ระบบนำทาง GPS หรือแอปพลิเคชันนำทางชื่อดังอย่าง Google Maps ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของคนใช้รถใช้ถนนยุคนี้ แม้ส่วนใหญ่จะช่วยพาคุณไปถึงที่หมายได้ แต่ก็มีเช่นกันที่ระบบนำทางดังกล่าวเป็นต้นเหตุของความผิดพลาดจนทำไปสู่อุบัติเหตุ
ซึ่งนอกจากอุบัติเหตุจากการนำทางให้ผู้ที่ขับรถแล้ว แอปฯ ดัง ที่มีผู้ใช้งานทั่วโลกกว่า 2 พันล้านคน ยังเคยมีกรณีที่สร้างความเสียหายให้กับคนเดินเท้า รวมถึงสร้างความสูญเสียแก่บางครอบครัวในต่างประเทศมาแล้ว ดังข้อมูลที่เว็บไซต์ ranker.com รวบรวมเอาไว้
Google Maps พาข้ามถนน ก่อนถูกรถชน
ในเดือนมกราคม ปี 2009 ลอเรน โรเซนเบิร์ก สาวชาวอเมริกัน ใช้ Google Maps นำทางผ่านโทรศัพท์ BlackBerry ในการนำทางเดินเท้าในเขตรัฐยูทาห์ ทว่าแอปฯ พาเธอเดินเข้าไปบนเส้นทางหลวง 4 เลน จนถูกรถยนต์ที่สัญจรไปมาชนได้รับบาดเจ็บ และต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนานกว่า 1 ปี
ซึ่งหลังจากนั้นเธอได้ยื่นฟ้องกูเกิล รวมถึงคนขับรถที่ขับชนเธอ เพื่อเรียกค่าเสียหายรวมเป็นเงินมูลค่ากว่า 1 แสนเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 3.2 ล้านบาท อย่างไรก็ดี แม้แอปฯ จะนำทางเธอเดินไปสู่จุดที่อันตราย แต่ศาลตัดสินให้เธอแพ้คดี โดยมองว่าเธอไม่มีความระมัดระวัง และแอปฯ ก็มีคำเตือนเอาไว้ชัดเจนแล้ว
GPS นำทางขับรถตกหน้าผา
ชายหนุ่มในรัฐอินดีแอนา สหรัฐฯ ขับรถมาพร้อมกับภรรยาโดยใช้ GPS นำทาง ที่พาขับขึ้นไปบนสะพานร้างแห่งหนึ่ง ก่อนที่รถจะขับตรงตกสะพานร้างลงไปในหุบเขาด้านล่าง จนเป็นเหตุให้ภรรยาเสียชีวิต อย่างไรดี ตำรวจสืบสวนรายงานว่า ชายคนดังกล่าวละเลยป้ายสัญญาณที่มีการนำมากั้นปิดเส้นทาง และเชื่อ GPS เพียงอย่างเดียว จนเป็นเหตุให้เกิดเรื่องเศร้าในที่สุด
Google Maps ชี้พิกัดพลาด ทุบบ้านผิดหลัง
นอกจากจะใช้ประโยชน์ในการนำทางแล้ว Google Maps ยังมีประโยชน์ในเรื่องของพิกัดสิ่งก่อสร้างด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีในปี 2016 ที่รัฐเท็กซัส เจ้าหน้าที่ของบริษัทรับรื้อถอนสิ่งก่อสร้างแห่งหนึ่งดันปักใจเชื่อพิกัดจากแผนที่ภาพถ่ายดาวเทียมของ Google Maps เพียงอย่างเดียว โดยที่ไม่ได้สำรวจพื้นที่จริงก่อนลงมือ ทำให้ในที่สุดมีการรื้อถอนบ้านผิดหลัง
GPS พาซอกแซกนึกว่าแข่งแรลลี่
ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ในเมืองเอกซ์ตัน ประเทศอังกฤษ ชายหนุ่มรายหนึ่งต้องเข็ดกับการขับรถไปอีกนาน เนื่องจาก GPS พาขับซอกแซกไปตามถนนที่แคบแสนแคบ รวมถึงผ่านหน้าผาอันสูงชันกว่า 100 ฟุต รวมกับขับแข่งเส้นทางแรลลี่ จนทำให้ทางการต้องนำป้ายเตือน “อย่าเชื่อ GPS!” มาติดไว้ตลอดเส้นทาง และแนะนำให้ขับด้วยสามัญสำนึกของตัวเองแทนจะปลอดภัยกว่า
ขับเบนซ์ตาม GPS ลงแม่น้ำ
ในเดือนมีนาคม ปี 2007 หญิงสาววัย 28 ปี ใช้ระบบนำทาง GPS ที่ติดมากับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ SL500 ของเธอ ขับไปตามถนนสายหนึ่งที่มุ่งไปทางแม่น้ำ River Sence ในเมือง Leicestershire ประเทศอังกฤษ ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีฝนตก เธอขับรถตามระบบนำทางลงแม่น้ำ จนถูกกระแสน้ำพัดไปหลายร้อยฟุต โชคดีที่มีคนช่วยเธอออกมาได้ ขณะที่รถเบนซ์ถูกกู้ซากขึ้นมาได้ในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา
เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งจากอุบัตเหตุที่เกิดขึ้น ที่มีผลจากเทคโนโลยีระบบนำทาง อย่างไรก็ดี ทุกเหตุการณ์เป็นอุบัติเหตุที่ผู้ขับขี่หรือมนุษย์เองที่เป็นคนใช้เทคโนโลยี ควรจะระมัดระวังกับเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าให้มากกว่านี้ และไม่ควรปักใจเชื่อแอปฯ มากกว่าที่จะเชื่อตัวเอง
ผู้เขียน: ธันยเดช เกียรติศิริ