นิทรรศการใหม่ล่าสุด จัดขึ้นที่ Museo Enzo Ferrari ในโมเดนา รวบรวมเหล่ารถยนต์ Ferrari (แฟร์รารี) ที่สร้างขึ้นแบบ One-Off คันเดียวในโลกของ Gianni Agnelli รวมไปถึงรถที่เขาปรับแต่งอย่างพิถีพิถันเคียงข้างกับ Ferrari เข้าไว้ด้วยกัน คอลเลคชันหาชมยากนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นยาวนานมามากกว่า 50 ปี ระหว่าง 2 บุคคลที่มีพรสวรรค์ และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับที่สุดในศตวรรษที่ 20
“ Gianni Agnelli และ Ferrari-ความงดงามแห่งตำนาน” เป็นการแสดงความเคารพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากแบรนด์แห่งมาราเนลโล ไปยังชายผู้เริ่มต้นในฐานะลูกค้าที่หลงใหลในรถยนต์ Ferrari จนกลายมาเป็นเพื่อนสนิท และหุ้นส่วนในที่สุด เนื่องในวันเกิดครบรอบ 100 ปี ของเขาเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา เปิดให้ชมออนไลน์อย่างเป็นทางการผ่านเวบไซท์ และช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ของ Ferrari Museum ไปแล้วในวันเดียวกัน โดยระหว่างที่กำลังรอรัฐบาลอิตาลีอนุญาตให้เรากลับมาเปิดจัดแสดงได้อีกครั้ง ท่านสามารถรับชมแบบถ่ายทอดสดเสมือนจริง (Live Virtual) 2 รายการ/วัน (รายการละประมาณ 30 นาที) ได้ฟรี จนถึงวันที่ 1 เมษายน โดยจองล่วงหน้าได้จากเวบไซต์ของพิพิธภัณฑ์ที่ Ferrari.com/en-EN/museums
Gianni Agnelli เป็นผู้หลงใหลในม้าลำพองมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ ชายที่สุภาพเรียบร้อย และได้รับการยกย่องจากงานปรับแต่งรถเวอร์ชันพิเศษหลากหลายรุ่นของเขา Enzo Ferrari เห็นว่าทั้งความสามารถ, รสนิยมที่แสดงถึงความสง่างาม และความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขา ต่างก็ตรงกับการทำงานในพโรเจคท์พิเศษของโรงงาน และน่าจะเป็นทางเลือกที่นำไปสู่ความสำเร็จในภายภาคหน้าได้ ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของทั้งคู่ทำให้เกิดคอลเลคชันรถยนต์ที่งดงาม และมีเสน่ห์เย้ายวนใจอย่างไม่มีใครเทียบเคียงได้ขึ้นมาหลายรุ่น ซึ่ง Gianni Agnelli สามารถขับได้อย่างยอดเยี่ยมจนเกินบรรยาย
หนึ่งในรถเหล่านั้นก็คือ Ferrari 166 MM (แฟร์รารี 166 เอมเอม) อันสง่างาม Agnelli กลายเป็นที่สนใจเมื่อรถคันนี้ได้ไปจัดแสดงที่งาน Turin Motor Show ในปี 1948 จากการบัญญัติศัพท์ใหม่ให้แก่เส้นสายสุดโฉบเฉี่ยวของรถ คำว่า “Barchetta” (เรือลำเล็ก) ถูกนำมาใช้เรียกรถประเภทนี้เพื่ออธิบายถึงรูปโฉมแบบรถแข่งเปิดประทุนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา รถถูกปรับแต่งอย่างพิถีพิถันด้วยตัวถังสีเขียว และสีน้ำเงิน พร้อมห้องโดยสารที่ออกแบบขึ้นตามคำสั่งของลูกค้า 166 MM เป็นรถแบบ One-Off คันแรกของ Ferrari ที่ผลิตให้แก่ Agnelli
รถคันถัดมาที่ได้รับการปรับแต่งให้เข้ากับบุคลิกของลูกค้าสุดพิเศษคนนี้ คือ Ferrari 212 Inter (แฟร์รารี 212 อินเตอร์) ปี 1952 ซึ่งมีดีไซจ์นเปี่ยมไปด้วยรายละเอียด และมีสไตล์ที่ซับซ้อน จนกลายเป็นรถที่สร้างทเรนด์ใหม่ขึ้นมา สีทูโทน “ประจำตระกูล” อย่างสีน้ำเงิน 456 จับคู่กับหลังคาสีขาวแมกโนเลีย ขณะที่ไฟหน้าอันสง่างามทั้ง 2 ดวงถูกออกแบบขึ้นเพื่อให้ทัศนวิสัยที่ดีเพื่อการขับขี่ด้วยความเร็วสูงในยามค่ำคืน จึงขับได้สนุกไม่ต่างจากการขับในตอนกลางวัน
ต่อด้วยรุ่น 375 America (375 อเมริกา) ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และสวยงามเหนือกาลเวลา นี่เป็นรถคูเปที่สร้างขึ้นในปี 1955 โดย Ferrari รังสรรค์ขึ้นจากความร่วมมือของ Battista “Pininfarina” และถูกปรับแต่งใหม่ทันทีโดย Agnelli ด้วยการตกแต่งห้องโดยสารจนเปี่ยมไปด้วยรายละเอียดอันซับซ้อน และไม่มีใครเหมือน ซึ่งนั่นรวมถึงนาฬิกาที่สร้างขึ้นมาอย่างสวยงาม ซึ่งติดตั้งไว้บริเวณคอลโซลด้วย
ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่าง Agnelli และ Enzo Ferrari เกิดเป็นผลงานชิ้นเอกอีกคันในปี 1959 ในรูปแบบของ Ferrari 400 Superamerica (แฟร์รารี 400 ซูเพอร์ อเมริกา) โดยงานตัวถัง และติดตั้งเป็นฝีมือของ Pininfarina รถแบบ One-Off คันนี้นำไปจัดแสดงที่ MEF และสไตล์แบบ Grand Touring นี้ยังเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับ Ferrari อีกด้วย
รุ่น 365 P Speciale (365 พี สเปเชียล) ปี 1966 ที่มาพร้อมกับเส้นสายที่ได้รับแรงบัลดาลในการออกแบบมาจากโลกแห่งการแข่งรถ ก็ถูกนำมาจัดแสดงที่ MEF เช่นกัน Pininfarina ตีความรถต้นแบบ 3 ที่นั่ง (มีเบาะผู้ขับอยู่ตรงกลาง) ทั้ง 2 คันนี้ออกมาได้อย่างปราดเปรื่อง ส่วนรุ่นที่ Gianni Agnelli ว่าจ้างให้ผลิตขึ้นพิเศษ ก็มาพร้อมกับตัวถังสีเงินสุดหรูหรา ร่วมด้วยแถบเพรียวบางสีดำคาดยาวตลอดแนวข้างของรถ
ในปี 1984 Ferrari ได้เผยโฉมยนตรกรรมระดับตำนานรุ่น Testarossa (เทสตารอสซา) รถซึ่งไม่มีแผนที่จะทำเวอร์ชันเปิดประทุนออกมา อย่างไรก็ตาม ในอีก 2 ปีต่อมา Agnelli ได้ว่าจ้างให้สร้างเวอร์ชัน Spider (สไปเดอร์) ขึ้นจากรถรุ่นโด่งดังของ Pininfarina นี้ ด้วยรายละเอียดอันซับซ้อน อาทิ ฝากระโปรงท้ายดีไซจ์นใหม่ และสีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขา: หลังคาผ้าใบสีขาวแมกโนเลีย, ตัวถังสีเทา Nurburgring Grey และห้องโดยสารสีกรมท่า
รถสุดล้ำสมัยอีกรุ่นที่กลายเป็นหนึ่งในคันที่ต้องมีไว้ในคอลเลคชันของ Gianni Agnelli ก็คือ Ferrari F40 (แฟร์รารี เอฟ 40) ที่โด่งดัง Agnelli สั่งทำรุ่นพิเศษขึ้นในปี 1989 ด้วยเบาะที่หุ้มด้วยผ้าสีดำดูแปลกตา และชุดคลัทช์อีเลคทรอนิคของ Valeo
ในปี 2000 Agnelli ว่าจ้าง Pininfarina อีกครั้ง เพื่อรังสรรค์ที่สุดแห่งรถ Barchetta แบบ One-Off โดยครั้งนี้นำเอารุ่น 360 Spider (360 สไปเดอร์) มาเป็นคันตั้งต้นในการปรับเปลี่ยนสไตล์ เคลือบตัวถังด้วยสีเทาอ่อน Silver Grey จับคู่กับสีน้ำเงินที่ดูสูงค่า รถสุดพิเศษคันนี้สร้างขึ้นเพื่อมอบเป็นของขวัญแต่งงานให้แก่ Luca di Montezemolo ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นประธานของ Ferrari ในเวลาต่อมา
ปิดท้ายนิทรรศการด้วยรถแข่ง Formula 1 ปี 2003 ที่สุดแห่งการเดินทางของการแข่งรถ และเทคโนโลยีที่ไม่ธรรมดา Scuderia เปิดตัวรถแข่งรุ่นนี้เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2003 และอุทิศให้แก่ Gianni Agnelli ที่จากไปในวันที่ 24 มกราคม นี่เป็นการแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งจากชาว Ferrari ทุกคน เราจะจดจำคู่หู, ลูกค้า และมิตรแท้ผู้ละเอียดลออ, รอบคอบ และเป็นหัวใจสำคัญในการเดินทางอันยาวนานคนนี้ตลอดไป
John Elkann ประธาน Ferrari กล่าวว่า นิทรรศการที่เราจัดขึ้นนี้ บอกเล่าถึงการพบเจอที่แสนพิเศษ มันรวบรวมหลายแง่มุมเข้าไว้ด้วยกัน ในแง่หนึ่ง คือ ความน่าตื่นตาตื่นใจในรถสวยที่สุดในโลก นำมาซึ่งผู้คนที่หลงรักในการขับขี่ และในอีกแง่หนึ่ง คือ ความเคารพ และความหลงใหลอย่างแท้จริง ที่คุณปู่ของผมมีต่อรถแห่งมาราเนลโล ความหลงใหลที่ส่งให้เขาทำให้ Ferrari ทุกคันที่เขาเป็นเจ้าของมีความพิเศษ และเรามีความยินดีที่จะแบ่งปันให้กับทุกคนได้ชมกัน
Piero Ferrari รองประธานกรรมการ ระลึกถึงความภาคภูมิใจที่ผู้ประกอบการที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองได้ทิ้งเอาไว้ คุณพ่อของผมประทับใจในพลังแห่งความเฉียบแหลม และความสามารถทางธุรกิจของ Agnelli พวกเขาเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้ง และความสัมพันธ์นี้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นการร่วมงานกันในปี 1969 และกำเนิดเป็นหนึ่งในการร่วมมือกันที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกยานยนต์ ผมอยู่ในวันแห่งประวัติศาสตร์นั้น และเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้พบกับ Agnelli ผู้ถือหุ้นหลักของแบรนด์ Fiat (เฟียต) ตั้งแต่วันนั้น เรารู้สึกมั่นใจอย่างยิ่งว่า บริษัทของเราจะพัฒนา และเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
——————————
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/iTmYL
วันที่เผยแพร่ : วันอาทิตย์ ที่ 4 เมษายน 2564 เวลา 09:00 นาฬิกา