเหลืองถูกทับจนบี้แบน มีไม้เท้าคนพิการ และข้าวของเครื่องใช้หล่นเกลื่อนกลาดอยู่บนถนน

สอบสวนนายวิโรจน์ให้การว่า ขณะจอดติดไฟแดงอยู่ที่บริเวณแยกดังกล่าว หลังกลับจากรื้อสายไฟที่ถนนพระราม 2 จะเข้าสำนักงานที่คลองเตย เมื่อจังหวะสัญญาณไฟเขียวได้ขับรถออกตามสัญญาณไฟ ได้ยินเสียงดังเหมือนทับกับวัตถุอะไรบางอย่าง เมื่อหันไปมองที่กระจก พบล้อหลังทับรถจักรยานคัน ดังกล่าว ได้ถอยรถออกและลงไปดูพบว่ามีผู้เสียชีวิตติดอยู่ใต้ท้องรถ ก่อนยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ด้าน ร.ต.อ.ธนเดชเจ้าของคดีเปิดเผยว่า สอบ สวนพยานเบื้องต้น ผู้ตายพักอยู่ละแวกดังกล่าวไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร เป็นผู้พิการเดินไม่ได้ เนื่องจากถูกรถชนเมื่อ 6 เดือนก่อน ขณะเกิดเหตุผู้ตายโยกจักรยาน 3 ล้อรอข้ามถนน ตรงทางม้าลาย ขณะนั้นเป็นสัญญาณไฟแดง แต่พอข้ามสัญญาณเปลี่ยนเป็นไฟเขียว รถเก๋งที่จอดเลนซ้ายสุดจอดให้ข้าม แต่ขณะนั้นรถหกล้อที่อยู่เลนกลางกำลังออกตัวพอดี คาดว่ามองไม่เห็นเนื่องจากรถมีความสูง และยังมีรถเก๋งบังอยู่ จึงชนและทับร่างผู้ตายจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ต้องสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน หากเกิดจากความประมาทจะต้องแจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป